Close Menu
  • Home
  • Android
    • News
    • Tips
  • Apple
    • iPad
      • News
      • Tips
    • iPhone
      • News
      • Tips
  • WINDOWS
    • News
    • Tips
  • Gaming
    • Game Review
    • PlayStation
    • Nintendo
    • Xbox & PC
    • Mobile
  • Gadget Reviews
    • Accessories
    • Devices
  • Wearable
  • EV Car
  • Miscellaneous
    • News
    • Tips
  • Tips and Tricks
  • Video
  • Cooky Policies
  • ติดต่อโฆษณา
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
  • Home
  • Android
    • Tips & Tricks
  • Apple
    • Tips & Tricks
  • Windows
    • Tips & Tricks
  • Gaming
    • Game Review
    • In Spotlight
    • PlayStation
    • Xbox & PC
    • Nintendo
    • Mobile Games
  • Reviews
    • Mobiles & Tablets
    • Game Review
    • Accessories
  • EV Car
  • Miscellaneous
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
คุณกำลังอ่าน :Home » Apple » วิธีเปลี่ยน iPhone / iPad เก่าให้กลายเป็น Homebridge Server เพื่อใช้งาน Homekit กับอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ
Apple

วิธีเปลี่ยน iPhone / iPad เก่าให้กลายเป็น Homebridge Server เพื่อใช้งาน Homekit กับอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ

การใช้ iPhone หรือ iPad เป็นเซิร์ฟเวอร์ Homebridge สำหรับ HomeKit เป็นทางเลือกที่สะดวกในการเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ไม่รองรับ HomeKit เข้ากับระบบ HomeKit โดยไม่ต้องใช้ Raspberry Pi เพียงแค่ติดตั้งแอป Hub for Homekit บนอุปกรณ์ของคุณและตั้งค่าการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi คุณก็สามารถควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้อย่างง่ายดายผ่านแอป Home ของ Apple
28 เมษายน 2022Updated:9 มกราคม 20253 Mins Read
hub-for-homekit-cover

Homekit คือเฟรมเวิร์คบ้านอัจฉริยะของ Apple ที่จะทำให้อุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหลายในบ้านเราสามารถควบคุมและสั่งงานได้ผ่านทาวงแอพพลิเคชั่น “บ้าน” หรือ Home ที่มีอยู่บน iPhone, iPad และ Mac ทุกเครื่อง รวมไปจนถึงการสั่งงานผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri ด้วย ซึ่ง APPDISQUS เองเคยทำบทความอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้อย่างละเอียดแล้ว โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่

  • เริ่มต้นกับ Homekit และระบบ Smart Home ของ Apple ง่ายๆ กับ Smart Home Guide

แต่หากใครที่ไม่อยากอ่าน APPDISQUS เองก็เคยพูดถึงเรื่องนี้เอาไว้ในรายการ Smart Home Guide แบบละเอียดสุดๆ และสามารถทำความเข้าใจตามไปได้ง่ายๆ โดยเพื่อนๆ ที่สนใจ สามารถกดรับชมได้จากวิดีโอข้างล่างนี้เลยครับ

แต่ถ้าใครเคยติดตาม Smart Home Guide จะทราบว่าการจะเปลี่ยนอุปกรณ์อัตฉริยะในบ้านให้รองรับระบบ Homekit โดยการเลือกซื้ออุปกรณ์ที่รองรับ Homekit อย่างเป็นทางการนั้นเป็นอะไรที่มีค่าใช้จ่ายหนักมากจริงๆ แถมอุปกรณ์ที่รองรับ Homekit อย่างเป็นทางการในบ้านเรายังมีราคาสูงมาอีกด้วย เพราะเหตุนี้ทาง APPDISQUS จึงได้แนะนำวิธีการลดต้นทุนการเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะโดยการเปลี่ยนอุปกรณ์อัจฉริยะจากแบรนด์ที่ราคาไม่สูงทั้งหลายให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่รองรับ Homekit ด้วยการใช้ Homebridge เอาไว้ โดยได้แนะนำวิธีการติดตั้ง Homebridge Server บน Raspberry Pi และการใช้งาน Homebridge เอาไว้แบบละเอียดสุดๆ จนแทบจะเรียกว่าจับมือทำได้เลย ซึ่งหากเพื่อนๆ สนใจอ่านวิธีการก็สามารถศึกษาได้จากบทความนี้

