แรกเริ่มนั้น Techland วางแผนให้ The Beast เป็นเพียง DLC เรื่องราวเสริมของ Dying Light 2 Stay Human เท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป โปรเจกต์นี้ก็ขยายตัวกลายเป็นเกมภาคใหม่เต็มรูปแบบในชื่อ Dying Light: The Beast การกลับมาของ Crane ตัวเอกจากภาคแรกถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ และสร้างความคาดหวังมหาศาลจากแฟน ๆ โดยเฉพาะเมื่อเกมนี้ถูกตั้งใจให้มีขนาดเล็กกว่าภาคหลัก
Tymon Smektala ผู้กำกับแฟรนไชส์ ให้สัมภาษณ์กับ GamesRadar ว่า “มันยากมากที่จะควบคุมความทะเยอทะยานของทีมเอาไว้ และแม้จะไม่สามารถทำให้ทุกด้านของเกมออกมาสมบูรณ์แบบได้ แต่ก็มีบางจุดที่คุณ ต้องทำให้เพอร์เฟ็กต์”
Smektala กล่าวว่าจุดเหล่านั้นคือสิ่งที่ “สร้างตัวตนของเกมขึ้นมา” และสำหรับ Dying Light แล้ว จุดเด่นสำคัญก็คือ “parkour และการต่อสู้ระยะประชิด“เราลงรายละเอียดมหาศาลกับการปรับแต่งปฏิกิริยาของซอมบี้ เมื่อมันถูกโจมตี เราให้ความสำคัญว่าอาวุธแต่ละชนิดส่งผลกับมันต่างกันอย่างไร จุดนี้หลายคนอาจมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ Dying Light พิเศษ”
นอกจากนี้ Smektala ยังเสริมอีกว่าการ “ถ่ายทอดตัวเอกหลัก ของเกมก็เป็นอีกสิ่งที่พลาดไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะถ้าทำพังขึ้นมา แฟน ๆ ของเราคงเอาเรื่องแน่ โดยเฉพาะใน The Beast ที่เนื้อเรื่องเล่าถึง Crane ซึ่งกลับมาเพื่อล้างแค้น Baron หลังถูกจับตัวและถูกทดลองมานานหลายปี สุดท้าย Smektala กล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่เราต้องโฟกัสให้มากที่สุดคือ แกนหลักของเกมเพลย์ ระบบสำคัญที่ทำให้เกมเราโดดเด่น”
Dying Light: The Beast มีกำหนดวางขาย 22 สิงหาคมนี้ บน Xbox Series X/S, PS5 และ PC ส่วนเวอร์ชัน Xbox One และ PS4 จะวางขายตามมาภายหลังในปีนี้