Advertisement

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ทาง AIS ได้ปล่อยแพ็กเกจรายเดือนที่น่าสนใจออกมาตัวหนึ่งครับ NEXT G Flexi Speed ตัวนี้ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เพราะว่ามันเป็นแพ็กเกจแรกที่เปิดให้ผู้ใช้งานได้เข้าไปปรับระดับความเร็วเน็ตสูงสุดตามที่เราต้องการตามใจได้ถึงสี่ระดับครับ ตั้งแต่ความเร็วเบาๆ ใช้อย่างประหยัด 2Mbps หรืออยากจะเร็วขึ้นมาอีกหน่อยแบบพอใช้ดูคลิปสตรีมมิ่งได้อย่าง 4Mb หรือจะเอาเผื่อๆ ใช้งานทั่วไปได้หมดแน่นอนกับความเร็ว 8Mb และสุดท้ายคือเปิดใช้งานเต็มพิกัดสปีดที่ AIS ให้บริการ (สูงสุดที่ 300 Mbps)

ข้อดีที่มันน่าสนใจอยู่ตรงที่การปรับความเร็วเน็ตสูงสุดตรงนี้ “อยู่ที่เราครับ” ไม่ต้องโทรไปแจ้งใคร ไม่ต้องย้ายแพ็กเกจไปไหน เราเปลี่ยนของเราเองง่ายๆ ได้ถึง 2 วิธีครับ (ซึ่งผมจะบอกวิธีตอนท้าย)

Advertisement

และที่สำคัญในแพ็กเกจ NEXT G Flexi Speed เขาให้เราได้ใช้ฟรี! กับบริการ AIS Next G รวมถึง AIS Super WiFi ด้วยนะสิครับ ฉะนั้นเมื่อเรามีเน็ต 3G/4G บวกรวมกับ AIS Super WiFi ที่ใช้ได้ไม่จำกัด เมื่อมันรวมกันก็คือเทคโนโลยี AIS Next G ที่เป็นการผสานเน็ต 4G มือถือกับเน็ต Wi-Fi เข้ามารวมกันเป็นหนึ่ง ในระดับความเร็วสูงสุด 1Gbps นั้นเองครับ

แต่แพ็กเกจ  AIS NEXT G Flexi Speed มันทำงานยังไงและมีข้อดีอะไร ผมจะพาไปรู้จักมันกันครับ

1 NEXT G Flexi Speed เป็นแพ็กเกจที่ให้เน็ตเยอะ

แพ็กเกจนี่เข้าใจง่ายดีครับ มีแค่สามราคา โดยในแต่ละระดับราคาจะได้ทุกอย่างคล้ายๆ กัน ต่างกันเพียงจำนวนการใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงสุดที่ไม่เท่ากันเท่านั้นตามดารางด้านล่างครับ

  • แพ็กสูงสุด 750 บาทจะได้เน็ต 4G/3G ไปใช้ 60GB (หลังจากใช้ครบ ใช้งานต่อได้ไม่จำกัดในความเร็วสูงสุด 384kbps)
  • แพ็ก 550 บาทจะได้เน็ต 4G/3G ไปใช้ 40GB (หลังจากใช้ครบ ใช้งานต่อได้ไม่จำกัดในความเร็วสูงสุด 256kbps)
  • แพ็ก 450 บาทจะได้เน็ต 4G/3G ไปใช้ 20GB (หลังจากใช้ครบ ใช้งานต่อได้ไม่จำกัดในความเร็วสูงสุด 256kbps)

โดยในทุกแพ็ก เราจะได้นาทีการโทรทุกเครือข่าย 200 นาที ใช้งาน AIS Super WiFi ได้ฟรีไม่จำกัด และใช้ AIS Next G ได้ไม่จำกัด 

จะเห็นว่า AIS NEXT G Flexi Speed เป็นแพ็คเกจที่ให้เน็ต 3G/4G มาค่อนข้างเยอะเมื่อดูจากราคา ใช้งานเน็ตหมดก็ยังใช้งานต่อเนื่องได้ไม่อั้นแค่ความเร็วถูกจำกัดลง แต่เมื่อบวกกับการใช้งาน AIS Super WiFi ได้ฟรีแบบไม่จำกัด เราจึงไม่ต้องห่วงเรื่องความเร็วเน็ตเลยครับ เพราะเราเอาทั้ง 4G และ WiFi มารวมกันเป็นระบบ AIS Next G ได้นั้นเอง แถมเขาให้ใช้ Next G ไม่จำกัดแบบไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มอีกด้วย ฉะนั้นใช้กันยาวๆ เลยครับ

2 ปรับสปีดเน็ตได้เอง รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน

การปลดข้อจำกัดเรื่องสปีดเน็ตที่ลูกค้ากำหนดได้เอง มันเปลี่ยนแปลงการใช้งานไปจากเดิมเยอะมากครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ใช้งานเน็ตแค่เรื่องพื้นๆ บ้านๆ เช่นการใช้เน็ตเล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค หรือใช้เพื่อการรับส่งข้อความหรือข้อมูลผ่านการแชต แม้กระทั่งการเล่นเกมออนไลน์ทั่วไป ลำพังแค่เน็ตความเร็ว 2Mbps หรือ 4Mbps ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ แถมประหยัดเน็ตหลักของเราให้ใช้งานได้ยาวนานด้วย

ซึ่งข้อดีของแพ็กเกจนี้ก็อย่างที่ผมบอก มันแถม AIS Super WiFi และ Next G มาให้ด้วย ฉะนั้นเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มี AIS Super WiFi (ซึ่งทั่วประเทศมีเยอะมากๆ) มันก็จะต่อเข้ากับระบบ Next G ให้เราใช้งานความเร็วเน็ต 2Mbps ของเรารวมกับสปีดของ WiFi โดยอัตโนมัติได้เอง

ในวันหยุดยาวต้องการเดินทางออกนอกตัวเมือง อาจจะไม่มีจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi มาช่วยระหว่างเดินทางครับ เราก็ยังสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยการปรับเน็ตให้เร็วขึ้นสักหน่อย อาจจะปรับเป็น 8Mbps ซึ่งเป็นความเร็วที่ผมแนะนำเลยว่าพอแล้วสำหรับการใช้งานแทบทุกอย่าง ถ้าเน็ตยังเหลือๆ ก็เปิดเต็มพิกัด “MAX” ไปเลยก็ได้ครับ

ด้วยการปรับเปลี่ยนได้ของความเร็วเน็ตสูงสุด มันเหมือนกับก๊อกน้ำที่เราปรับระดับความแรงได้ ทำให้เน็ตที่เรามีสามารถใช้งานได้คุ้มค่าและยาวนานกว่าแบบเดิมๆ เยอะเลยละครับ ซึ่งผลหลังจากการปรับก็ควบคุมสปีดได้แม่นมากครับ แต่แอบเกินๆ ให้ลูกค้าชื่นใจนิดนึง ^^ สองกว่าๆ 555

3 การปรับสปีดทำได้ง่าย ปรับได้ถึง 10 ครั้งต่อเดือน และมีผลทันทีที่ปรับ 

AIS NEXT G Flexi Speed ไม่ได้มีดีแค่เป็นแพ็กเกจที่ปรับได้ แต่มัน “ปรับง่าย” ด้วยครับ เพราะการปรับสปีดเราสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ทำได้สองวิธิผ่านหน้าจอโทรศัพท์ของเราเลยครับ

ช่องทางแรกกับการปรับสปีดผ่านหน้าแอพพลิเคชั่น “my AIS” (รองรับทั้ง Android และ IOS ) เข้าแอพพลิเคชั่น > เลือกเมนู แพ็กเกจ > แพ็กเกจปัจจุบันของคุณ > ปรับความเร็วเน็ต > เลือกความเร็วสูงสุดที่ต้องการ

อีกหนึ่งช่องทางคือการกดหมายเลขโทรออก โดนการกด *666*สปีดเน็ตที่ต้้องการ# แล้วโทรออก ดูตามภาพตัวอย่างด้านล่างก็ได้ครับ และสามารถเช็คสปีดสูงสุดที่สมัครไว้ได้ด้วยการกด *666# แล้วโทรออกเช่นกันครับ

จากที่ผมทดสอบใช้ หลังจากกดปรับสปีดแล้วมันจะมีผลแทบจะในทันทีเลยครับไม่ต้องรอ จะปรับกลับมาประหยัด หรือจะปรับเพิ่มเพื่ออัพเดทแอพสำคัญอย่างเร่งด่วนก็ทำได้เลย โดยใน 1 รอบบิลเราสามารถกดปรับสปีดเน็ตไปมาได้ถึง 10 ครั้งนะครับ ครบรอบบิลก็จะรีเซ็ตใหม่ โดยจะมีจำนวนการปรับคงเหลือแจ้งไว้ที่หน้าแอพด้วยครับ

สรุปท้ายรีวิว

ด้วยราคาที่ไม่แพง เริ่มต้นที่ 450 บาท และแพงสุดคือ 750 บาท แต่ได้อินเตอร์เน็ตใช้เยอะพอสมควร บวกรวมกับบริการ AIS Super WiFi และ Next G ที่ให้ใช้งานกันเต็มๆ แบบไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติมค่อนข้างคุ้มมากครับ

และการที่เราปรับสปีดเน็ตได้ตั้งแต่ 2Mbps/ 4Mbps/ 8Mbps และแบบเต็มสปีด ทำให้เราไม่ต้องเลือกตั้งแต่ตอนสมัครครับ เพราะมันแทนได้หมดทุกแพ็ก เฉลี่ยการใช้งานได้เองไม่ต้องโทรไปเสียเวลากับ Call Center บ่อยๆ

และต้องชม AIS ด้วยครับ ทำระบบการปรับมาได้ดีและใช้งานง่าย มีผลทันทีที่ปรับ ทำให้นึกถึงตัวเน็ตบ้าน AIS Fibre ที่ปรับสปีดได้เอง ของเขาก่อนหน้านี้ครับ ทำออกมาได้ดีเช่นกันเลย

ก็เป็นแพ็กเกจรายเดือนแนะนำในช่วงนี้ครับ ใช้งานดี ใช้งานง่าย ประหยัด และแรงสุด ทั้งหมดครบเลยในแพ็กเกจเดียว

รายละเอียดเพิ่มเติม

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version