Advertisement
Advertisement
Advertisement
  • วิธีการติดตั้ง Homebridge เพื่อใช้งานอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ Homekit กับแอพพลิเคชั่น Home

แน่นอนว่าใครที่ไม่ค่อยชอบการอ่าน แต่อยากได้วิดีโอจับมือสอนทำกันเลยนั้นก็สามารถเปิดดูและติดตามได้จากวิดีโอที่ลิงก์ไว้ให้ในบทความข้างต้นได้เลยครับ รับรองว่าละเอียดและทำตามได้ง่ายดายแบบสุดๆ แต่ถ้าใครยังรู้สึกว่าการติดตั้ง Homebridge Server บนอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยตัวเองตามบทความข้างต้นนั้นยังเป็นเรื่องยุ่งยาก โดยเฉพาะกับยุคนี้ที่บอร์ด Raspberry Pi หาได้ยากและมีราคาสูงแบบสุดๆ วันนี้ AppDisqus เองมีวิธีการใช้งาน Homebridge โดยใชเจ้า iPhone / iPad เก่าๆ ของเราเป็น Server มาฝากกัน โดยวิธีนี้ต้องเรียกว่าง่ายๆ สุดๆ แล้วเพราะแทบไม่จำเป็นต้องตั้งค่าอะไรเลย เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นบน App Store มาใช้งาน เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็จะมี Homebridge Server (แบบความสามารถจำกัด) ไว้ใช้เป็นตัวเชื่อมอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ Homekit ให้สามารถใช้งานกับแอพ Home ของ Apple ได้แล้ว

ในบทความนี้

  • สิ่งที่มีและข้อควรรู้ก่อนใช้งาน iPhone/iPad เป็น Homebridge Server
  • วิธีการใช้งาน Hub For Homekit เพื่อทำ iPhone/iPad ให้กลายเป็น Homebridge Server
  • ข้อควรระวังตัวเท่าบ้าน
  • ข้อดีและข้อเสียของการใช้ iPhone / iPad มาเป็น Homebridge Server

สิ่งที่มีและข้อควรรู้ก่อนใช้งาน iPhone/iPad เป็น Homebridge Server

  1. ต้องมี iPhone / iPad ที่ใช้งาน iOS13 ขึ้นไป เปิดหน้าจอและแอพพลิเคชั่น Hub for Homekit ทิ้งไว้ตลอดเวลา และอุปกรณ์ตัวนี้ต้องเชื่อมต่อ WiFi Network เดียวกับ Home Hub ของเราเสมอเพื่อการใช้งาน ห้ามย้ายออกไปนอกบ้านหรือเปลี่ยนวง WiFi ทำให้อุปกรณ์ iPhone/iPad ที่นำมาใช้งานนั้นต้องเป็นอุปกรณ์เก่าเหลือใช้จริงๆ ไม่สามารถเอาเครื่องที่ใช้งานในชีวิตประจำวันมาทำได้
  2. เซอร์วิสที่รองรับนั้นยังมีไม่ครอบคลุมเหมือน Homebridge ที่ติดตั้งเองบนอุปกรณ์อื่นๆ เช่น Raspberry Pi ซึ่งทางผู้พัฒนาแอพสามารถเพิ่ม/ลดเซอร์วิสเหล่านี้ได้ตลอดเวลา ทำให้ไม่สะดวกและควบคุมเองไม่ได้เหมือนการตั้ง Homebridge Server เอง โดยเซอร์วิสที่รองรับในปัจจุบันนั้นก็เช่น Nest, Wemo, Samsung TV, Neato, Meross, Bond, Yeelight, eWeLink และ Yale Sync Alarm เป็นต้น
hub-for-homekit-2
เซอร์วิสที่ Hub for Homekit รองรับ 1
hub-for-homekit-1
เซอร์วิสที่ Hub for Homekit รองรับ 2

