ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วครับสำหรับการปะทะกันระหว่างสมาร์ทโฟนจากค่ายต่างๆที่ออกมาโลดแล่นกันในตลาดตอนนี้ จากที่เราจะสังเกตุเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นนั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปในหลายๆด้าน ซึ่งฟีเจอร์หนึ่งที่เชื่อว่ามีผู้ใช้หลายๆคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากคงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน
และแน่นอนครับว่าหลังจากที่ทุกท่านได้อ่านบทความด้านล่างนี้ไปแล้ว น่าจะทำให้เข้าใจได้เลยว่าประสิทธิภาพการทำงานของกล้องในสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นที่นำมาทดสอบกันนี้จะถูกอกถูกใจแต่ละคนมากน้อยแค่ไหน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันเลยครับ สำหรับการปะทะกันระหว่าง Apple iPhone 6s Plus ปะทะ Huawei Nexus 6P ปะทะ Microsoft Lumia 950 ปะทะ Samsung Galaxy S7
[section label=”ทำไมต้อง 4 รุ่นนี้?” anchor=”why-these-four”]ทำไมต้องเป็น 4 รุ่นนี้?
หากพูดถึงสมาร์ทโฟนทางฝั่ง iOS แล้ว ยังไงก็คงจะต้องเป็น iPhone 6s Plus ถึงแม้ว่ามันจะมีเซนเซอร์และเลนส์แบบเดียวกับ iPhone 6s ก็ตาม แต่เจ้า iPhone 6s Plus มันกลับมาพร้อมระบบป้องกันการสั่นไหว OIS (optical image stabilization) ที่จะช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับการถ่ายภาพและวิดีโอให้ดีขึ้น
เมื่อมาถึงทางฝั่ง Android อันที่จริงแล้วมีสมาร์ทโฟนให้เลือกนำมาทดสอบอยู่มากมายเลยทีเดียวครับ แต่เราตัดสินใจเลือก Huawei Nexus 6P ทั้งที่จริงๆมันก็มีเซนเซอร์และเลนส์ตัวเดียวกับ LG Nexus 5X แต่ทว่ามันมาพร้อมกับ Processor ที่ทำงานได้ดีกว่าและมีระบบป้องกันการสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic image stabilization)ในกระบวนการทำงานด้วย
แล้ว Galaxy S7 ล่ะ…? เหตุผลง่ายๆเลยที่เรือธงตัวนี้ถูกนำเข้ามาทดสอบในครั้งนี้ก็คือ มันเป็นผู้สืบทอดสายเลือดของแชมป์เก่าอย่าง Galaxy S6 จากการทดสอบแบบเดียวกันครั้งก่อนหน้านี้ครับ โดยใน Galaxy S7 นั้นถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการถ่ายภาพมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นรูรับแสงที่กว้างขึ้นและเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นที่เข้ามาทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้ดีขึ้นออย่างมาก แล้วทำไมถึงไม่ใช้ Galaxy S7 edge…? ตอบง่ายๆเลยครับว่ามันไม่มีความแตกต่างกันในส่วนของกล้องนั่นเองครับ
มาถึงตัวสุดท้าย Microsoft Lumia 950 เรือธงในตระกูล Lumia ที่มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 20MP และรูรับแสง ƒ/1.9 พร้อมทั้งมี OIS มาด้วย และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากสมาร์ทโฟนค่ายอื่นๆนั่นก็คือ มันมีปุ่มเฉพาะในการเปิดกล้อง ดังนั้นมันจึงทำงานได้เร็วและง่ายกว่าสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นๆในที่นี้ และเหตุผลที่เป็น Lumia 950 ก็เช่นเดียวกับ Galaxy S7 เลยครับ เพราะในเซนเซอร์และเลนส์ไม่แตกต่างไปจาก Lumia 950 XL
หากใครที่กำลังมองหา LG G5 ในการทดสอบครั้งนี้ ขอไว้เป็นครั้งหน้าดีกว่าครับ เพราะถึงแม้มันจะเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ตอนนี้มันยังไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หากเรานำ LG G4 มาเทียบกับสมาร์ทโฟนข้างต้นนี้ก็ดูจะไม่แฟร์กับทาง LG สักเท่าไรนั่นเองครับ
[section label=”จะถ่ายแบบไหน?” anchor=”how-to-take”]
แล้ว…เราจะถ่ายกันแบบไหนล่ะ?
