เทคโนโลยีคือความรู้ เป็นความรู้ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศเราต้องรู้จักนำมาประยุกต์ใช้งานให้เหมาะสม หากเราทำได้ “เราจะกลายเป็นนายของเทคโนโลยี” แต่หากเรานำมาใช้งานไม่เหมาะสม เราก็จะตกเป็นทาสของมันตลอดไป
ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอนำเสนอการนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ ได้อย่างเหมาะสม สร้างสรรค์และมีประโยชน์ นั่นคือ การสร้างระบบติดตามและดูแลบุตรหลานของเราผ่านบัตรอิเล็กทรอนิคส์และการส่งข้อมูลผ่าน SMS ให้ผู้ปกครอง ซึ่งระบบที่กล่าวถึงนี้เป็นผลงานการริเริ่มของโรงเรียนสามโคก จังหวัดปทุมธานี โดยการทำงานนั้นจะทำผ่านบัตรประจำตัวนักเรียนอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับใช้ในการบันทึกเวลาการเข้า-ออกของนักเรียน เช่นเดียวกับพนักงานออฟฟิศทั่วไป ซึ่งเวลาการเข้าและออกจะถูกบันทึกไว้ในฐานข้อมูลตามเลขบัตรประจำตัวนักเรียน หากนักเรียนคนใดสแกนบัตรเกินเวลา 08.20 น. เครื่องจะบันทึกว่ามาสายหรือขาดเรียนทันที พร้อมส่ง SMS ไปยังโทรศัพท์มือถือของผู้ปกครอง เพื่อให้มั่นใจว่าบุตรหลานได้เข้ามาเข้าเรียนจริง
ทางโรงเรียนระบุว่าในช่วงทดลองใช้ระบบนี้ยังมีปัญหาอยู่บ้างในเรื่องของปริมาณเครื่องสแกนและระบบสัญญาณ แต่ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีทั้งจากผู้ปกครองและนักเรียน ขณะที่นักเรียนมองว่าระบบบันทึกเวลาแบบใหม่นี้ทำให้พวกเค้ามีความรับผิดชอบและตรงต่อเวลามากขึ้น นอกจากการเก็บข้อมูลเวลาการเข้าเรียน ระบบนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองสามารถเช็คข้อมูลด้านอื่นๆ ผ่านเว็บไซต์ของโรงเรียน ทั้งเกรดเฉลี่ย ความประพฤติ โดยในอนาคตจะมีการพัฒนาให้สามารถเช็คข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นได้ด้วย
ถือว่าเป็นเรื่องน่าชื่นชม ที่ผู้บริหารโรงเรียนรู้จักนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม และในอนาคตหากมีการนำระบบ GPS มาระบุตำแหน่งของบุตรหลานให้ผู้ปกครองติดตามอย่างใกล้ได้คงดีไม่น้อยครับ เพื่อให้เทคโนโลยีได้เข้ามีส่วนช่วยในการดูแลบุตรหลานของเราได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องไม่มากจนเกินไป จนทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าถูกบังคับ และเกิดปัญหาอื่นตามมาได้อีก
ที่มา ThaiPBS