วิธีการใช้งาน Hub For Homekit เพื่อทำ iPhone/iPad ให้กลายเป็น Homebridge Server

  • ดาวน์โหลด Application ที่ชื่อ Hub for Homekit จาก App Store ลงบน iPhone/iPad ที่ต้องการให้ทำหน้าที่เป็น Homebridge Server โดยต้องใช้งาน iOS13 ขึ้นไปเท่านั้น
hub-for-homekit-app
แอพพลิเคชั่น Hub For Homekit บน AppStore สำหรับการทำ iPhone/iPad ให้เป็น Homebridge Server
  • หลังจากติดตั้งแล้ว ให้เปิด Application ดังกล่าวขึ้นมา จากนั้นเลือกเมนู Integrations แล้วทำการผูกบัญชีต่างๆ ที่ต้องการเข้ากับแอพ และเลือก Enable This Integration ให้สังเกตว่าเมื่อย้อนกลับมาที่หน้าเมนู Integration สถานะของบริการที่เราเลือกจะขึ้นเป็น On ตามภาพตัวอย่าง
homekit-hub-integration-yeelight
หน้าเซ็ตอัพบริการ Yeelight
hub-for-homekit-integration-on
หน้าสถานะ Integration ของ Yeelight เป็น On
  • จากนั้นให้กลับมาที่หน้า Hub ตัวแอพพลิเคชั่นจะแจ้งให้เราทำการรีสตาร์ทตัว Application โดยวิธีการก็ให้ปิดแอพนี้ไปเลยด้วยการเคลียร์แอพ Hub ออกจากแท็ปหน้าจอ หากไม่ทราบว่าทำอย่างไร ลองอ่าน วิธีการควบคุม iPhone แบบละเอียด ที่ทาง AppDisqus เคยเขียนไว้แนะนำตอนสมัย iPhone X ออกจำหน่ายใหม่ๆ ได้เลย
hub-for-homekit-hub-menu
Hub For Homekit แจ้งเตือนให้ปิดและเปิดแอพใหม่หลังการตั้งค่า
hub-for-homekit-slide-menu
สไลด์เพื่อปิดแอพแล้วค่อยทำการเปิดแอพขึ้นมาใหม่
  • เปิดแอพพลิเคชั่น Hub for Homekit ขึ้นมาอีกครั้ง ในหน้า Hub จะมี QR Code ของฮับตัวนี้แสดงอยู่ ให้เปิดแอพ Home หรือ บ้าน อุปกรณ์ iOS อีกตัวที่ใช้งานประจำ (เช่น iPhone/iPad เครื่องหลัก) แล้วทำการเพิ่ม Hub ตัวนี้เข้าบ้านของเราตามวิธีปกติโดยการสแกน QR Code ที่ปรากฏ (กดตกลง/ยืนยัน ในทุกคำถาม)
hub-for-homekit-qr-code
QR Code สำหรับสแกนเข้าไปในแอพพลิเคชั่นบ้าน หรือ Home
  • อุปกรณ์ในบริการที่เราได้ตั้งค่าไว้ในแอพพลิเคชั่น Hub for Homekit จะปรากฏใรแอพบ้านของเราโดยอัตโนมัติ และหากเราต้องการเพิ่มอุปกรณ์ ก็เพียงทำตามขั้นตอนด้านบนนี้อีกครั้ง แต่ไม่จำเป็นต้องสแกน QR Code ใหม่แล้ว อุปกรณ์จากบริการใหม่ๆ ที่เราเพิ่มก็จะปรากฏขึ้นในแอพบ้าน หรือ Home ของเราอัตโนมัติทันทีที่เราปิดโปรแกรม Hub for Homekit แล้วเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

ข้อควรระวังตัวเท่าบ้าน

  1. ย้ำอีกครั้งว่า iPhone/iPad ที่เรานำมาติดตั้ง Hub for Homekit นั้นจะต้องเปิดเครื่อง เปิดหน้าจอ และเปิดแอพพลิเคชั่นนี้ไว้ตลอดเวลา รวมถึงต้องเชื่อมต่อกับ WiFi Network เดียวกันกับอุปกรณ์ Home Hub อย่าง Apple TV, Homepod หรือ iPad ของเราเท่านั้นนะครับ มิฉะนั้นจะใช้งานไม่ได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขทั่วไปของ Homekit เอง
  2. ย้ำอีกรอบว่าเราเพิ่มบริการใหม่ๆ เองไม่ได้ หากต้องการความยืดหยุ่น คำตอบที่ดีที่สุดคือการติดตั้ง Homebridge Server เองบนอุปกรณ์อื่น เช่น Rapsberry Pi ครับ แต่เท่าที่ดูผู้พัฒนาเองก็ทำการอัพเดตบริการและเวอร์ชั่นของ Homebridge อยู่เสมอครับ

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ iPhone / iPad มาเป็น Homebridge Server

ข้อดี ข้อเสีย
1. ง่ายมาก แค่ลงแอพก็พร้อมใช้งานเลย 1. ต้องมี iPhone/iPad หนึ่งตัวที่ใช้ iOS13 ขึ้นไป 
2. แอพพลิเคชั่นฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 2. ไม่มีความยืดหยุ่น เพิ่มบริการที่รองรับเองไม่ได้
3. ไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน 3. ไม่สามารถอัพเดตเวอร์ชั่นของ Homebridge ได้ด้วยตัวเอง 
  4. แอพพลิเคชั่นมีปิดตัวเองบ้างบางครั้ง อาจทำให้ใช้งานสะดุด

 

Advertisement
Homebridge How To Hub for Homekit
Google News YouTube
Share. Facebook Twitter LinkedIn Email Copy Link
Avatar photo
Alex
  • Website
  • Facebook
  • X (Twitter)
  • Instagram

อเล็กซ์ หรือ เอ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบเอามือถือหรือ iPad ข้างกายตนมาจับๆ จิ้มๆ ตามประสาคนมีงานแต่ชอบเล่นเกม คุณสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้กำลังใจเอได้เสมอผ่านทางการคอมเมนต์ในบทความนี้

Advertisement
Advertisement
Advertisement

Related Posts

Apple

NSA เตือนด่วน! ผู้ใช้ iPhone ต้องปิดการตั้งค่าเหล่านี้เพื่อป้องกันแฮกเกอร์

15 กุมภาพันธ์ 2025
6 ทริคส์ดีๆ แก้ไขปัญหาไมโครโฟนบน Android โดยไม่ต้องเอาเข้าศูนย์
Android

6 ทริคแก้ไมค์เสียบนแอนดรอยด์ ทำเองได้ใน 5 นาที ไม่ต้องเข้าศูนย์

21 มกราคม 2025
Your Updates

เคล็ดลับในการซื้อทีวีที่จะทำให้ได้สิ่งที่ถูกใจทั้งคุณภาพและราคา

22 มิถุนายน 2024
Miscellaneous

ควรพิจารณาอะไรดีก่อนตัดสินใจเลือกซื้อทีวีความละเอียดสูงสักเครื่องในยุคนี้

20 มิถุนายน 2024
วิธีการถ่าย Spatial Video สำหรับ Apple Vision Pro บน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
Apple

Apple Vision Pro กำลังมา มาดูวิธีถ่าย Spatial Video บน iPhone เพื่อใช้งานบน Vision Pro กัน