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเราได้พกพาสมาร์ทโฟนท้้ง 4 เครื่องนี้ ออกตระเวนไปในสถานที่ต่างๆมากมายเพื่อที่จะทำการทดสอบการถ่ายภาพในหลายๆแบบ ซึ่งการทดสอบของเรานั้นบอกไว้ก่อนว่าเราจะถ่ายด้วยโหมด Auto รวมทั้ง HDR Auto ทั้งหมดครับ นอกจากนี้ทุกๆภาพจะเป็นการถ่ายโดยใช้มือเท่านั้น ไม่มีการใช้ขาตั้งเข้ามาช่วยแต่อย่างใด อีกทั้งภาพที่ได้ออกมาจะไม่มีการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นแต่การปรับขนาดของภาพก่อนที่จะอัพโหลดเท่านั้น
ทางเทคนิค… ใช่แล้วครับที่ Galaxy S7 และ Lumia 950 นั้นมาพร้อมกับออพชั่นที่ทำให้เราสามารถถ่ายแบบ Manual ออกมาเป็นไฟล์ RAW ได้ ซึ่งแน่นอนว่ามันนำมาใช้ในการปรับแต่งภาพได้ดีกว่าไฟล์ JPGs แต่ในความเป็นจริงแล้วคนส่วนมากคงจะไม่เลือกใช้วิธีการนี้แน่ๆเพราะมันค่อนข้างจะยุ่งยาก เราจึงเลือกที่จะทดสอบในแบบที่คนธรรมดาน่าจะทำกัน โดยการถ่ายในโหมด Auto ในทุกๆเครื่องที่เรานำมาทดสอบนั่นเอง
พูดกันตรงๆ… สำหรับใครที่ต้องการปรับแต่งออพชั่นในการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็น White Balance รวมไปถึง Shutter Speed กล้องในสมาร์ทโฟนอาจไม่สามารถเทียบเท่าได้เลยครับกับกล้องจริงๆ (DSLR) ดังนั้นหากใครที่ต้องการภาพที่สวยงามแบบขั้นสุดล่ะก็ การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนนั้นอาจไม่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน เพราะอย่างไรก็ตามเซนเซอร์และเลนส์คงไม่ดีเท่ากับกล้อง DSLR เป็นแน่
และบอกกันไว้ตรงนี้ว่าเราไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ รวมทั้งเราไม่ได้นำเสนอบทความนี้สำหรับช่างภาพมืออาชีพครับ สิ่งที่เราต้องการนำเสนอตรงจุดนี้เราแค่อยากแนะนำสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้ออกมาดูดีที่สุดด้วยโหมด Auto เท่านั้น
[section label=”สเป็กแต่ละรุ่น” anchor=”specs”]
ข้อมูลสเปคของกล้องแต่ละรุ่น
ไปดูสเปคกันก่อนดีกว่าครับ ก่อนที่เราจะลงลึกไปในส่วนของการทดสอบ
แล้วตัวเลขด้านบนนี้มีความหมายอย่างไรบ้าง….. ?
MP นั้นเป็นตัวย่อมาจากคำเต็มๆว่า Megapixels (เมก้าพิกเซล) โดย 1 MP = 1 ล้านพิกเซล ยกตัวอย่าง Lumia 950 มีกล้องความละเอียด 20MP ก็หมายความว่า กล้องของ Lumia 950 มีความละเอียด 20 ล้านพิกเซลนั่นเองครับ
ยิ่งกล้องมีจำนวนพิกเซลสูงเท่าไรก็ยิ่งทำให้ภาพที่ได้ออกมามีความละเอียดมากขึ้นเท่านั้น แต่ตัวเลขของพิกเซลนั้นก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ชี้วัดว่าภาพที่ออกมานั้นจะมีคุณภาพทีดีเสมอไปครับ เพราะยังมีส่วนประกอบอื่นๆที่เข้ามาเป็นตัวแปรให้กับการถ่ายภาพด้วยนั่นเอง
Resolution (ค่าความละเอียดของภาพ) จริงๆแล้วมันก็คือจำนวนพิกเซลนั่นแหละครับ โดยจะเป็นการนับพิกเซลในแนวตั้งและพิกเซลในแนวนอน ยิ่งภาพมี Resolution ที่สูงก็จะยิ่งรองรับการขยายได้สูง โดยที่ภาพไม่แตกเป็นเสี่ยงๆครับ
Aspect ratio คืออัตราส่วนของความกว้างและความสูงของจอภาพ ซึ่ง 4:3 ก็เป็นตัวเลขปกติของสมาร์ทโฟนทั่วๆไป โดยมันหมายถึงมีด้านกว้างของจอ(แนวนอน) 4 หน่วย และมีด้านสูงของจอ(แนวตั้ง) 3 หน่วย
Sensor size (ขนาดของเซนเซอร์) ยิ่งเซนเซอร์มีขนาดใหญ่ไม่ได้หมายความว่ามันจะมีจำนวนพิกเซลที่เยอะกว่าแต่อย่างใด โดยจากสมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่นนั้น Nexus 6P คือเครื่องที่มีเซนเซอร์ใหญ่ที่สุด ส่วน iPhone 6s มีเซนเซอร์ขนาดเล็กที่สุด แต่ขนาดเซนเซอร์ของทั้ง 2 รุ่นนั้นก็ไม่ได้ห่างกันมากนะครับ (ประมาณ 0.1 นิ้วเท่านั้น)
Pixel size (ขนาดของพิกเซล) คือการวัดขนาดของพิกเซลจริงๆ โดยจะใช้หน่วยการวัดเป็น (μm) ยิ่งพิกเซลมีขนาดใหญ่เท่าไรมันก็ยิ่งสามารถกักเก็บแสงได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนั่นก็จะทำให้ภาพที่ได้มีคุณภาพที่สูงขึ้นและสว่างขึ้น และในที่นี้ Nexus 6P ก็เป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดพิกเซลที่ใหญ่ที่สุดครับ ด้วยขนาด 1.55μm ซึ่งถือว่าเล็กมากๆทีเดียว ประมาณ 1/50 ของความกว้างของเส้นผมมนุษย์
Aperture (รูรับแสง) ตามชื่อของมันเลยครับ หน้าที่ของมันคือการควบคุมปริมาณแสง ที่จะเดินทางผ่านเลนส์ ยิ่งรูรับแสงมีขนาดใหญ่มากแสงก็จะยิ่งผ่านได้มาก ในทางกลับกันถ้ารูรับแสงมีขนาดที่เล็กลงแสงก็จะเดินทางผ่านเข้าไปได้น้อยลงด้วย ซึ่งลักษณะในการควบคุมปริมาณแสงนี้จะมีความสำคัญต่อการถ่ายภาพอย่างมาก ในการถ่ายภาพหากแสงมีปริมาณน้อยเกินไปภาพก็จะมืด แต่ถ้าแสงมีปริมาณมากเกินไปภาพก็จะสว่างจ้าเกินไป
Focal Length (ทางยาวโฟกัส) นับเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมากๆครับ โดยกล้องที่มีความยาวโฟกัสที่ต่างกันจะให้มุมรับภาพหรือองศาการรับภาพไม่เท่ากัน โดยกล้องที่มีขนาดทางยาวโฟกัสสั้น องศารับภาพจะมีมากกว่ากล้องที่มีทางยาวโฟกัสมากครับ
[section label=”The Photo” anchor=”photo-comparison”]
The Photos
ไปดูในส่วนของภาพที่ถ่ายด้วยอุปกรณ์แต่ละรุ่นกันได้เลยครับ ทางเราได้จัดเรียงไว้ให้สามารถเปรียบเทียบกันได้ง่ายๆเลย โดยเรียง iPhone 6s, Nexus 6P, Lumia 950, Galaxy S7 ตามนี้เลยครับ
Indoors
ตามที่เห็นได้จากในภาพด้านบนเลยครับ จะพบว่าไม่มีกล้องจากอุปกรณ์รุ่นไหนเลยที่ถ่ายรูปออกมาได้แย่ ซึ่งอันที่จริงแล้วต้องบอกเลยว่าภาพที่ได้ออกมานั้นค่อนข้างจะดีเลยแหละ ไปดูในฝั่งของ Galaxy S7 ก่อนเลยครับ จะเห็นได้ว่าภาพที่ได้จาก Galaxy S7 นั้นมีความอิ่มตัวของสีมากกว่าเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆ แต่เมื่อมาถึงโหมด HDR ที่มีการบาล้านซ์ความมืดและความสว่าง เราคิดว่า Lumia 950 สามารถทำได้ดีกว่า โดยภาพที่ได้ค่อนข้างจะแม่นยำ คมชัดและเก็บรายละเอียดได้ดีกว่าครับ
ส่วนการถ่ายภาพในที่มืดหรือที่แสงน้อยนั้น ทาง iPhone และ Lumia กลับทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไรเลยครับ โดยจะสังเกตุเห็นว่าภาพที่ได้จาก iPhone จะมืดกว่าของอุปกรณ์อื่นๆ ส่วนภาพที่ได้จาก Lumia มีการปรับความสว่างเพิ่มขึ้นมากจนเกินไป จนทำให้สิ่งที่ควรจะเป็นสีดำกลายไปเป็นสีเทาไปซะอย่างงั้น
[section label=”Daylight” anchor=”daylight”]
Daylight
เมื่อมาถึงการทดสอบถ่ายภาพบริเวณนอกอาคารก็เริ่มมีสิ่งน่าสนใจเกิดขึ้นครับ โดยเจ้า Nexus 6P นั้นดูท่าแล้วจะมีปัญหากับแสงนิดหน่อย เพราะภาพที่ได้ออกมาดูจะสว่างจ้าซะเหลือเกิน แต่ในบางครั้งยังพบว่า Nexus 6P มีการลดแสงลงด้วย
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าทั้ง iPhone 6s, Lumia 950 และ Galaxy S7 สามารถผ่านการทดสอบนี้ไปได้ด้วยดี กับการถ่ายภาพภายใต้แสงอาทิตย์และภายใต้เมฆปกคลุม แต่ Galaxy S7 นั้นเริ่มมีทีท่าจะทำให้ภาพดูมีสีสันสดใสมากขึ้นและสว่างขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งจริงๆแล้วภาพที่ได้จาก iPhone 6s Plus นั้นมีความแม่นยำในส่วนของสีมากกว่าครับ แต่ตรงจุดนี้มันไม่ง่ายเลยครับที่จะบอกว่าภาพที่ได้จาก Galaxy S7 ไม่ดีกว่าภาพที่ถ่ายจาก iPhone
ในส่วนของการถ่ายแบบ Panorama นั้น บอกก่อนเลยว่า Lumia 950 คงต้องยอมสละสิทธิ์ในการทดสอบนี้ เพราะว่ามันไม่รองรับการถ่าย Panorama ด้วยแอพกล้องพื้นฐานที่ให้มากับเครื่อง
และจากผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้น เรามองว่า Nexus 6P ทำได้ดีกว่าอุปกรณ์อื่นๆทั้งในเรื่องความสว่างและความคมชัด เรียกได้ว่าภาพที่ออกมาค่อนข้างจะสมดุลย์ครับ
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มหมดแสง ถึงเวลาพลบค่ำภาพที่ได้จาก iPhone และ Lumia เริ่มสะท้อนให้เห็นโทนสีเหลืองมากขึ้น ส่วน Galaxy และ Nexus กลับชดเชยแสงไปในโทนสีฟ้าแทน ซึ่งดูแล้วอาจจะเหมาะสำหรับการถ่าย Portrait แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่แม่นยำตามที่ควรจะเป็นครับ
[section label=”Nighttime” anchor=”nighttime”]
Nighttime
และแล้วก็มาถึงการทดสอบถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่นในเวลากลางคืนแล้วครับ มาเริ่มกันด้วย iPhone ก่อนเลย ถึงแม้ว่า iPhone 6s Plus นั้นจะสามารถถ่ายภาพได้ดีในเวลากลางวัน แต่ในเวลากลางคืนแบบนี้มันกลับทำได้ไม่ดีนักครับ ด้วยเซนเซอร์ขนาดเล็กและรูรับแสงที่ค่อนข้างจะแคบจึงทำให้แสงในภาพไม่ค่อยจะเพียงพอเท่าไร แต่หากว่าในอนาคต iPhone เปลี่ยนมาใช้เซนเซอร์ที่ขนาดใหญ่ขึ้นและรูรับแสงที่กว้างขึ้น น่าจะสามารถทำได้ดีกว่านี้แน่ๆ
ในส่วนของ Nexus 6P การถ่ายรูปในเวลากลางคืนในครั้งนี้ทำให้เราเริ่มเห็นจุดขาวๆเกิดขึ้นและพบว่าภาพที่ได้ยังมีความอิ่มตัวเกินไปอีกด้วย ซึ่งเมื่อเราเปรียบเทียบถึงเรื่องของการเก็บรายละเอียดในเวลากลางคืน Lumia 950 น่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ทำได้ดีที่สุดในส่วนนี้ครับ ด้วยเซนเซอร์ที่ใหญ่และรูรับแสงที่กว้างทำให้มันสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆอย่างไม่น่าแปลกใจนัก
ทั้งนี้ในการถ่าย Panorama ในเวลากลางคืนกลับเป็นอะไรที่น่ากลัวสำหรับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นเลย (เช่นเคย Lumia 950 คงต้องสละสิทธิ์) อย่างภาพที่ได้จาก iPhone จะเห็นว่ามันค่อนข้างจะมืดและสลัวเกินไปจนเก็บรายละเอียดอะไรไม่ได้ เหมือนรายละเอียดทั้งหมดของภาพถูกกลืนกินโดยท้องฟ้าที่ราดด้วยหมึกสีดำไปจนหมดสิ้น ส่วนของ Nexus นั้นก็ไม่แพ้กันครับ ถึงแม้ว่าภาพ Panorama จะดูสว่าง แต่มันก็สว่างเกินไปจนทำให้รายละเอียดของภาพปลิวหายไปพร้อมกับแสงที่ถูกสาดเข้ามา ทั้งนี้ถึงแม้ว่าภาพทีได้จาก Galaxy S7 จะอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่าง iPhone และ Nexus แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันถ่ายออกมาได้ดีแต่อย่างใด คือภาพที่ได้จากสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นกับการถ่าย Panorama นั้น ยังคงห่างไกลกับภาพที่เราต้องการอยู่เยอะเลยล่ะครับ
[section label=”Challenging Lighting” anchor=”challenging-lighting”]
Challenging Lighting
ตอนแรกต้องบอกก่อนเลยว่าหัวข้อนี้เกือบจะมีชื่อว่า “การถ่ายภาพอาหาร” แล้ว เพราะภาพที่เราไปถ่ายมาทดสอบนั้นเป็นภาพของอาหารซะส่วนใหญ่ ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องปกติใช่ไหมล่ะครับที่เราๆจะถ่ายภาพอาหารแล้วอัพลง Facebook หรือ IG โดยการทดสอบถ่ายภาพภายใต้แสงไฟในครั้งนี้จะเป็นแสงไฟนีออนสีออกแดงๆนะครับ ส่วนแสงจากพระอาทิตย์นั้นจะเป็นแสงที่อ้อมมาจากหน้าต่างด้านหลังของคนถ่าย
จากภาพที่ได้จากการทดสอบอุปกรณ์แต่ละรุ่นแล้ว iPhone สามารถถ่ายภาพออกมาได้ค่อนข้างจะใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุดครับ ถึงแม้ว่า Lumia จะสามารถถ่ายภาพออกมาได้ดีและคมชัดมาก อย่างที่เห็นว่ามันสามารถเก็บรายละเอียดในส่วนขอบของแซนด์วิชได้เป็นอย่างดี แต่ถ้ามันได้การปรับแต่งในเรื่องของอุณหภูมิสีให้ดีขึ้น มันน่าจะสามารถถ่ายภาพให้ออกมาดีกว่านี้มากๆแน่ๆครับ
สำหรับภาพของเบียร์นั้นเป็นการถ่ายหลังจากที่เจ้า Breckenridge’s Nitro Vanilla Porter ถูกรินลงสู่แก้วสดๆใหม่ๆ ภายใต้แสงไฟสลัวๆของบาร์ ซึ่งงานนี้ Galaxy S7 ทำได้น่าชื่นชมเลยทีเดียวเชียว จะเห็นได้จากในภาพว่ามันมีการให้แสงที่ดีจนทำให้เราเกือบจะมองเห็นเม็ดโฟมเล็กๆของฟองเบียร์ได้ถนัดเลย ในขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆไม่ได้เด่นกว่ากันเท่าไรนัก
[section label=”Macro” anchor=”macro”]
Macro
โดยปกติแล้วระยะโฟกัสที่ใกล้ที่สุดของกล้องสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไปอยู่แล้ว ทั้งนี้ในการทดสอบพบว่าเจ้า Lumia 950 นั้นสามารถทำให้เราเข้าไปใกล้วัตถุได้มากที่สุดครับ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับ iPhone 6s Plus และ Galaxy S7 แบบไม่ห่างกันมากนัก แต่สำหรับ Nexus 6P มันกลับทำให้เราผิดหวังเล็กน้อย เพราะระยะโฟกัสที่ใกล้ที่สุดค่อนข้างจะห่างไกลกับทั้ง 3 เครื่องข้างต้นอย่างมาก
และเมื่อมีการ Crop ภาพเข้ามา บอกเลยครับว่า Galaxy S7 นั้นทำให้เราอดเซอร์ไพรซ์ไม่ได้จริงๆกับความคมชัดที่ยังหลงเหลืออยู่ จะเห็นได้จากภาพของเหรียญที่ถูก Crop 100%
[section label=”Selfies” anchor=”selfies”]
Selfies
ในที่สุดก็ได้เปลี่ยนมาใช้กล้องหน้ากันบ้าง ณ จุดนี้มีเพียงแค่ Nexus 6P เท่านั้นที่มีความละเอียดของกล้องหน้าอยู่ที่ 8MP ส่วนที่เหลืออีก 3 เครื่องนั้นมีกล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 5MP แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจำนวนพิกเซลไม่ใช่ตัวแปรเพียงอย่างเดียวที่จะให้ภาพออกมาดี ตามที่เราเคยกล่าวไปเมื่อช่วงต้นของบทความ เพราะมันยังมีเรื่องของขนาดเลนส์และขนาดของเซนเซอร์ให้คำนึงถึงด้วย
ถึงแม้ว่าทั้ง 4 เครื่องจะมีการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังภายใต้แสงไฟที่ดีเพียงใด แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้กล้องหน้าในการเซลฟี่แล้ว แต่ละเครื่องก็เริ่มเป๋ๆไปตามๆกันครับ ซึ่งจากการทดสอบแล้วเรามองว่ากล้องหน้าของ iPhone ยังคงทำงานได้ดี เก็บรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งแสงและสีได้แม่นยำ แต่ด้วยเซนเซอร์และรูรับแสงที่มีขนาดเล็ก การถ่ายภาพในที่แสงน้อยจึงดูมืดไปหน่อยครับ
ทั้งนี้เมื่อนำทั้ง 4 รุ่นมาถ่ายในแสงไฟที่พอเหมาะพบว่า Galaxy S7 ถ่ายเซลฟี่ออกมาได้ไม่ดีนักครับ จะเห็นได้จากรายละเอียดบนใบหน้าที่ไม่ค่อยจะครบครันสักเท่าไร แตกต่างจาก iPhone, Lumia และ Nexus ที่แสดงให้เห็นรายละเอียดบนใบหน้าได้ชัดเจน แต่ไม่ใช่ว่าภาพที่ได้จาก Galaxy S7 จะไม่ดีนะครับ จริงๆแล้วมันก็ถือว่าดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียวถึงแม้จะมีการปิด Beauty mode ไปแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ในภาพที่เราทำการเซลฟี่บนดาดฟ้าตึกจะเห็นได้ว่า Galaxy S7 และ iPhone 6s ทำได้ค่อนข้างดีมากในการบาล้านซ์แสงและสีตรงจุดที่ยืนถ่ายกับตึกซึ่งเป็นฉากหลังครับ
พอมาถึงการทดสอบถ่ายเซลฟี่ในพื้นที่ที่แสงน้อยมากๆ เหล่ากล้องจากสมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่นก็เริ่มที่จะกรีดร้องกันออกมาแล้วล่ะครับ โดย Lumia และ Galaxy นั้นเริ่มมีปัญหาในการออโต้โฟกัสเกิดขึ้น (แต่ยังจิ้มหน้าจอให้โฟกัสได้อยู่) ส่วน iPhone มีปัญหาเรื่องภาพที่มืดเกินไป แต่มันกลับสามารถทำการออโต้โฟกัสใบหน้าได้ค่อนข้างแม่นยำอยู่ครับ ซึ่งผู้ที่ชนะในรอบนี้เราขอยกให้กับ Nexus 6P ไปเลย จะเห็นจากภาพที่ได้เลยครับว่าออกมาสวยงามคมชัดสะอาดตาเมื่อเทียบกับกล้องจากรุ่นอื่นๆ ทั้งนี้มันยังไม่มีปัญหาเรื่องการโฟกัสเกิดขึ้นอีกด้วย (ปรบมือสิครับ..รออะไร ^^)
[section label=”The Video” anchor=”the-video”]
Video
หลังจากที่เราพูดถึงเรื่องการถ่ายภาพมาสักพักใหญ่ๆแล้ว เรามาคุยกันเรื่องของการถ่ายวิดีโอกันบ้างดีกว่า จากที่หลายปีมานี้เหล่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนได้หันมาให้ความสนใจในส่วนของกล้องมากขึ้น จึงเห็นได้อย่างชัดเจนเลยครับว่าการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องของสมาร์ทโฟนนั้นสามารถทำได้ดีขึ้นอย่างมาก
โดยการถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่นนั้น ผลที่ได้ออกมาพบว่า iPhone 6s และ Galaxy S7 ทำได้ดค่อนข้างดีในส่วนของขอบเขตการมองเห็น ในขณะที่ Nexus 6P นั้นกลับมีขอบเขตการมองเห็นที่แคบกว่า และสำหรับ Lumia 950 มันได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนครับว่ามันสามารถถ่ายวิดีโอได้กว้างกว่ารุ่นอื่นๆ และกว้างกว่าการถ่ายภาพธรรมดาเสียด้วย
มาดูในส่วนของสีที่แสดงออกมากันบ้างครับ สำหรับ iPhone และ Lumia จากการทดสอบพบว่ามันถ่ายวิดีโอออกมาโดยมีโทนสีอบอุ่นมากกว่า เมื่อเทียบกับการถ่ายวิดีโอด้วย Galaxy S7 ที่มีโทนสีเย็นกว่า (ออกไปทางสีฟ้าๆ) ทั้งนี้ปัญหาเดิมๆก็ยังเกิดขึ้นกับ iPhone 6s Plus อยู่ดีครับ ที่ว่ากล้องของมันถ่ายวิดีโอได้ไม่ดีนักในที่แสงน้อย ส่วน Lumia 950 ก็ทำให้วิดีโอค่อนข้างจะสว่างจ้าเกินไปในหากนำมาถ่ายที่แสงน้อยครับ
แน่นอนครับว่าอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับการถ่ายวิดีโอ นั่นก็คือเรื่องของระบบป้องกันการสั่นไหว หากวิดีโอที่ถ่ายออกมามีการสั่นเกิดขึ้นก็ถือว่าวิดีโอนั้นไม่ค่อยจะโอเคเท่าไรนักจริงไหมล่ะครับ… และในที่นี้ Nexus 6P ก็ดูจะทำได้ไม่ค่อยดีเอาซะเลย จากที่เราได้ทำการทดสอบ พบว่าหากเราตั้งใจจับตัวเครื่องให้นิ่งๆจริงๆมันก็สามารถทำได้ค่อนข้างดีครับ แต่เมื่อใดที่เราเริ่มมีการขยับตัว (นิดเดียว) ภาพวิดีโอที่ได้ก็จะเริ่มสั่นๆให้ได้เห็นกันแล้ว ตรงนี้คงต้องยอมรับครับว่า Nexus 6P ทำออกมาได้น่าผิดหวังไม่น้อย (หายใจแรงหน่อยวิดีโอสั่นเลย)
ในเรื่องของเสียงก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ถูกนำมาชี้วัดกันเมื่อมีการอัดวิดีโอเกิดขึ้น และ iPhone กับ Galaxy ก็ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียวกับการบันทึกเสียงในอาคาร เสียงที่ได้นั้นออกมาค่อนข้างเป็นธรรมชาติ แต่ทว่าเมื่อมีการถ่ายวิดีโอภายนอกอาคารกลับพบว่า iPhone ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไรเลยครับ เพราะมันอัดเสียงสภาพแวดล้อมโดยรอบเข้ามามากไป อีกทั้งมันยังจัดการกับเสียงลมได้ไม่ดีเท่าที่ควรนัก
สำหรับ Lumia 950 หลังจากที่เราทดสอบฟังเสียงดูแล้ว พบว่าเสียงที่ได้ค่อนข้างจะเรียบเกินไปครับ เสียงเกือบทั้งหมดแทบจะไม่แสดงถึงการมีอยู่ของเสียงเบสเลย ส่วน Galaxy S7 นั้นถึงแม้มันจะเก็บเสียงได้ค่อนข้างดีก็ตาม แต่มันก็เก็บเอาเสียงโดยรอบที่ไม่ต้องการเข้ามาเยอะเช่นกัน
หากต้องสรุปในเรื่องของเสียงที่ได้จากการอัดวิดีโอ เราคิดว่า Galaxy S7 ทำได้ดีกว่า iPhone และ Nexus ครับ
[section label=”Interface” anchor=”video-interface”]
Interface
พูดถึงเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้กันไปเยอะแล้ว เรามาดูในส่วนของ Interface ของสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นกันบ้างดีกว่า…
สำหรับ iPhone นั้น Interface การใช้งานกล้องไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อนอะไรเลย เรียกได้ว่าใช้งานง่ายมากๆ โดยจะเห็นว่าบนหน้า Interface มีทุกปุ่มที่ต้องใช้แสดงให้เห็นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ปุ่มลั่นชัตเตอร์, HDR, แฟลช นอกจากนี้ก็จะมีปุ่ม Gallery ที่ให้เราเข้าไปตรวจดูภาพที่เราถ่ายไว้ รวมทั้ง Filter ต่างๆก็ถูกจัดไว้ให้ในที่นี้แล้วครับ ไม่มีอะไรซ่อนเร้นให้เราต้องไปตามหาเพิ่มเติม
ในส่วนของแอพ Google Camera ที่อยู่ใน Nexus 6P ก็เป็นอีก Interface หนึ่งที่ใช้งานได้ง่ายครับ การควบคุมหลักต่างๆถูกจัดวางมาไว้ในหน้าจอให้เราได้เลือกใช้เช่นเดียวกับทาง iPhone เลย การเลือกถ่ายภาพหรือวิดีโอก็สามารถทำได้ง่ายๆด้วยการปัดหน้าจอเพียงครั้งเดียว ส่วนโหมดที่เหลือของการถ่ายภาพอย่างเช่น Panorama นั้นจะอยู่ในปุ่มเมนูที่อยู่บริเวณมุมซ้ายบน ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้เราลำบากแต่อย่างใด
มาถึง Lumia ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีการออกแบบ Interface มาอย่างดีครับ ด้วยคอนเซปต์การออกแบบด้วยความเรียบง่าย จึงทำให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ใน Lumia ยังมีปุ่มที่ช่วยส่งเราไปยัง Manual Mode เพื่อให้เราได้ลงลึกไปกับรายละเอียดการถ่ายภาพได้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถปรับแต่ง White balance, โฟกัส , ISO, ความสว่าง รวมไปถึง shutter speed ได้ด้วย
สำหรับ Galaxy S7 นั้น ใช้การออกแบบ Interface แบบเดียวกับของ Galaxy S6 เลยครับ ดังนั้นใครที่เคยใช้ S6 มาก่อนคงสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายๆอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่ามันจะมีเมนูให้เลือกใช้อยู่มากมายจนทำให้ผู้ที่เคยสัมผัสมันครั้งแรกได้มึนงงกันไปบ้าง แต่หลังจากที่ใช้ไปสักระยะแล้วคงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้วล่ะครับ
ทั้งนี้ต้องบอกว่าสิ่งที่น่าสนใจใน Galaxy S7 ก็คือในส่วนของโหมดถ่ายภาพต่างๆที่มีให้เลือกอยู่ถึง 10 โหมดด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็มีโหมด Manual เช่นเดียวกับของ Lumia ด้วย
นอกจากนี้การเปิดใช้งานกล้องใน Galaxy S7 ยังทำได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดปุ่ม Home 2 ครั้ง ซึ่งมันทำงานได้เร็วมากๆครับ เร็วกว่าของ Nexus 6P ที่ใช้การกดปุ่ม Power 2 ครั้ง ซึ่งบางครั้งเราพบว่ามันก็ไม่ทำงานซะด้วย ซึ่งทั้งนี้ Lumia เองก็มีฟีเจอร์การเข้าถึงกล้องแบบรวดเร็ว เว้นเสียแต่ iPhone ที่ไม่มีทางลัดหรือวิธีการกดใดๆให้เราเข้าถึงการใช้งานกล้องได้อย่างรวดเร็วครับ
ซึ่งไม่แน่ในอนาคตเราอาจได้เห็น Apple สร้างทางลัดใหม่ๆให้กับการเข้าถึงกล้องก็เป็นได้ แต่ไม่น่าจะเป็นการกดปุ่ม Home 2 ครั้งแน่ๆครับ เพราะตอนนี้มันเป็นทางลัดของการเข้าถึง Wallet ดังนั้นเราอาจได้เห็นการกดปุ่ม Power 2 ครั้งเพื่อเปิดใช้งานกล้องก็เป็นได้
[section label=”บทสรุป” anchor=”verdict”]
บทสรุป
แล้วใครล่ะที่ทำสมาร์ทโฟนที่มีกล้องทีดีที่สุด..? จริงๆแล้วคงต้องบอกว่าในสมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่นนั้น มีกล้องที่ยอดเยี่ยมหมดเลยครับ โดยในแต่ละรุ่นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ไม่มีกล้องของรุ่นไหนที่มีแต่ข้อดีหรือมีแต่ข้อเสีย
โดยปกติแล้วเราทุกคนล้วนมีความชื่นชอบภาพถ่ายที่แตกต่างกันไป แต่จากที่เราได้ทดสอบทั้ง 4 รุ่นไปแล้ว หากใครที่ต้องการให้ภาพถ่ายออกมามีสีสันสมจริงหน่อยเราคิดว่า iPhone 6s Plus หรือ Lumia 950 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีครับ แต่สำหรับใครที่ชอบสีสันที่สดใสกว่าปกติ Samsung Galaxy S7 น่าจะเป็นสิ่งที่คุณกำลังตามหาอยู่ครับ
นอกจากนี้สำหรับใครที่พบว่าตัวเองจะต้องถ่ายรูปหรือวิดีโอในที่แสงน้อยบ่อยๆ iPhone เป็นสิ่งที่คุณควรจะถอยห่างให้ไกลเลย และแน่นอนว่าถ้าเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายวิดีโอ Nexus 6P คงไม่ใช่คำตอบแน่นอน ทางที่ดีหลีกเลี่ยงเจ้าระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ Electronically-stabilized ของ Nexus 6P ไปเลยครับ
ทั้งนี้หากใครที่ชื่นชอบภาพถ่ายที่มีการเก็บรายละเอียดได้เยอะ เราแนะนำเลยว่าให้ลองมองไปที่กล้องจาก Lumia 950 ที่มีความละเอียดสูงถึง 20MP รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังครับ
แต่เมื่อพูดถึงความเร็วในการเข้าถึงกล้องคงต้องยกให้ Galaxy S7 ที่อยู่เหนือทุกอุปกรณ์ที่เรานำมาทดสอบร่วมกันในวันนี้ครับ เพียงกดปุ่ม Home ติดกัน 2 ครั้งก็เข้าถึงกล้องได้แล้ว
มาถึงตรงจุดนี้เชื่อว่าการแข่งขันกันในเรื่องจำนวนพิกเซลของกล้องนั้นน่าจะจบลงไปแล้ว อย่างที่เห็นว่า Samsung เลือกใช้ความละเอียดเพียง 12MP ใน Galaxy S7 ซึ่งลดลงมาจาก 16MP ใน Galaxy S6 แต่แน่นอนว่ามันถูกแทนที่เข้ามาด้วยเซนเซอร์ที่ยอดเยี่ยมขึ้นและซอฟท์แวร์ที่ถูกพัฒนนาให้ดีขึ้นนั่นเองครับ
และสุดท้ายนี้หากต้องการให้เราบอกจริงๆว่ากล้องจากสมาร์ทโฟนเครื่องไหนที่ดีที่สุดจากทั้ง 4 เครื่อง เราคงยกให้ทาง Samsung Galaxy S7 เป็นผู้ชนะครับ โดยเรามองว่าชนะกันไปแค่เส้นผมเท่านั้นไม่ได้มีคะแนนทิ้งห่างกับอุปกรณ์อื่นๆมากมาย ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงความคิดเห็นของเราเท่านั้นครับ ดังนั้นใครจะชอบภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนรุ่นไหนก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน ความชอบ ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันครับ