สมาร์ทโฟนสายถ่ายภาพ OPPO Reno8 Z 5G มาตามคำนิยาม ” The Portrait Expert “ เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความสามารถในการถ่ายภาพบุคคลยอดเยี่ยมมากครับ ภาพออกมาสวย ฟังก์ชั่นเยอะ และมีจุดเด่นที่การออกแบบตัวเครื่องภายนอกอีกด้วย ซึ่งผมต้องบอกว่าเครื่องตัวจริงของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สวยมากๆ มีความแข็งแกร่ง และมีผิวสัมผัสที่น่าถือใช้ครับ มีการเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ประกาศราคาเปิดตัวที่ 12,990 บาท
OPPO Reno8 Z 5G เป็นสมาร์ทโฟนจากซีรี่ส์ขายดีของ OPPO ที่ออกมาต่อยอดจากรุ่นเดิม ได้รับความนิยมเพราะเรทราคากำลังดีไม่แพงเกินไป มีความสามารถในการถ่ายภาพ และการออกแบบที่มีสไตล์เป็นของตัวเองสูง ตัวเครื่องแข็งแกร่งครับเพราะมาในมาตรฐานของแบรนด์ OPPO โดย OPPO Reno8 Z 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้ถูกจัดให้อยู่ในเกรด A จาก TÜV SÜD 36-Month Fluency Certification ซึ่งเป็นการทดสอบความคงทนขององค์กรระดับสากล ยืนยันว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะยังใช้งานได้อย่างดีแม้วันเวลาจะผ่านไปแล้วกว่า 3 ปีก็ตามครับ แบรนด์นี้มีดีที่ความทนทาน ^^
ในบทความนี้
งานกล้องเด่น เก่งด้วยฟังก์ชั่นเด็ดเพื่อการถ่ายภาพบุคคล
OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมกับ 64MP AI Portrait Camera ทำงานคู่กับกล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และสุดท้ายเป็นกล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพตั้งแต่โฟกัสระยะใกล้ 4 เซนติเมตร ไปจนถึงการซูมภาพดิจิทัลที่ระดับ 6X
จุดเด่นของกล้องถ่ายภาพรุ่นนี้คือฟังก์ชั่นการถ่ายภาพบุคคลครับ ความสามารถในตรวจจับใบหน้าและบุคคลค่อนข้างแม่นยำ ปรับแต่งตัดพื้นหลังได้ฉลาด มี AI Portrait Retouching ที่คอยปรับแต่งใบหน้าเนียนได้ละเอียดถึง 100 ระดับ รองรับทั้งภาพนิ่งและการถ่ายวีดีโอ งานคุณภาพ AI ของ OPPO ในการถ่ายภาพคนให้ใบหน้าเนียนสวย ลบสิว ลบฝ้า ดูสว่างแม้จะถ่ายย้อนแสง เพราะทำงานร่วมกับระบบ HDR AUTO ไปด้วย
กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซลของเครื่องก็รองรับ AI Portrait Retouching ด้วยเช่นกัน ปรับใบหน้าเนียนใสได้ 100 ระดับ พร้อมปรับแต่งใบหน้าได้ทีละส่วน รวมถึงการเติมสีสันเหมือนไปแต่งหน้ามาเพิ่มให้กับผู้เซลฟี่ได้ครับ
ฟังก์ชั่นที่ช่วยทำให้ภาพถ่ายบุคคลออกมาได้สวยงามมากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มความสวยของดวงโบเก้ในฉากหลัง Bokeh Flare Portrait จะสร้างเม็ดดวงไฟโบเก้ให้กลมโตและเด่นชัดกว่าความเป็นจริง ฟังก์ชั่นนี้เหมาะกับการนำไปถ่ายภาพบุคคลทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืนเลยครับ
และยังมี Selfie HDR การถ่ายภาพเซลฟี่ที่ไม่ต้องกลัวย้อนแสง ไม่ต้องกลัวหน้าดำ เพราะระบบ HDR จะช่วยเอาไว้ได้ทันทีเมื่อตรวจพบแสงย้อนครับ เติมความสว่างและความชัดเจนของหน้าเราให้ทันที โดยเราไม่ต้องสนใจมุมกล้องแบบย้อนแสงให้มากนักครับ
ผลลัพท์จาก AI Portrait Retouching, Bokeh Flare Portrait และ Selfie HDR ช่วยกันให้เราสามารถถ่ายภาพบุคคลและเซลฟี่ได้ออกมาสวยงามแบบง่ายๆ เลยครับ ฉากหลังดูมีมิติเป็นโบเก้ที่สวย และความเก่งของ AI จาก OPPO คือการปรับภาพให้ออกมาดูสวยใสแบบเบาๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นแนวที่วัยรุ่นชอบเลยครับ การันตีโดยนางแบบของผมเอง ^^ ทุกคนที่ได้มาทดสอบกล้องของ OPPO จะบอกกันเลยว่าจบตั้งแต่หลังการถ่าย โดยไม่ต้องผ่านแอพเพิ่มแล้วละครับ
กล้องหน้ายังรองรับการเซลฟี่ AI Color Portrait ที่ปรับฉากหลังให้เป็นสีขาวดำ เหลือสีไว้แค่ตัวเรา ภาพสวยทำได้เนียน และหน้าเราก็ใสๆ สวยๆ เช่นเดิมครับ ^^
กล้องของ OPPO Reno8 Z 5G ถ่ายคนได้สนุกครับไม่ว่าสภาพแสงในร่มหรือกลางแจ้ง รวมถึงทั้งภาพกลางคืน แม้แสงจะน้อยก็ยังสามารถถ่ายออกมาได้ดูสวยครับ แม้ภาพอาจจะไม่คมเท่าช่วงแสงกลางวัน แต่คุณภาพอยู่ในระดับอยากถ่ายก็ถ้ายได้ ถ้า AI ตรวจพบว่าสภาพแสงโดยรอบมีน้อยเกินไป จะใช้แสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์ของเรา เพิ่มแสงให้เหมือนเป็นไฟพกพาส่วนตัวครับ
และด้วยความสามารถของ Bokeh Flare Portrait ยิ่งถ่ายกลางคืนก็ยิ่งได้อารมณ์ที่สวยงามของแสงด้วงไฟโบเก้ในฉากหลังเด่นชัดขึ้นครับ
รองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล ถ่ายขนาดใหญ่เผื่อไว้ เพื่อนำไปพิมพ์ภาพขนาดใหญ่หรือครอปใช้บางส่วนของภาพในภายหลังได้ครับ แต่ไฟล์ภาพจะมีขนาดใหญ่มากครับ 12032 x 9024 พิกเซล ประมาณ 18MB เลยทีเดียว
โหมดการถ่ายวีดีโอแบบมุมมองคู่ ใช้กล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันเพื่อถ่ายเก็บภาพบรรยากาศ หรือใช้รีวิวสินค้าเป็นต้นครับ ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ 3 แบบ
รองรับการถ่ายภาพกลางคืน มาพร้อมกับฟิลเตอร์สีสันสำหรับใช้งานในแสงกลางคืนโดยเฉพาะ 4 เฉดสี
ตัวเครื่องภายนอก
OPPO Reno8 Z 5G ยังคงใช้สไตล์ต่อยอดกับงานออกแบบขอบเครื่องตัดเหลี่ยม งานออกแบบ Ultra Slim Retro Design ตัวเครื่องบาง งานประกอบแน่น ดูกระทัดรัดและทันสมัย จับสัมผัสรู้สึกได้ทันทีว่ามีมาตรฐานและน่าจะใช้งานได้ทนทาน
และสำหรับ OPPO Reno8 Z 5G ยังเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่เลือกใช้ฝาหลังผิวกระจกแบบ anti-glare มาใช้เป็นรุ่นแรกของโลกอีกด้วย เป็นกระจกลดแสงสะท้อนที่ใส่เสริมเข้ามาช่วยให้เกิดผิวสัมผัสบนฝาหลังที่ละมุนมือน่าลูบไล้ และไม่เกิดแสงสะท้อนกลับมาแยงตาผู้ใช้ด้วยครับ