19 มกราคม 2024
Apple

วิธีสร้าง Shortcuts สำหรับสั่งการ Siri แบบโต้ตอบบน HomePod เป็นภาษาไทย

20 กันยายน 2023
What Score?
8.1
Devices

รีวิว iQOO Neo 10 เกิดมาเพื่อเกมเมอร์ สเปกแรง! จัดเต็มแม็กซ์ 7000mAh

By Noppinij5 มิถุนายน 2025283 Views
7.6
Devices

รีวิว realme C71 สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม บางเบา สวยงาม แบตอึดที่สุดในรุ่น

By Noppinij4 มิถุนายน 2025
8.4
Your Updates

รีวิวหัวชาร์จ CUKTECH AD1003 120W ชาร์จเร็วครบ! ทุกเรือธงแบรนด์จีน

By Noppinij14 พฤษภาคม 2025
48
Xbox & PC World

Review : Scarred เกมสยองขวัญจากสิงคโปรที่ยังขาดความน่ากลัว

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya6 พฤษภาคม 2025

On AppDisqus Channel

3 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดดูงาน Apple WWDC 2025 คืนวันจันทร์นี้

Follow Us
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • TikTok
Latest
Gaming

Sony ปลดล็อกภูมิภาค Steam สำหรับเกม PlayStation ที่พอร์ตลงแล้ว

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya14 มิถุนายน 2025

iOS 26 แปลภาษาสดได้ในสายสนทนา พร้อมทำงานได้แบบออฟไลน์

14 มิถุนายน 2025

iOS 26 ส่องฟีเจอร์ใหม่ที่ Android เคยมีมาก่อนแล้วหลายปี

14 มิถุนายน 2025

แท็บเล็ตเกมมิ่งรุ่นเล็ก Redmi K Pad โผล่บน Geekbench ใช้ชิป Dimensity 9400+ พร้อม Android 15

14 มิถุนายน 2025

ข้อมูล Nothing Phone 3 วันวางจำหน่าย ราคา สเปก และอื่นๆ

13 มิถุนายน 2025
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Gaming

Sony ปลดล็อกภูมิภาค Steam สำหรับเกม PlayStation ที่พอร์ตลงแล้ว

14 มิถุนายน 2025
Apple

iOS 26 แปลภาษาสดได้ในสายสนทนา พร้อมทำงานได้แบบออฟไลน์

14 มิถุนายน 2025
Android

iOS 26 ส่องฟีเจอร์ใหม่ที่ Android เคยมีมาก่อนแล้วหลายปี

14 มิถุนายน 2025
Android

แท็บเล็ตเกมมิ่งรุ่นเล็ก Redmi K Pad โผล่บน Geekbench ใช้ชิป Dimensity 9400+ พร้อม Android 15

14 มิถุนายน 2025
แอพดิสคัส
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube TikTok
  • Home
  • ติดต่อโฆษณา
  • Cookies Policy & Settings
© 2025 APPDISQUS.COM APPDISQUS : A Source You Can Trust.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าคุกกี้อนุญาตทั้งหมด
ตั้งค่าความยินยอม

Privacy Overview

AppDisqus.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานในขณะที่คุณกำลังอ่านและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยในบรรดาคุกกี้เหล่านี้ คุกกี้ประเภทข้อมูลที่จำเป็นนั้นจะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ใช้สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุกกี้เหล่านี้เป็นคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้บุคคลที่สามเพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น และจะจัดเก็บได้ก็ต่อเมื่อคุณได้การอนุญาต ทั้งนี้คุณสามารถจัดการกับการตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้เสมอผ่านทางเมนูการตั้งค่านี้

อย่างไรก็ตาม การปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณได้
ข้อมูลจำเป็น
Always Enabled
คุกกี้บางประเภทนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานเพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบฟังก์ชั่นกับผู้ใช้งานได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราคงเซ็สชั่นการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเอาไว้ ตลอดจนป้องกันสิ่งต่างๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้ประเภทนี้จะใช้เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่ระบบและคงสถานะการเข้าระบบของคุณบนเว็บเว็บไซต์เราเอาไว้ได้นั่นเอง
CookieDurationDescription
AWSALBCORS7 daysAmazon Web Services ใข้คุกกี้นี้เพื่อเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น load balancing หรือการกระจายโหลดเซิร์ฟเวอร์
cf_use_obpastCloudflare ใช้คุกกี้นี้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชม
cookielawinfo-checkbox-analytics11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ข้อมูลสถิติ"
cookielawinfo-checkbox-functional11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ฟังก์ชั่นการทำงาน"
cookielawinfo-checkbox-necessary11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "จำเป็น"
cookielawinfo-checkbox-others11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "อื่นๆ"
cookielawinfo-checkbox-performance11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ประสิทธิภาพ"
JSESSIONIDsessionคุกกี้ JSESSIONID ถูกใช้โดย New Relic เพื่อเป็นการเก็บไอดีจำเพราะในการเข้าใช้งานของผู้ใช้งานเพื่อให้ New Relic สามารถติดตามและตรวจนับเซ็ตชั่นการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้
viewed_cookie_policy11 monthsคุกกี้นี้ใช้เพื่อเป็นการเก็บความยินยอมในการอนุญาตให้จัดเก็บและใช้งานคุกกี้ของผู้ใช้งาน โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ใช้งานแม้แต่น้อย
ข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจไม่ได้จำเป็นที่สุดบนหน้าเว็บไซต์ AppDisqus.com ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นการฝังสื่อประเภทวิดีโอและปุ่มการแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อมูลประสิทธิภาพ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจในประสบการณ์การทำงานของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลสถิติ
คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลประเภทสถิติ เช่นตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลข UIP หรือผู้ใช้งานที่นับต่อ IP ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเข้าถึงบ่อยที่สุด ข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าถึง และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนชี้ให้เห็นว่าเราควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของผู้ใช้งาน
CookieDurationDescription
_ga_CE4TLMWX4S2 yearsคุกกี้ถูกติดตั้งโดย Google Analytics เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
_gid1 dayติดตั้งโดย Google Analytics โดย คุกกี้ _gid นี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ในการจัดทำสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย โดยข้อมูลที่เก็บนั้นยกตัวอย่างเช่นจำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่ผู้เข้าชมเปิดอ่านโดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าชม
ข้อมูลเพื่อการโฆษณา
คุกกี้ประเภทโฆษณาจะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่โฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการใช้งานในเว็บไซต์ AppDisqus เท่านั้นเพื่อการเผยแพร่โฆษณาได้อย่างตรงความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป
CookieDurationDescription
IDE1 year 24 daysคุกกี้จาก Google DoubleClick IDE นี้ติดตั้งโดย Google เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อกำหนดมาตรฐานในการเลือกโฆษณาที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงบนหน้าเว็บไซต์
test_cookie15 minutesคุกกี้นี้ถูกติดตั้งโดย Doubleclick.net (Google) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าบราวเซอร์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้งานอยู่รองรับคุกกี้หรือไม่
VISITOR_INFO1_LIVE5 months 27 daysคุกกี้นี้ถูกใช้งานโดย Youtube เพื่อตรวจสอบแบนด์วิดธ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเปิดดูวิดีโอ เพื่อเป็นการระบุเวอร์ชั่นของตัวเล่นวิดีโอว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเก่า
YSCsessionคุกกี้ YSC ถูกติดตั้งและใช้งานโดย Youtube โดยใช้เพื่อเป็นการดึงเอาข้อมูลวิดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาแสดงในหน้าที่ดึงเอาวิดีโอนั้นๆ มาแสดง
yt-remote-connected-devicesneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt-remote-device-idneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt.innertube::nextIdneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
yt.innertube::requestsneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
คุกกี้ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการระบุหมวดหมู่ประเภทเอาไว้ แต่อาจมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo