Close Menu
  • Home
  • Android
    • News
    • Tips
  • Apple
    • iPad
      • News
      • Tips
    • iPhone
      • News
      • Tips
  • WINDOWS
    • News
    • Tips
  • Gaming
    • Game Review
    • PlayStation
    • Nintendo
    • Xbox & PC
    • Mobile
  • Gadget Reviews
    • Accessories
    • Devices
  • Wearable
  • EV Car
  • Miscellaneous
    • News
    • Tips
  • Tips and Tricks
  • Video
  • Cooky Policies
  • ติดต่อโฆษณา
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
  • Home
  • Android
    • Tips & Tricks
  • Apple
    • Tips & Tricks
  • Windows
    • Tips & Tricks
  • Gaming
    • Game Review
    • In Spotlight
    • PlayStation
    • Xbox & PC
    • Nintendo
    • Mobile Games
  • Reviews
    • Mobiles & Tablets
    • Game Review
    • Accessories
  • EV Car
  • Miscellaneous
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
คุณกำลังอ่าน :Home » Apple » iPhone Updates » News » ฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือเมื่อหกล้มหรือหมดสติบน Apple Watch Series 4 คืออะไร และทำงานอย่างไร มารู้จักมันไปพร้อมๆ กัน
Apple

ฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือเมื่อหกล้มหรือหมดสติบน Apple Watch Series 4 คืออะไร และทำงานอย่างไร มารู้จักมันไปพร้อมๆ กัน

24 กันยายน 20182 Mins Read

Apple Watch Series 4 นั้นมาพร้อมกับกับหนึ่งความสามารถใหม่ที่ใช้สำหรับการตรวจจับการวูบล้มหรือหมดสติ โดยเรียกฟังก์ชั่นนี้ว่า Fall Detection ซึ่งหลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าฟังก์ชั่นใหม่นี้จะใช้งานอย่างไร และจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนที่เรารักได้มากแค่ไหน วันนี้ APPDISQUS จะพาไปทำความเข้าใจการใช้งานฟังก์ชั่นนี้กันให้มากขึ้น

เกณฑ์เรื่องอายุ : เปิดใช้งานอัตโนมัติเมื่อผู้สวมใส่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ต่ำกว่านั้นต้องเข้าไปเปิดใช้งานเองในการตั้งค่า

ก่อนอื่นเลยต้องอธิบายก่อนว่า Fall Detection หรือการตรวจจับการวูบล้มนี้จะถูกเปิดใช้งานเป็นค่าพื้นฐานเฉพาะกับผู้สวมใส่ Apple Watch Series 4 ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปเท่านั้น ทั้งนี้เพราะจากการศึกษาแล้ว Apple พบว่าผู้ใช้ในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษในเรื่องของการวูบหมดสติหรือการหกล้มเสียหลักมากที่สุด แต่สำหรับคนที่ยังอายุไม่ถึง 65 ปีก็สามารถเข้าไปเปิดใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ง่ายๆ ที่การตั้งค่าของแอพพลิเคชั่น Watch บน iPhone ของเรา

medical-id-apple-watch-series-4

โดยผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปีสามารเข้าไปเปิดได้จากแอพพลิเคชั่น Watch > Apple Watch ของฉัน > SOS ฉุกเฉิน > เลือกเปิดการตั้งค่า Fall Detection เพียงเท่านี้ก็จะสามารถใช้งานการแจ้งเตือนเมื่อเกิดการวูบล้มได้แล้ว (โดยในเมนูการตั้งค่านี้ยังสามารถกำหนดเบอร์ฉุกเฉินของคนในครอบครัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาเพื่อให้ Apple Watch Series 4 ส่งข้อความหาโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย)

Advertisement
Advertisement
Advertisement

การตรวจจับการวูบหรือลื่นลม หรือ Fall Detection คืออะไร

Apple Watch Series 4 นั้นใช้ความสามารถของเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่มีการเพิ่มเข้ามาในฮาร์ดแวร์เวอร์ชันนี้ บวกกับการศึกษาและวิจัยของ Apple เองเพื่อการจำแนกรูปแบบการหกล้มออกมาเพื่อตรวจสอบว่าการหกล้มประเภทไหนคือการหกล้มที่อันตราย หรือเรียกว่าวูบล้มแบบฉับพลัน โดยหากผู้สวมใส่ Apple Watch Series 4 มีการเสียหลักล้มลง Apple Watch ก็จะส่งสัญญาณเตือนเสียงดังมากเพื่อให้คนรอบข้าง (ในกรณีที่มีคนอยู่ด้วย) ได้ยินและรับรู้ถึงสถานการณ์ผิดปกติ ในขณะเดียวกันผู้สวมใส่ก็จะรับรู้ได้ถึงแรงสัมผัสโดยการสั่นเบาๆ บนข้อมือ พร้อมกับให้เลือก 3 ตัวเลือกว่าต้องการทำอะไรต่อ โดย 3 ตัวเลือกนั้นมีดังนี้

apple-watch-fall-detection

  1.  ติดต่อเบอร์บริการฉุกเฉิน
  2. ยกเลิกการแจ้งเตือนเพราะเพียงแค่หกล้มธรรมดาเท่านั้นและไม่ได้เป็นอะไรมาก ยังสามารถลุกขึ้นยืนเองได้ไหวอยู่
  3. ยกลงการแต้งเตือนเพราะระบบตรวจจับผิดพลาดและผู้สวมใส่ไม่ได้ล้มลงจริงๆ (ซึ่ง Apple ก็จะเอาลักษณะข้อมูลที่ได้จากจำพวกนี้ไปศึกษาเป็นสถิติต่อไป)

เข้าใจในวิธีการตรวจจับและการแจ้งเตือนให้มากยิ่งขึ้น

Apple นั้นมีวิธีการจำแนกความอันตรายและสิ่งที่ต้องทำต่อไปโดยการดูจากลักษณะและอาการของผู้สวมใส่ที่หกล้มลงเป็นหลัก โดยจะแบ่งการทำงานออกเป็นขั้นตอนตามต่อไปนี้

Apple Watch Series 4

หากผู้สวมใส่ Apple Watch Series 4 ล้มลง และไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ เป็นเวลา 1 นาทีติดต่อกัน Apple Watch จะเริ่มนับถอยหลัง 15 วินาที และเมื่อครบ 15 วินาธี Apple Watch จะส่งเสียงเตือนที่ดังมากเพื่อให้คนรอบข้างได้ยิน นอกจากนี้ยังจะส่งข้อความไปยังเบอร์ติดต่อฉุกเฉินที่ผู้สวมใส่ Apple Watch ตั้งค่าไว้ใน “ID ทางแพทย์” หรือ “Medical ID” ด้วย (โดยตั้วค่าได้จากแอพพลิเคชั่น “สุขภาพ” จากนั้นไปยังเมนู “ID ทางการแพทย์” ซึ่งอยู่ด้านล่างขวามือสุดของจอ) เพื่อแจ้งเตือนบุคคลในเบอร์ติดต่อฉุกเฉินว่าผู้สวมใส่ Apple Watch Series 4 นั้นวูบล้มลงและไม่ได้สติ จากนั้น Apple Watch ก็จะทำการโทรหาเบอร์บริการฉุกเฉินทางการแพทย์เองโดยอัตโนมัติต่อไป

เกาะประเด็น:  WWDC 2025 เปิดฉาก! เผยโฉม iOS 26, macOS Tahoe และอนาคตซอฟต์แวร์ Apple

ในกรณีที่ Apple Watch Series 4 ตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่หลังจากที่หกล้มลงได้ และประเมินว่าผู้สวมใส่ยังคงมีสติอยู่ ตัวเครื่องจะไม่ทำการโทรหาเบอร์บริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ แต่หากผู้สวมใส่ต้องการติดต่อเบอร์บริการฉุกเฉินแล้วสามารถทำได้ด้วยตัวเองด้วยการลากนิ้วบนหน้าจอลงบนเมนู SOS ฉุกเฉิน บนหน้าจอ Apple Watch ได้ในทันที เพื่อทำการติดต่อบริการฉุกเฉินต่อไป


apple-watch-ecg

และนี่คืออีกหนึ่งในความสามารถใหม่บน Apple Watch Series 4 ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่เรารักและห่วงใจจริงๆ ที่สำคัญนอกจากเจ้า Fall Detection แล้ว ฟังก์ชั่น ECG หรือ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ที่มีบน Apple Watch Series 4 เป็นครั้งในนาฬิกาที่มีบนโลกใบนี้นั้นยังถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นหัวใจของการอัพเกรดในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามเจ้า ECG นั้นเพิ่งจะผ่านการรับรองแค่ในอเมริกาเท่านั้น และแคนาดาจะเป็นประเทศต่อไป สำหรับประเทศไทยคงต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้ใช้งานกันอีกครั้งถึงจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นนี้กันได้

Apple Watch Series 4 นั้นเปิดจำหน่ายแล้วในหลายๆ ประเทศทั่วโลกที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 โดยมาในสองขนาดใหม่เป็นครั้งแรกของ Apple Watch ซึ่งคือขนาดหน้าจอ 40มม. และขนาดหน้าจอ 44มม. (เดิม 38มม และ 42 มม.) และเปิดราคาในประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างประเทศสิงโปร์ที่ SG$599 หรือประมาณ 14,200 บาทนั่นเอง

iphone-xs-and-max-first-handone

  • พรีวิวแรกจับ iPhone XS และ iPhone XS Max สวยงาม แต่รุ่นใหญ่ก็หนักไม่เบา
  • WSJ เผย iPhone XR ขายช้าเพราะกลัวฆ่าสองรุ่นใหญ่ล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับปัญหาการผลิต
  • รวบตึง สรุปรีวิวแรกของ iPhone XS และ XS Max จากสื่อทั่วโลกที่ได้ทดสอบแล้ว

Advertisement
apple Apple Watch Series 4 Fall Detection
Google News YouTube
Share. Facebook Twitter LinkedIn Email Copy Link
Avatar photo
Alex
  • Website
  • Facebook
  • X (Twitter)
  • Instagram

อเล็กซ์ หรือ เอ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบเอามือถือหรือ iPad ข้างกายตนมาจับๆ จิ้มๆ ตามประสาคนมีงานแต่ชอบเล่นเกม คุณสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้กำลังใจเอได้เสมอผ่านทางการคอมเมนต์ในบทความนี้

Advertisement
Advertisement
Advertisement

Related Posts

Apple

iOS 26 แปลภาษาสดได้ในสายสนทนา พร้อมทำงานได้แบบออฟไลน์

14 มิถุนายน 2025
Apple

iOS 26 มาแล้ว ดีไซน์ใหม่ Liquid Glass พร้อมแอปเกม สู่ยุคใหม่เต็มรูปแบบ

10 มิถุนายน 2025
Apple

WWDC 2025 เปิดฉาก! เผยโฉม iOS 26, macOS Tahoe และอนาคตซอฟต์แวร์ Apple

10 มิถุนายน 2025
Apple

iOS 26 ตัด iPhone รุ่นเก่าออกจากลิสต์ รองรับเฉพาะ iPhone 11 ขึ้นไป

10 มิถุนายน 2025
Apple

3 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดดูงาน Apple WWDC 2025 คืนวันจันทร์นี้

9 มิถุนายน 2025
Apple

Apple หักค่าคอมมิชชันสูง แต่สร้างรายได้มหาศาลให้ผู้พัฒนาแอป

30 พฤษภาคม 2025
What Score?
8.1
Devices

รีวิว iQOO Neo 10 เกิดมาเพื่อเกมเมอร์ สเปกแรง! จัดเต็มแม็กซ์ 7000mAh

By Noppinij5 มิถุนายน 2025287 Views
7.6
Devices

รีวิว realme C71 สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม บางเบา สวยงาม แบตอึดที่สุดในรุ่น

By Noppinij4 มิถุนายน 2025
8.4
Your Updates

รีวิวหัวชาร์จ CUKTECH AD1003 120W ชาร์จเร็วครบ! ทุกเรือธงแบรนด์จีน

By Noppinij14 พฤษภาคม 2025
48
Xbox & PC World

Review : Scarred เกมสยองขวัญจากสิงคโปรที่ยังขาดความน่ากลัว

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya6 พฤษภาคม 2025

On AppDisqus Channel

3 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดดูงาน Apple WWDC 2025 คืนวันจันทร์นี้

Follow Us
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • TikTok
Latest
Your Updates

เทคโนโลยีทะลุขีดจำกัด! สมองคอมพิวเตอร์บางระดับอะตอม ไร้ความหนาแบบ 2D มาแล้ว

By Noppinij15 มิถุนายน 2025

Sony ปลดล็อกภูมิภาค Steam สำหรับเกม PlayStation ที่พอร์ตลงแล้ว

14 มิถุนายน 2025

iOS 26 แปลภาษาสดได้ในสายสนทนา พร้อมทำงานได้แบบออฟไลน์

14 มิถุนายน 2025

iOS 26 ส่องฟีเจอร์ใหม่ที่ Android เคยมีมาก่อนแล้วหลายปี

14 มิถุนายน 2025

แท็บเล็ตเกมมิ่งรุ่นเล็ก Redmi K Pad โผล่บน Geekbench ใช้ชิป Dimensity 9400+ พร้อม Android 15

14 มิถุนายน 2025
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Your Updates

เทคโนโลยีทะลุขีดจำกัด! สมองคอมพิวเตอร์บางระดับอะตอม ไร้ความหนาแบบ 2D มาแล้ว

15 มิถุนายน 2025
Gaming

Sony ปลดล็อกภูมิภาค Steam สำหรับเกม PlayStation ที่พอร์ตลงแล้ว

14 มิถุนายน 2025
Apple

iOS 26 แปลภาษาสดได้ในสายสนทนา พร้อมทำงานได้แบบออฟไลน์

14 มิถุนายน 2025
Android

iOS 26 ส่องฟีเจอร์ใหม่ที่ Android เคยมีมาก่อนแล้วหลายปี

14 มิถุนายน 2025
แอพดิสคัส
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube TikTok
  • Home
  • ติดต่อโฆษณา
  • Cookies Policy & Settings
© 2025 APPDISQUS.COM APPDISQUS : A Source You Can Trust.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าคุกกี้อนุญาตทั้งหมด
ตั้งค่าความยินยอม

Privacy Overview

AppDisqus.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานในขณะที่คุณกำลังอ่านและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยในบรรดาคุกกี้เหล่านี้ คุกกี้ประเภทข้อมูลที่จำเป็นนั้นจะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ใช้สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุกกี้เหล่านี้เป็นคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้บุคคลที่สามเพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น และจะจัดเก็บได้ก็ต่อเมื่อคุณได้การอนุญาต ทั้งนี้คุณสามารถจัดการกับการตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้เสมอผ่านทางเมนูการตั้งค่านี้

อย่างไรก็ตาม การปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณได้
ข้อมูลจำเป็น
Always Enabled
คุกกี้บางประเภทนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานเพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบฟังก์ชั่นกับผู้ใช้งานได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราคงเซ็สชั่นการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเอาไว้ ตลอดจนป้องกันสิ่งต่างๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้ประเภทนี้จะใช้เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่ระบบและคงสถานะการเข้าระบบของคุณบนเว็บเว็บไซต์เราเอาไว้ได้นั่นเอง
CookieDurationDescription
AWSALBCORS7 daysAmazon Web Services ใข้คุกกี้นี้เพื่อเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น load balancing หรือการกระจายโหลดเซิร์ฟเวอร์
cf_use_obpastCloudflare ใช้คุกกี้นี้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชม
cookielawinfo-checkbox-analytics11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ข้อมูลสถิติ"
cookielawinfo-checkbox-functional11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ฟังก์ชั่นการทำงาน"
cookielawinfo-checkbox-necessary11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "จำเป็น"
cookielawinfo-checkbox-others11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "อื่นๆ"
cookielawinfo-checkbox-performance11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ประสิทธิภาพ"
JSESSIONIDsessionคุกกี้ JSESSIONID ถูกใช้โดย New Relic เพื่อเป็นการเก็บไอดีจำเพราะในการเข้าใช้งานของผู้ใช้งานเพื่อให้ New Relic สามารถติดตามและตรวจนับเซ็ตชั่นการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้
viewed_cookie_policy11 monthsคุกกี้นี้ใช้เพื่อเป็นการเก็บความยินยอมในการอนุญาตให้จัดเก็บและใช้งานคุกกี้ของผู้ใช้งาน โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ใช้งานแม้แต่น้อย
ข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจไม่ได้จำเป็นที่สุดบนหน้าเว็บไซต์ AppDisqus.com ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นการฝังสื่อประเภทวิดีโอและปุ่มการแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อมูลประสิทธิภาพ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจในประสบการณ์การทำงานของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลสถิติ
คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลประเภทสถิติ เช่นตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลข UIP หรือผู้ใช้งานที่นับต่อ IP ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเข้าถึงบ่อยที่สุด ข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าถึง และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนชี้ให้เห็นว่าเราควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของผู้ใช้งาน
CookieDurationDescription
_ga_CE4TLMWX4S2 yearsคุกกี้ถูกติดตั้งโดย Google Analytics เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
_gid1 dayติดตั้งโดย Google Analytics โดย คุกกี้ _gid นี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ในการจัดทำสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย โดยข้อมูลที่เก็บนั้นยกตัวอย่างเช่นจำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่ผู้เข้าชมเปิดอ่านโดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าชม
ข้อมูลเพื่อการโฆษณา
คุกกี้ประเภทโฆษณาจะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่โฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการใช้งานในเว็บไซต์ AppDisqus เท่านั้นเพื่อการเผยแพร่โฆษณาได้อย่างตรงความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป
CookieDurationDescription
IDE1 year 24 daysคุกกี้จาก Google DoubleClick IDE นี้ติดตั้งโดย Google เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อกำหนดมาตรฐานในการเลือกโฆษณาที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงบนหน้าเว็บไซต์
test_cookie15 minutesคุกกี้นี้ถูกติดตั้งโดย Doubleclick.net (Google) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าบราวเซอร์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้งานอยู่รองรับคุกกี้หรือไม่
VISITOR_INFO1_LIVE5 months 27 daysคุกกี้นี้ถูกใช้งานโดย Youtube เพื่อตรวจสอบแบนด์วิดธ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเปิดดูวิดีโอ เพื่อเป็นการระบุเวอร์ชั่นของตัวเล่นวิดีโอว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเก่า
YSCsessionคุกกี้ YSC ถูกติดตั้งและใช้งานโดย Youtube โดยใช้เพื่อเป็นการดึงเอาข้อมูลวิดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาแสดงในหน้าที่ดึงเอาวิดีโอนั้นๆ มาแสดง
yt-remote-connected-devicesneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt-remote-device-idneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt.innertube::nextIdneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
yt.innertube::requestsneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
คุกกี้ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการระบุหมวดหมู่ประเภทเอาไว้ แต่อาจมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo