AI มาแน่! Google Gemini เตรียมปรับโฉมครั้งใหญ่ เขย่าวงการแชทบอท
ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึง AI กันให้แซ่ดไปหมดเลยใช่ไหมครับ? ไม่ว่าจะทำงาน เล่นเกม หรือแม้แต่หาข้อมูล AI ก็เข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งใน AI ตัวท็อปที่หลายคนรู้จักกันดีก็คือ Google Gemini นี่แหละครับ ที่ล่าสุดมีข่าวลือหนาหูว่าพี่ Google กำลังจะจับ Gemini มาแปลงโฉมครั้งใหญ่ ชนิดที่ว่าจากเดิมที่เคยเป็นแชทบอทธรรมดาๆ อาจจะเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้เลยทีเดียว!
Google Gemini เตรียมเปลี่ยนโฉมใหญ่: จากแชทบอทสู่ฟีดรูปภาพ!
ปกติแล้วเวลาเราใช้งาน Gemini เราก็จะคุ้นเคยกับการพิมพ์คำถามเข้าไป แล้ว AI ก็จะพิมพ์คำตอบโต้ตอบกลับมา เหมือนคุยกับเพื่อนในห้องแชทใช่ไหมครับ แต่งานนี้มีข่าวลือหลุดมาจาก TechCrunch (อ้างอิงท้ายบทนะ) ว่า Google กำลังทดลองอินเทอร์เฟซผู้ใช้ (UI) แบบใหม่ ที่จะเปลี่ยนหน้าตาของแอป Gemini ให้กลายเป็นเหมือน “ฟีด” ที่เลื่อนดูได้ เหมือนเราไถฟีดโซเชียลมีเดียเลยล่ะ!
แล้วไอ้เจ้าฟีดนี้มันไม่ธรรมดานะครับ มันจะมาพร้อมกับ “คำแนะนำ (Suggested Prompts)” หรือหัวข้อคำถามที่ AI เตรียมไว้ให้เราเลือกกดได้เลย แถมแต่ละหัวข้อก็จะมี “รูปภาพสวยๆ” มาประกอบด้วย เพื่อให้เราเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายขึ้น ดึงดูดสายตาให้อยากลองใช้มากขึ้นนั่นเองครับ
ส่วนตัวผมว่าไอเดียนี้เจ๋งเป้งเลยนะ! เพราะบางทีเราก็ไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับ AI ยังไงดี จะถามอะไรดี การมีรูปภาพสวยๆ กับ Prompt สำเร็จรูปมาให้เลือกเนี่ย มันช่วยลดความงง ลดกำแพงการใช้งานไปได้เยอะเลย แถมยังดูเป็นมิตรกับผู้ใช้กว่าเดิมมากๆ ด้วย
ท่าทีนี้มันก็อดคิดไม่ได้ว่า Google คงได้แรงบันดาลใจมาจากความสำเร็จของแอป AI ที่เน้นภาพมากๆ อย่าง OpenAI Sora ที่เพิ่งสร้างความฮือฮาด้วยการสร้างวิดีโอจากข้อความได้โคตรเนียนจนคนแห่ไปลองใช้กันเพียบ Google เลยอาจจะอยากทำให้ Gemini ดูน่าสนใจและเข้าถึงง่ายด้วยการเน้นภาพมากขึ้นบ้างล่ะมั้ง?
ทำไม Google ถึงต้องปรับใหญ่ขนาดนี้? เมื่อ AI ต้องสวยและใช้งานง่าย
ลองมาคิดกันดูเล่นๆ ว่าทำไม Google ถึงต้องลงทุนปรับปรุง Gemini ครั้งใหญ่ขนาดนี้? ผมว่ามันมีหลายเหตุผลเลยนะ:
- เข้าถึงง่ายกว่าเดิม: การเปลี่ยนจากหน้าจอแชทที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือมาเป็นฟีดรูปภาพที่ดูสนุกสนาน มันทำให้ AI ดูไม่ซับซ้อน ไม่ใช่เรื่องของคนไอทีจ๋าๆ อีกต่อไป ใครๆ ก็กล้าเล่น กล้าลองใช้มากขึ้นครับ
- ดึงดูดสายตาผู้ใช้: รูปภาพมันน่าสนใจกว่าตัวหนังสือธรรมดาอยู่แล้ว ยิ่งมี Prompt ที่ดีๆ มาพร้อมรูปสวยๆ มันก็ยิ่งกระตุ้นให้เราอยากเปิดแอป อยากลองใช้งานมากขึ้น ยิ่งคนที่ไม่เคยใช้ AI เลย ก็อาจจะเปิดใจมากขึ้น
- การแข่งขันในตลาด AI: ตลาด AI ดุเดือดมากๆ นะครับทุกวันนี้ ใครๆ ก็พยายามทำให้ AI ของตัวเองโดดเด่นและเป็นมิตรกับผู้ใช้มากที่สุด Google เองก็คงไม่อยากให้ Gemini ดูล้าสมัยไปกว่าคู่แข่งที่เริ่มเน้นเรื่องภาพและประสบการณ์ผู้ใช้มากขึ้น
พูดง่ายๆ คือมันเป็นเรื่องของ User Experience (UX) ล้วนๆ เลยนะ Google คงเห็นแล้วว่ายุคนี้คนชอบอะไรที่ดูง่าย กดง่าย ภาพสวย คือ AI มันฉลาดแล้ว แต่ถ้าหน้าตาไม่น่าใช้ คนก็ไม่อยากเล่นอะ
ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน AI ในไทยและเทรนด์ AI โลกที่กำลังมา
ถ้า Gemini ปรับเป็นแบบนี้จริง ผมเชื่อว่าผู้ใช้งานในไทยน่าจะชอบนะ เพราะคนไทยเราติดโซเชียลมีเดีย ชอบดูรูปภาพอะไรที่สวยๆ งามๆ อยู่แล้ว และมันจะช่วยลดกำแพงการเข้าถึง AI ลงไปได้เยอะเลย
- สำหรับคนทั่วไป: คนที่ไม่เคยใช้ AI อาจจะกล้าลองมากขึ้น ไม่รู้สึกว่า AI เป็นเรื่องไกลตัว หรือยากเกินไป
- สำหรับนักสร้างคอนเทนต์/ธุรกิจ: นักสร้างคอนเทนต์ หรือคนทำธุรกิจขนาดเล็ก อาจจะเอา Gemini โฉมใหม่ไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น เช่น ให้ AI ช่วยสร้างไอเดียหรือภาพประกอบเบื้องต้นสำหรับโพสต์โซเชียลมีเดียต่างๆ
ในแง่ของเทรนด์ AI โลก นี่คือสิ่งที่กำลังมาแรงมากๆ คือ “Multimodal AI” หรือ AI ที่สามารถประมวลผลและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่ข้อความ แต่รวมถึงรูปภาพ เสียง และวิดีโอด้วย การที่ Gemini เน้นภาพมากขึ้นก็เป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์นี้แหละครับ AI จะไม่ได้แค่ตอบคำถาม แต่จะเป็นผู้ช่วยสร้างสรรค์ที่ทำงานร่วมกับเราได้ดีขึ้น และความสวยงามกับความง่ายในการใช้งานจะสำคัญพอๆ กับความฉลาดของ AI เลยทีเดียว
นี่แหละคืออนาคตของ AI ที่ทุกคนจะเข้าถึงได้จริงๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่ม geek หรือนักพัฒนา มันจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราเหมือนการเล่นโซเชียลมีเดียเลยนะ
สรุปและมุมมองส่วนตัว: AI จะเป็นมิตรกับคนมากขึ้นไหม?
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ของ Google Gemini แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า AI กำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่เน้น “ประสบการณ์ผู้ใช้” มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่เรื่องความฉลาดในการตอบคำถามอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงความง่ายในการใช้งาน ความน่าดึงดูดใจ และการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่หลากหลายและเข้าใจง่ายด้วย
บอกเลยว่าตื่นเต้นกับทิศทางนี้มาก! ถ้า Gemini มาพร้อมกับ UI แบบใหม่ที่สวยงาม ใช้งานง่าย และมี Prompt เจ๋งๆ ให้เลือก มันจะช่วยลดกำแพงการเข้าถึง AI ลงไปได้เยอะเลย ทำให้คนทั่วไปกล้าลอง กล้าเล่น และใช้ประโยชน์จาก AI ได้มากขึ้นจริงๆ ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปว่า AI จะยากหรือซับซ้อน มารอดูกันว่า Google จะปล่อยฟีเจอร์นี้ออกมาเมื่อไหร่ และจะปังแค่ไหน!
ที่มา: TechCrunch