Review : Death Stranding 2 เข้าใจง่ายขึ้น แต่ยังเก็บหัวใจเดิมไว้อย่างครบถ้วน

หนึ่งในเกมที่มีผู้คนรอคอยกันมากที่สุดในปีนี้ Death Stranding 2 เกมภาคต่อจากผลงานสุดอาร์ทในคาบเกมส่งตรงจากมือของ Hideo Kochima ผู้กำกับเกมอันโด่งดัง ขนทัพนักแสดงมาโมชั่นแคบเพื่อเพิ่มความเป็นหนัง และ อรรถรสให้กับเกม ตัวเกมภาคแรกได้เสียงตอบรับอย่างดีทั้งในเรื่องของตัวเกม หรือเนื้อเรื่อง และ ในภาคสองนี้จะยังคงเสน่ห์แรกเอาไว้ได้อยู่ไหม? เราไปดูกันเลย!

เนื้อเรื่อง นุ่ม ลึก ระดับ AAAA

ในภาคนี้เราจะได้ดำเนินเนื้อเรื่องต่อจากภาคที่แล้ว หลังผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาเวลาก็ผ่านไปน้องลูของเราก็ได้โตขึ้น เป็นเด็กน้อยเต็มตัวพระเอกแซมก็ต้องรับบทคุณพ่อคอยดูแลลูก และ ปลีกตัวออกห่างจากงานส่งของ เรียกว่าแนวตัวเอกวางมือประมาณนั้นก็ได้ แต่แน่นอนว่าท่าได้วางมือก็คงจะไม่มีภาคต่อ

หลังจากที่อเมริกาได้เชื่อมต่อกันแล้วตอนนี้ก็ถึงคราวประเทศอื่นบ้าง พระเอกจะได้เดินทางไปยัง Maxico ที่ดูเหมือนจะลำบากกว่าอเมริกาอีก เพราะเต็มไปด้วย BT และปรากฏการณ์ลึกลับมากมายที่อาจมีเบื้องลึกเบื้องหลังกว่าที่เราคิด เราจะได้เจอตัวละครคุ้นหน้า และ พันธมิตรใหม่ๆในระหว่างทาง

เนื้อเรื่องในภาคนี้จะเล่าเหมือนกับภาคแรก คือมีการเล่าแบบตรงไปตรงมา แต่ก็ทิ้งปริศนาไว้ให้เราได้ไปค้นหาเอาเองจากการสำรวจ ทำเควส หรือประติดประต่อเรื่องราวแทน แต่ละภารกิจที่เราไปก็ไม่ได้มีเนื้อเรื่องแค่ไปเอาไอนู้นไอนีไอนั่นมาให้หน่อย ตัวละครแต่ละตัวจะมีสิ่งที่ต้องการ และ เป้าหมายของพวกเขาอยู่ ทำให้ แต่ละเชลเตอร์ แต่ละภารกิจมีส่วนที่น่าติดตามของมัน

ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นภาคแรกก็ไม่เป็นไร อย่างผมที่เล่นภาคแรกไม่จบก็ยังเข้าใจเนื้อเรื่องได้เพราะมีรีแคบเอาไว้สำหรับใครที่ลืม หรือใครที่ไม่เคยเล่นรีแคบครบตัวละคร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้อารมณ์เหมือนนั่งอ่าน Visual Novel

เพราะงั้นใครซื้อมาเพราะเนื้อเรื่องก็ไว้ใจได้เลยไม่ทำให้ผิดหวังแน่ ไม่ว่าจะอยากดูความสัมพันธ์หลังจบเรื่องราวทั้งหมด หรือ อยากจะเห็นเนื้อเรื่องใหม่ๆ เราก็จะได้เห็นแน่นอน ไม่แปลกที่เกมระดับ AAA จะมีการเล่าเรื่องที่เหมือนกับหนัง แต่ Death Stranding 2 ไม่ได้หมดดีแค่การเล่าเรื่อง หรือเนื้อเรื่องลึกล้ำเท่านั้น แต่ก็ยังมีการเล่นกับอารมณ์ที่สุดยอดทำให้เราทั้งกดดัน เศร้า มีความสุข ได้ง่ายๆ

เกมเพลย์ยังคงเดิม แต่กระฉับขึ้น ของเล่นเยอะขึ้น

Death Stranding 2 ยังคงนำเสนอเกมเพลย์แบบเดิม คือการเดินส่งของให้ถึงจุดหมายโดยที่สินค้าจะต้องได้รับความเสียหายน้อยที่สุดเพราะงั้น อุปสรรคสำคัญของเราก็คงไม่พ้นพื้นที่ และ สภาพอากาศ เราจะต้องกำหนดเส้นทางให้ดีคำนวนความเสี่ยงว่าเราจะผ่านตรงนั้นๆไปได้โดยที่สินค้าไม่เสียหายไหม

เพราะงั้นเกมเพลย์ส่วนใหญ่ของ Death Stranding 2 จะอยู่ที่การบริหารจัดการ และ แก้ปัญหาตรงหน้า เราจะเดินไปทางไหน เราจะเสี่ยงขึ้นภูเขา หรือ เสี่ยงเดินลุยค่ายโจร หรือจะลุยน้ำ เราต้องเตรียมของไปเท่าไหร่ตัวหนักไปไหมสายวางแผนน่าจะชอบกันไม่อยาก

มาในภาคนี้เราจะมีของไอเท็มอาวุธที่เราจะได้ตอนท้ายเกมภาคที่แล้วมาตั้งแต่ต้นเกม ทำให้เราไม่ต้องมาไล่เก็บใหม่หมด แน่นอนว่ามาในภาคใหม่ก็จะมาพร้อมอาวุธใหม่ๆด้วย และ อาวุธใหม่มาพร้อมกับศัตรูใหม่ด้วยเช่นกัน แล้วบอกเลยว่าศัตรูใหม่ๆ สู้ยากมาก

และ ระบบออนไลน์แบบไม่เห็นตัวกันสุดแปลกของภาคแรกก็ตามมาภาคนี้ด้วยเหมือนกันซึ่งมันช่วยให้โลกอันกว้างขวางที่เราไม่ค่อยได้พบเจอผู้คนเพื่อปฏิสัมพันธ์ รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น การที่เราเดินไปเจอป้ายของผู้เล่นคนอื่นมันก็ทำให้หายเหงาได้แบบบอกไม่ถูก

ทำให้ในภาคนี้เกมเพลย์จะกระฉับมากขึ้น แต่ก็หนักแน่นมากขึ้นจากภาคที่แล้ว อารมณ์เมื่อตอนเล่นก็จะรู้สึกเหมือนได้เล่นเกมเดิม แต่ก็มีกลิ่นอายใหม่ๆให้เราได้รู้สึกตลอดเวลา โดยเฉพาะกับศัตรูใหม่ๆ ที่ทำให้เราต้องปรับตัวตามผมเชื่อว่าแฟนภาคแรกจะไม่ผิดหวังกับเกมเพลย์ของภาค 2 แน่นอน

งานภาพและการออกแบบ

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เกมระดับ AAA จะมีภาพสวยตระกาลตา Death Stranding 2 เองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นแม้จะไม่ค่อยจะมีฉากที่เอฟเฟคตระกาลตาแบบแฟนตาซี หรือระเบิดตู้ต้ามโชว์เอฟเฟคไฟกระจาย แต่สิ่งที่ Death Stranding 2 ดูจะเน้นมากที่สุดคือการที่รังสรรค์ธรรมชาติให้ออกมาดูสวยงามที่สุดเท่าที่จะทำได้

แถมเขาก็ทำได้จริง ต้นไม้ใบหญ้า ทะเลทราย หุบเขา ถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีต การเชื่อมต่อกันของไบโอมเศษซากของเมืองก็ยังทำออกมาดี ไม่ค่อยต่างจากภาคแรกเท่าไหร่นักในเรื่องภาพ แน่นอนว่ามันก็สวยขึ้น แต่พวกโมเดลตัวละครต่างๆมันก็ทำดีมาตั้งแต่แรกแล้วทำให้ไม่ค่อยมีอะไรให้พูดถึงนัก

ส่วนงานศิลยังคงอยู่ระดับท็อปของท็อปโดนเฉพาะดีไซน์ของ BT และ The Beach ที่ทำออกมาได้ทั้งน่ากลัว ทั้งเท่ดูลึกลับน่าค้นหามาก ศัตรูใหม่ก็เท่ และ มีความน่ากลัวในแบบของตัวเองอยู่แต่โดยรวมเรื่องภาพเพราะภาคแรกทำไว้ดีอยู่แล้ว ทำให้ภาคนี้อาจไม่ได้ดูก้าวกระโดดเท่าไหร่นัก

สรุป

Death Stranding 2 ยังงคเป็นเกมระดับ AAA ที่เต็มไปด้วยศิลปะ ทั้งเพลง งานศิล เนื้อเรื่องที่ลึก และ หนักถูกใจสายชอบเสพเนื้อเรื่อง การแสดงของนักแสดงก็สามารถดึงอารมณ์ของผู้เล่นให้ถูกสะกดอยู่กับคัตซีน ดึงอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างเต็มที่ แม้เกมเพลย์ดูจะพยายามทำให้กระฉับมากขึ้นเพำื่อเข้าถึงผู้เล่นใหม่ แต่เชื่อว่าใครที่ไม่ชอบเกมแนวนี้ ( แอคชั่นน้อยๆเน้นเสพบรรยากาศ ) จะสามารถเปิดใจกับภาคนี้ได้มากกว่าภาคที่แล้วในระดับนึงเลย