Advertisement

Samsung Galaxy S5: Snapdragon 801, กล้อง 16MP, แสกนลายนิ้วมือ, เซนเซอร์วัดชีพจรและกันฝุ่นกันน้ำ

Glam_Galaxy-S5_Group3

ซัมซุงได้ประกาศอุปกรณ์เรือธงใหม่ล่าสุดของเขาออกมาแล้ครับเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา Galaxy S5 ประจำปี 2014 ในบาร์เซโลนา, สเปน

Advertisement

Samsung Galaxy S5 กับการออกแบบที่แปลกตาและสวยงาม หน้าจอ 5.1 นิ้วแบบ Full HD Super Amoled (1920 × 1080) พร้อม Algorithm ในการปรับความคมชัด และเทคโนโลยีปรับแต่งการแสดงผลตามสภาวะรอบตัว หน่วยประมวลผล quad-core Snapdragon 801 (MSM8974AC)  ด้วยความเร็ว 2.5GHz, Adreno 330 GPU  578MHz และแรม 2GB และมีเซ็นเซอร์ที่อยู่ในอุปกรณ์มากมายเหลือเกินครับ : Accelerometer, RGB Ambient light, geomagnetic, Proximity, Gyro, บารอมิเตอร์วัดอุณหภูมิและความชื้น, แสกนลายนิ้วมือและ Heart Rate ตัวเซนเซอร์วัดการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังตัวเครื่อง

ในเรื่องเชื่อมต่อ Galaxy S5 สนับสนุน Wi-Fi 802.11ac Wi-Fi และ 2X2 MIMO การผนวกรวมกันของการรับสัญญาณ Wi-Fi กับ 4GLTE เพื่อความเร็วสูงสุดในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หรือที่ Samsung เรียกว่า Download Booster, รองรับ NFC , IR Blaster อินฟาเรด และบลูทูธ 4.0 BLE / ANT + นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB 3.0 ซึ่งจะเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลขึ้นมากหลายเท่าตัว

ซัมซุงเปิดตัวเทคโนโลยีกล้องใหม่ ใน Galaxy S5 ทั้งในเรื่องของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์กล้องขนาด 16 ล้านพิกเซลที่สามารถถ่ายภาพวีดีโอ 4K (UHD) ที่ 30fps และ 1080p (FHD) ที่ 60FPS พร้อมซอฟแวร์ที่ซัมซุงได้เพิ่มโหมดกล้องใหม่ Virtual Tour Shot, Select Focus Mode, HDR (Rich Tone) และอื่น ๆ

ซัมซุงได้ติดตั้งชิปประมวลผลภาพโดยเฉพาะใน Galaxy S5 ลดความเร็วสำหรับการทำงานของชัตเตอร์ลง เหลือเพียง 0.3 วินาทีระหว่างถ่ายครั้งต่อครั้ง กล้องรองรับในการใช้งานวิดีโอคอลล์ / การประชุมสายวีดีโอ เป็นกล้องหน้าขนาดความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถถ่ายวีดีโอได้ในความละเอียด 1080p (FHD) 30fps อินเตอร์เฟซของกล้องทั้งหมดได้รับการปรับปรุงใหม่

ซัมซุงได้มีการติดตั้งเซ็นเซอร์แสกนลายนิ้วมือใน Galaxy S5 เราสามารถปลดล็อคอุปกรณ์ได้ด้วยการใช้ลายนิ้วมือในการแสกน และสำหรับการเข้าถึงการอนุญาตใช้จ่ายซื้อของผ่านบริการ PayPal, ลงชื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือเข้ารหัสป้องกันไฟล์ส่วนบุคคลและแอพพลิเคชันที่จะใช้ในโหมดส่วนตัว หรือเลือกเปิดโปรแกรมที่ต้องการโดยใช้หนึ่งนิ้วแสกนลงไปตามการตั้งค่าที่เราเคยตั้งไว้

อุปกรณ์สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP67  มีฝาปิดพอร์ต USB 3.0 ใต้เครื่อง

Galaxy S5 มาพร้อมกับ Android 4.4.2 KitKat และ TouchWiz UX อินเตอร์เฟซตัวใหม่ ที่ออกแบบมาได้ดูเบาและสบายตากว่าเดิมมาก  มีการเข้าถึงหน้าข้อมูลและสังคมได้ง่ายๆ ผ่านหน้าโฮมของตัวเครื่องได้เลย

ซัมซุงได้แนะนำโหมดเด็ก ซึ่งได้รับการออกแบบสำหรับให้ผู้ปกครองที่มีเด็ก และต้องการจะควบคุมการใช้งานสมาร์ทโฟนของพวกเขา

ซัมซุงดูจะเน้นไปกับเรื่องของการใช้งานเพื่อสุขภาพ ทั้งการออกแบบเครื่อง Galaxy S5 ให้เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซัมซุงได้มีการออกแบบใหม่ในแอพพลิเคชั่น S Health เพื่อให้เข้ากันกับการใช้งานของผู้ใช้และก็ดูสวยงามขึ้น ด้วยการเน้นปรับปรุงการทำงานในด้านสุขภาพที่มากขึ้นในหลายๆ อย่าง ทำให้ผู้ใช้วสามารถใช้งาสน Galaxy S5 ในการติดตามการออกกำลังกายและช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบและจัดการพฤติกรรมของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทานอาหาร ออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพ และที่ผมชอบมากที่สุดนั้นคือการตรวจสอบอัตราการเต้นหัวใจ เพราะนี้อาจจะเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่บอกได้เต็มปากเต็มคำว่า ไม่มีแล้วเราอาจจะถึงตายได้สำหรับคนที่มีปัญหาด้านหัวใจครับ

Galaxy S5 มีแบตเตอรี่ขนาด 2800mAh เป็นตัวเลขที่น่าสนใจ เพราะ Galaxy S5 ดูจะมั่นใจการใช้พลังงานของตนมาก มีการใส่โหมดใหม่ ที่เข้ามาช่วยในการประหยัดพลังงานขั้นสูงสุดนั้นคือ Ultra Power Saving ที่จะตัดฟังชั่นการทำงานส่วนใหญ่ทิ้งไป รวมทั้งเปลี่ยนการแสดงผลหน้าจอเป็นขาวดำเพื่อยืดอายุการทำงานของแบตเตอรี่ออกไปได้อีกถึง 20 ชั่วโมง

ขนาดตัวเครื่อง 142.0 x 72.5 x 8.1มิลลิเมตร และน้ำหนัก 145กรัม Galaxy S5 มาใน 2 ตัวเลือกกับขนาดที่จัดเก็บข้อมูลภายใน : 16GB และ 32GB (รองรับ MicroSD)  ซัมซุงยังไม่ได้พูดถึงการกำหนดราคาใด ๆ แต่จะเริ่มจำหน่ายในร้านค้าทั่วไปในช่วงวันที่ 11 เดือนเมษายนใน 150 ประเทศ

และสำหรับเมืองไทย Samsung บอกว่า เดือนหน้าได้เห็นตัวจริงกันแน่นอนสำหรับผู้ที่ติดตามการรีวิวทดสอบจากเราครับ ^^

HAND ON Samsung Galaxy S5

ภาพตัวเครื่องจริงจากในงานเปิดตัว

droid-life/sammobile

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version