รุ่นนี้มีเปิดตัวออกมาสองสีด้วยกันครับ แตกต่างกันไปในสองโทน หนึ่งคือสี Dawnlight Gold หรือสีทองรุ่งอรุณ เป็นสีทองแนวสว่าง ใช้เทคนิคการเคลือบสีแบบไล่ระดับทำให้ปรับเปลี่ยนไปมาตามแสงกระทบได้แบบสีรุ้ง และจะดูทองอร่ามสง่าผ่าเผยที่สุดเมื่อโดนแสงกระทบมาทางตรง และอีกหนึ่งสีคือสีดำ Starlight Black เป็นสีดำโทนเข้มที่มีความระยิบระยับ ดูโปร่งเหมือนท้องฟ้ากลางคืนที่มีแสงดาว เป็นสีที่ไปทางเข้มๆ ขรึมๆ ซึ่งตัวจริงก็เป็นอีกหนึ่งสีที่สวยเช่นกันครับ
ผิวตัวเครื่องของ OPPO Reno8 Z 5G จะมีความระยิบระยับ เล่นกับแสงได้ดีแต่เป็นผิวสัมผัสแบบด้านนะครับ ทำให้เกิดข้อดีที่เวลาใช้งานจะไม่มีคราบมันรอยนิ้วมือให้ต้องเช็ดกันบ่อยๆ และยังช่วยลดการเกิดรอยขีดข่วนขึ้นได้ง่ายๆ อีกด้วย เป็นผลดีที่มาจากเทคนิคงานผลิต OPPO Glow Design นั้นเองครับ ตัวเครื่องเก็บรายละเอียด ทำขอบแข็งแรงดูทนทาน และมีน้ำหนัก 181 กรัม และบางแค่ 7.66 มม. เท่านั้นเองครับ ถือจับใช้งานเข้ามือ จอใหญ่เครื่องเล็ก มือผู้ชายหรือผู้ใหญ่มือเล็กก็ใช้งานได้สบายครับ ออกแบบมาดี
กล้องหลังของรุ่นนี้จัดเต็มมากกับฟังก์ชั่นการถ่ายภาพโดยเฉพาะภาพถ่ายบุคคล ให้กล้องหลังมาเป็น 64MP AI Portrait Camera ชุดกล้องแบบ 3 ตัว ความละเอียดกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล ทำงานคู่กับกล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล และสุดท้ายเป็นกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล จะสังเกตว่าบริเวณฐานกล้องใช้การออกแบบที่เรียบไปกับฝาหลัง แต่เล่นกับพื้นผิวที่แตกต่างออกไปจากส่วนอื่นๆ ด้วยการเคลือบเงา แต่ยังคงความระยิบระยับของ OPPO Glow Design ใส่เข้ามาในพื้นที่นี้อยู่เช่นเดียวกัน ทำให้เวลาสะท้อนกับแสงจะสวยงามมากครับ
และทาง OPPO ยังเพิ่มความสวยงามของชุดกล้องด้วยการติดตั้งไฟ Dual Orbit Lights เป็นไฟวงแหวนที่ออกแบบใหม่ และนับเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมการผลิตสมาร์ทโฟนที่ใช้แผ่นแสงปริซูมวงแหวน ซึ่งมีฟิล์มนำแสงสูงและฟิล์มบังเงา มาช่วยทำให้เกิดความเข้มของสีที่สม่ำเสมอกัน และไม่เกิดแสงจ้าจนรำคาญสายตาในขณะเดียวกันครับ มีมาตรฐานความคงทนอยู่เช่นเดิม เพราะมีอายุการใช้งานที่ใช้ได้ยาวนานมากกว่า 50,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ไฟ Dual Orbit Lights ถูกออกแบบให้เสริมความสวยงาม และเป็นไฟที่ช่วยในด้านการแจ้งเตือน โดยตัวไฟจะสว่างและกระพริบเป็นจังหวะ เพื่อให้เราทราบถึงการติดต่อที่เข้ามา และเป็นไฟบอกสถานะชาร์จไฟ หรือติดขึ้นมาในตอนที่เราเปิดใช้เกม หรือมีสายโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาเป็นต้น
เราสามารถเข้าไปกำหนดเวลาและการแสดงไฟของ Dual Orbit Lights ได้ในเมนูการตั้งค่าภายในเครื่องด้วยนะครับ
OPPO Reno8 Z 5G ใช้หน้าจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ 6.4 นิ้ว รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง ขอบจอบางเฉียบบบบ!!! ซ้ายขวาแทบจะไม่เหลือขอบ สัดส่วนหน้าจอต่อพื้นที่ด้านหน้าเครื่องอยู่ที่ 90.8% วางกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลเอาไว้ในช่องขนาดเล็ก โดยกล้องหน้าจะรองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้เช่นกัน
ด้วยการออกแบบตัวเครื่องตัดเหลี่ยมที่มีความบาง และขอบเครื่องที่พอดีกับขอบจอเช่นนี้ ในเวลาใช้งานเราจะรู้สึกว่าทั้งตัวเครื่องเป็นหน้าจอทั้งหมดเลยครับ รู้สึกดี ดูทันสมัยและกระทัดรัด
รองรับสองซิมการ์ด สามารถเชื่อมต่อ 5G ได้ทั้งสองซิม ใช้เป็นช่องใส่ซิมแบบไฮปริด เราสามารถสลับซิมการ์ดที่สองไปใส่ Micro SD Card ได้แทนครับ รองรับ 5G ทุกค่ายในไทย ใส่ซิม 5G เข้าไป ก็พร้อมใช้งาน 5G ได้ทันทีครับ
แบตเตอรี่ภายใน 4,500mAh สามารถใช้งานได้เช้าถึงค่ำแบบเต็มวันนะครับ ทดสอบเปิดหน้าจอทำงานต่อเนื่องจะกินพลังงานชั่วโมงละประมาณ 14%
และรุ่นนี้ชาร์จไฟได้ไว ใช้ระบบชาร์จ 33W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบต 4,500mAh ให้เต็มได้ในเวลาประมาณ 63 นาทีเท่านั้น ที่สำคัญคือเป็นระบบชาร์จที่มีความปลอดภัยสูง และไม่เกิดความร้อนสะสมใดๆ ให้เราต้องเป็นกังวล เพราะส่วนตัวผมเองไม่ชอบเวลาสมาร์ทโฟนที่เวลาเสียบชาร์จแบตเตอรี่เอาไว้ แล้วตัวเครื่องมีความร้อนที่สูง จะรู้สึกไม่สบายใจครับ แต่กับระบบชาร์จของ OPPO ควบคุณอุณหภูมิได้ดี ใช้งานได้สบายใจกว่าครับ
โดยภายในตัวเครื่องรุ่นนี้จะมีระบบระบายความร้อนแบบ 6 ชั้น และระบบชาร์จแบต 33W SUPERVOOC ก็ยังมีระบบป้องกันความปลอดภัยเอาไว้ให้ ทั้งไฟฟ้าลัดวงจรและควบคุมความร้อนในขณะชาร์จ ความอุ่นใจในการใช้งานเป็นเรื่องสำคัญครับ และด้วยประสบการณ์ยาวนานและมาตรฐานของ OPPO ที่ผลิตสมาร์ทโฟนมานานนับ 10 ปี เป็นแบรนด์ที่ไว้ใจได้ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญไม่ว่าจะใช้งานเองหรือให้คนภายในบ้านใช้ก็ตาม
โดยอุปกรณ์พื้นฐานภายในกล่อง จะมีที่ชาร์จ 33W SUPERVOOC และสายดาต้า USB Type C พร้อมเคสใสซิลิโคน แต่จะไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้นะครับสำหรับรุ่นนี้
การใช้งานภายใน
OPPO Reno8 Z 5G ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform หน่วยประมวลผลระดับ 6 นาโนเมตร ที่รองรับ 5G ทั้งสองซิม มาพร้อมกับ RAM ขนาด 8GB มีความสามารถในการขยายแรม Expansion RAM ออกไปได้อีก 5GB รวมเป็น 8GB + 5GB เหลือๆ ครับ หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB
รันบนระบบ Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1 รุ่นใหม่ ประสิทธิภาพความแรงรองรับสำหรับการเล่นเกมได้เต็มที่ในระบบ Android ถือว่าเป็นชุดประมวลผลระดับกลางที่สมดุลดีทั้งดานความแรงและการใช้พลังงาน
โดยภายในระบบทาง OPPO มีการใส่ AI System Booster ซึ่งเข้ามาช่วยดูแลให้การทำงานมีความเสถียร ลื่นไหลกว่าสเปคปกติมากขึ้นไปได้อีก ซึ่งระบบของ OPPO มักทำได้ดีในเรื่องความเสถียรเสมอมาครับ ทดสอบใช้ไม่เคยเจอปัญหาค้าง แลค หรือรีสตาร์ทครับ ระบบค่อนข้างดีมาก การใช้งานอยู่ในระดับ Mid-End เล่นเกมต่างๆ ทำได้ แรงเพียงพอต่อการใช้งานทุกอย่างไม่ติดขัดอะไรแล้วครับ
ระบบช่วยเหลือผู้เล่นเกมยังคงใส่เข้าให้ใน Game Mode สำหรับผู้ที่ต้องการเน้นความสำคัญในการเล่น เช่นปิดกั้นการแจ้งเตือน และเป็นหน้าต่างลัดที่จะใช้เรียกคำสั่งสำหรับโหมดเกมออกมาได้ในทันที ด้วยการสไลด์นิ้วจากขอบจอ สามารถปรับระดับความสมดุลของการใช้พลังงานตัวเครื่อง ว่าต้องการเน้นไปที่ประสิทธิภาพหรือควบคุมการใช้พลังงานครับ
ระบบการปรับแต่ง UI ใหม่ ที่ตัวระบบ ColorOS 12.1 เพิ่มความสามารถในการกำหนดความเป็นตัวเองบนหน้าจอสมาร์ทโฟนของเราได้มากขึ้นครับ เราสามารถนำภาพถ่ายหรือภาพใดๆ ที่มีโทนสีของภาพที่เราชื่นชอบ นำมาให้ AI วิเคราะห์และสร้างออกมาเป็นวอลล์เปเปอร์ในชุดโทนสีเดียวกันกับภาพนั้นๆ ขึ้นมาได้ เป็นธีมในแบบเฉพาะของเราเอง
โดยสามารถอ้างอิงภาพวอลล์เปเปอร์ที่เราสร้างขึ้น เพื่อนำชุดสีไปใช้กับสีของไอคอนและเมนูต่างๆ ที่อยู่ใน UI เราได้ด้วย เพื่อให้ทั้งหมดถูกปรับไปในโทนสีชุดเดียวกันครับ ปุ่มกดต่างๆ ก็จะปรับไปในสีเดียวกันกับภาพวอลล์เปเปอร์ใหม่ของเรานั้นเอง
การปรับเปลี่ยนรูปแบบไอคอน ธีม พร้อมกับภาพอนิเมชั่นเคลื่อนไหวในขณะสแกนลายนิ้วมือ สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งหมดในหน้าเมนูนี้ครับ
ColorOS 12.1 ยังมาพร้อมความสามารถในการควบคุมแบบไร้การสัมผัสด้วย เป็นฟังก์ชั่น Air Gestures เวอร์ชั่นใหม่ ที่ตัว AI จะสามารถตรวจจับสัญลักษณ์การเคลื่อนไหวของมือเราได้ด้วยกล้องหน้า ใช้การโบกมือเพื่อเลื่อนฟีดแทนการทัชในขณะที่มือเราไม่สะดวกจะไปทัชหน้าจอโทรศัพท์ หรือใช้การยกฝ่ามือเพื่อหยุดการเล่นวีดีโอใน Youtube หรือใช้การโบกมือขึ้นหรือลงเพื่อรับสายและวางสายในขณะที่มือเราเลอะเป็นต้นครับ
Omoji พัฒนาใหม่ เพิ่มเติมตัวเลือกที่จะอวาตารของเราด้วยของตกแต่งเพิ่มเติมจากเดิมอีกกว่า 20 รายการ ใช้เพื่อสร้าง Omoji ที่เรานำไปใช้แทนตัวเราเอง
รองรับหน้าจอล็อคสกรีนแบบแสดงตลอดเวลามีให้ใช้งานใน OPPO Reno8 Z 5G หน้าจอแสดงผลที่จะแสดงวันเวลา และการแจ้งเตือนที่ติดต่อเข้ามาให้เราเห็นได้อยู่เสมอโดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอซะก่อน
ระบบเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน โดยจะมีระบบพื้นที่ส่วนตัว ระบบล็อคแอพไม่ให้ผู้อื่นใช้งาน ป้องกันไว้ด้วยรหัสเพิ่มเติม และความสามารถในการซ่อนแอพพลิเคชั่นจากหลักของระบบ
ความปลอดภัยสำหรับให้เด็กใช้งาน ด้วยโหมดพิเศษที่ผู้ปกครองสามารถควบคุมได้ ควบคุมกำหนดแอพที่จะให้เด็กใช้ และล็อคเอาไว้ด้วยรหัสไม่ให้เด็กออกมาจากโหมดป้องกันได้เองครับ โหมดนี้เอาไว้สำหรับใครมีลูกมีหลาน อยากให้สมาร์ทโฟนยืมใช้ แต่ก็ยังควบคุมการใช้งานของเขาได้โดยที่เราไม่ต้องเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลาครับ
มีโหมดที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เป็นโหมดที่จะขยายขนาดไอคอน ขยายขนาดเมนู เพิ่มความดังของระดับเสียง และลดความซับซ้อนของการใช้งานลงไป เพื่อให้ผู้ใหญ่ลดความสับสน และมองเห็นอะไรได้ชัดเจนมากขึ้นครับ สำหรับใครที่อาจจะมองหาสมาร์ทโฟนเอาไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่ใช้งานสักเครื่อง ระบบของ OPPO ก็ทำมารองรับความต้องการในตรงนี้เอาไว้ให้ครับ
สรุปท้ายรีวิว
สมาร์ทโฟนเครื่องสวยสายถ่ายภาพ ถ่ายคนได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ สมคำนิยาม The Portrait Expert จับโฟกัสบุคคลแม่นยำ ปรับแต่งใบหน้าได้เนียนสวยกำลังดี ด้วยฟีเจอร์เด็ดอย่าง AI Portrait Retouching ที่คอยช่วยปรับรูปหน้า ลบสิว ลบฝ้า ปรับความเนียนใสได้ละเอียดถึง 100 ระดับ ทำออกมาได้ดีจริงๆ ครับสำหรับการปรับใบหน้าบุคคลของ AI Portrait Retouching
และฟังก์ชั่น Bokeh Flare Portrait สำหรับการเพิ่มความโดดเด่นสวยงามให้โบเก้ด้านหลัง ช่วยเสริมเข้ามาให้ภาพบุคคลดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เป็นฟังก์ชั่นที่เหมาะทั้งการถ่ายภาพกลางวันและกลางคืน และสำหรับสายเซลฟี่น่าจะสนุกไปกับ Selfie HDR ความสามารถที่ทำให้เราสามารถเซลฟี่ได้ทุกที่ ทุกทิศทาง โดยไม่ต้องสนใจมุมย้อนแสง ไม่ต้องเข้าใจเรื่องมุมกล้องมากนัก อยากจะเซลฟี่ตรงจุดไหนก็ถ่ายได้เลย เพราะเดี๋ยวตัว Selfie HDR จะคอยดูแลเกลี่ยแสงและเพิ่มรายละเอียดใบหน้าให้เราได้อัตโนมัติของมันเอง ทำให้เราสามารถใช้งานได้สนุกกับการถ่ายพอร์ตเทรตกันเต็มที่ครับ
ตัวเครื่องภายนอกก็สวย หรูหรา ดูเกินราคา ใช้งานผลิตแบบ OPPO Glow Design ทั้งมีความสวยงามและทนทาน ได้การจัดอันดับให้อยู่ในเกรด A จาก TÜV SÜD 36-Month Fluency Certification มีการออกแบบในสไตล์เป็นของตัวเองด้วยรูปทรง Ultra Slim Retro Design ขอบเครื่องตัดเหลี่ยม ทำให้ตัวเครื่องมีความทันสมัยและดูกระทัดรัด บางเพียงแค่ 7.66 มม. และเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ใช้ฝาหลังเป็นกระจกแบบ anti-glare 0.5 มม. ได้ผิวสัมผัสที่ละมุนมือและไม่เกิดแสงสะท้อนแยงตา
ทนทาน สวยงาม ใช้ได้ยาวนานหายห่วง
OPPO Reno8 Z 5G เปิดตัวออกมาในราคา 12,990 พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 18 สิงหาคม 2565 ผู้ที่สั่งจองจะได้รับของสมนาคุณเพิ่มเติม รวมมูลค่าของแถม 7,499 บาท
- E-VIP CARD มูลค่า 5,000 บาท การรับประกันจอแตกและรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี
- RENO BACKPACK มูลค่า 2,499 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3BiW1I6
