เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Samsung Galaxy S25 FE รุ่นใหม่ในตระกูล Galaxy S Series ที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็น “แฟล็กชิปในราคาที่เข้าถึงได้” จุดที่น่าสนใจคือการนำเอาฟีเจอร์จากรุ่นใหญ่ในตระกูล S มาย่อส่วนใส่ไว้ ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพ การถ่ายภาพ และดีไซน์ที่ยังคงพรีเมียมเหมือนเดิม พร้อมการการันตีอัปเดทระบบให้นาน 7 ปี มาตรฐานเดียวกับตัวเรือธงของแบรนด์นั้นเองครับ
หลังจากได้ลองจับเครื่องจริง ความรู้สึกแรกคือความเบาลงอย่างชัดเจน ตัวเครื่องน้ำหนักเพียง 190 กรัม ซึ่งลดลงจากรุ่นก่อนหน้า Galaxy S24 FE ที่หนัก 213 กรัม เวลาใช้งานมือเดียวจึงรู้สึกคล่องมือมากขึ้น ขอบเครื่องและการเก็บงานยังคงความแน่นหนา ไม่ให้ความรู้สึก “รุ่นเล็ก” แต่อย่างใด
ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Jet Black, White, Icyblue และสีที่ดูเป็นสีไฮไลค์อย่าง Navy
ในบทความนี้
ดีไซน์และหน้าจอ
Galaxy S25 FE ดีไซน์ยังคงคอนเซปต์แบบพรีเมียมเรียบหรู หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้พาเนล Dynamic AMOLED 2X รองรับรีเฟรชเรต 120Hz การแสดงผลสด คม และลื่นไหล เวลาเลื่อนจอหรือดูคอนเทนต์รู้สึกต่างจากรุ่นกลางทั่วไปทันที
กล้องที่ปรับสมดุลใหม่
ด้านหลังมาพร้อมกล้อง 3 ตัว
-
Ultrawide 12MP
-
Wide 50MP
-
Telephoto 8MP
และกล้องหน้า 12MP
สิ่งที่ Samsung ชูคือประสบการณ์กล้องระดับแฟล็กชิป นำ AI Generation Edit เข้ามาช่วยปรับแต่งภาพ รวมถึงโหมดกลางคืนที่ทำงานได้ดีขึ้นจากการประมวลผล AI เสริม ทำให้ภาพถ่ายที่ลองจับถ่ายในพื้นที่แสงน้อยยังคงเก็บรายละเอียดได้ดี
ประสิทธิภาพและการใช้งาน
Galaxy S25 FE ใช้ ชิป Exynos 2400 แบบ 10 คอร์ พร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ใหญ่ขึ้นถึง 9% เมื่อเทียบกับ S24 FE และใกล้เคียงกับรุ่นใหญ่ S24 Ultra เรื่องความร้อนระหว่างลองใช้งานสั้น ๆ แทบไม่รู้สึกชัดเจน
หน่วยความจำมีให้เลือก 2 รุ่น
-
8GB + 128GB
-
8GB + 256GB
ด้านแบตเตอรี่ ความจุ 4,900mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W และการชาร์จไร้สายความเร็วสูง ถือว่าเป็นสเปกที่สมดุลสำหรับการใช้งานจริงได้ต่อเนื่องทั้งวัน
Galaxy AI และการอัปเดตระยะยาว
จุดแข็งที่ถูกนำมาต่อยอดคือ Galaxy AI ที่จัดเต็มตามมาตรฐานเดียวกับรุ่นใหญ่ในตระกูล S Series ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสฟีเจอร์อัจฉริยะด้านการถ่ายภาพ การแปลภาษา และการช่วยงานต่าง ๆ บนเครื่องได้ครบถ้วน นอกจากนี้ Samsung ยังการันตีการอัปเดตระบบปฏิบัติการและความปลอดภัยนานถึง 7 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่าตัวเครื่องจะยังทันสมัยและปลอดภัยยาวนาน
ความรู้สึกหลังได้ลอง
สิ่งที่น่าประทับใจคือความสมดุลของ Galaxy S25 FE ตัวเครื่องไม่หนักจนเกินไป พกพาสะดวก แต่ยังได้จอใหญ่และการแสดงผลระดับสูง กล้องที่ให้คุณภาพดีกว่ารุ่นกลางทั่วไป และชิปประมวลผลที่รองรับการใช้งานจริงได้ลื่นไหล
แม้จะไม่ได้ใส่ทุกอย่างมาเต็มเหมือนรุ่น Ultra แต่ก็ยังให้บรรยากาศการใช้งานที่ “เหมือนถือเครื่องระดับแฟล็กชิป” ในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า
สรุปสั้น ๆ หลังจับจริง
Galaxy S25 FE เป็นสมาร์ตโฟนที่นำประสบการณ์ของ S Series รุ่นใหญ่ มาย่อส่วนให้อยู่ในเครื่องที่เบา ใช้งานสะดวก พร้อมจอ AMOLED 120Hz, กล้อง 50MP เสริมด้วย AI, กล้อง Telephoto 8MP, แบต 4,900mAh ชาร์จเร็ว 45W และชิป Exynos 2400 ที่สำคัญยังได้ Galaxy AI ครบถ้วน และการันตีอัปเดตนานถึง 7 ปี ซึ่งทำให้รุ่นนี้โดดเด่นในตลาดสมาร์ตโฟนแฟล็กชิปที่ราคาจับต้องได้
Samsung Galaxy S25 FE จะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 5 กันยายน 2568 พร้อมสิทธิ์ใช้งาน Google AI Pro ฟรีเป็นเวลา 6 เดือน
มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สี Navy, สี Jatblack, สี White และสี Icyblue ในราคา
- Galaxy S25 FE รุ่น RAM 8GB+ 128GB ราคา 22,900 บาท
- Galaxy S25 FE รุ่น RAM 8GB + 256GB ราคา 25,900 บาท