Advertisement

Xiaomi เปิดตัว Redmi 12 สมาร์ทโฟนราคาเบารุ่นใหม่ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน คุณสมบัติออกแบบมาได้คุ้มค่ากับราคาจำหน่าย ที่เปิดตัวออกมาแค่ 5,299 บาท น่าใช้มากครับ ราคาดีคุ้มค่าตัว สมฐานะกับชื่อแบรนด์ Redmi ชื่อนี้ไม่มีผิดหวัง ราคาดีทุกตัวแน่นอน ^^

Redmi 12 สวยงามตามสไตล์สมาร์ทโฟนสมัยใหม่ ขอบเครื่องตัดเหลี่ยมดูกระทัดรัด เครื่องบางเข้ามือถือจับง่าย มีความบางเพียงแค่ 8.17มม. เท่านั้น สีเครื่องสวยมาก โดยเฉพาะสี Sky Blue ที่เห็นในบทความรีวิวนี้ สีน่ารัก มีการนำเข้ามาจำหน่ายมาสีครับ นั้นคือสี Sky Blue, Midnight Black, และ Polar Silver

Advertisement

หน้าจอแสดงผล FullHD+ DotDisplay ขนาด 6.79 นิ้ว เป็นจอที่ใหญ่มาก พื้นที่ด้านหน้าเป็นหน้าจอเกือบทั้งหมด ความละเอียดภาพดีครับ 2460×1080 และรีเฟรชเรทสูง 90Hz ความสว่างสูงสุด 550 nits หน้าจอสีสวย ภาพสวย ขนาดใหญ่ เต็มตาอ่านง่าย ทำให้ Redmi 12 เป็นรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่มากที่สุดในซีรีส์ และตัวเครื่องก็ไม่ใหญ่มากด้วยเพราะขอบจอเล็ก ลำโพงของมือถือรุ่นนี้ก็เสียงดังมาก ชัดเจนครับ

ติดตั้งกล้องหน้าสำหรับการถ่ายเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งาน

ตัวเครื่องมีการติดตั้งที่สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ให้ตรงปุ่มพาวเวอร์บริเวณขอบเครื่อง ตัวขอบเครื่องเคลือบสีไว้เป็นเฉดเดียวกันกับฝาหลัง และมี IR อินฟราเรดติดตั้งมาให้เผื่อจะใช้งานเป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เพราะมีการติดตั้งแอปรีโมทเอาไว้ให้ภายในเรียบร้อยแล้วด้วย

รองรับการใช้งานได้สองซิมการ์ดแบบไฮปริด สล็อตที่สองสามารถสลับไปใส่ micro SD Card ได้ในขนาดสูงสุด 1TB เชื่อมต่อสัญญาณ 4G ได้ทั้งสองซิม และยังรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi 5.0 ด้วย

ฝาหลังของเครื่องสี Sky Blue ที่นำมารีวิว จะเป็นพื้นผิวเคลือบเงาเหมือนกระจก แต่เคลือบไว้ดีไม่มีรอยนิ้วมือหรือคราบมัน เราไม่ต้องเช็ดกันบ่อยๆ ประกอบมาในมาตรฐาน IP53 กันฝุ่นและกันน้ำกระเซ็นมาโดนได้ไม่เสียหายจากความชื้นง่ายๆ

ด้านหลังติดตั้งกล้องชุดสามตัว กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล แม้กล้องหน้าจะให้มาเป็นกล้อง 8MP แต่กล้องหลังให้มาครบกำลังดีทีเดียว

แบตเตอรี่ภายในขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W โดยอุปกรณ์ภายในกล่องขายของ Redmi 12 ให้มาไม่งกครับ เป็นหัวชาร์จระดับ 22.5W มาให้เลย พร้อยสายดาต้า USB Type-C และเคสใสซิลิโคนที่แถมมาให้ภายในกล่อง

ตัวเครื่องสวย น่ารักมากครับ การเก็บงานเก็บขอบทำได้ดี เนียมมือและรู้สึกได้ถึงความแข็งแรง เป็นเครื่องราคาไม่แพงที่ได้มาตรฐานที่ดี สมราคาแบรนด์ Redmi ครับ

การใช้งานภายใน

Redmi 12 ภายในใช้ระบบ Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14 เป็นระบบใหม่ทั้งคู่ครับ เลือกใช้หน่วยประมวลผลตัวแรงดีสำหรับในเรทราคานี้ เป็นชิปเซ็ต MediaTek Helio G88 ที่โอเวอร์คล็อกไว้ถึง 2.0Ghz

พร้อม ROM 128GB และ RAM ที่ให้มาเยอะครับ 8GB กับความสามารถในการขยายแรมสำรองออกไปได้อีก 4GB รวมเป็น 8+4GB จากพื้นที่หน่วยความจำที่ยังไม่ใช้งาน สเปคโดยรวมถือว่าคุ้มกับราคา ในการใช้งานจะไม่รู้สึกตัดขัดอะไรครับ ทำงานได้ลื่นไหล เข้าออกแอปได้ไว ระบบมีความเสถียรดีทดสอบมายังไม่เจอปัญหาใดๆ เอามาเล่นเกมทั่วไป, แชต หรือเล่นโซเชี่ยลต่างๆ รุ่นนี้ถือว่าเพียงพอ

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ใช้ได้นานมาก ด้วยตัวเครื่องไม่ได้กินพลังงานมากนัก ถอดสายชาร์จตอนเช้า ใช้งานระดับทั่วๆ ไปอยู่ได้ทั้งคืน ฝืนหน่อยอยู่ได้เกือบสองวันครับ เปิดหน้าจอใช้งานต่อเนื่องจะกินพลังงานประมาณชั่วโมงละ 12% ในระดับความสว่าง 50% ฉะนั้นแม้หน้าจอจะใหญ่ แต่ก็ดูคลิปวีดีโอได้ยาวถึง 8 ชั่วโมงได้เลย

เวลาในการชาร์จพลังงานด้วยตัวอะเดปเตอร์ที่แถมมาให้ สามารถชาร์จไฟได้ประมาณนาทีละ 1% โดยประมาณครับ

หน้าจอแสดงผลRedmi 12 ยังรองรับโหมดการอ่าน 3.0 ที่พัฒนาให้ลดความเมื่อยล้าของสายตาในขณะใช้งานในที่แสงน้อยได้ดีครับ เพราะรุ่นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน SGS Low Blue Light มาด้วย โดยจะมีความสามารถทั้งการลดแสงสีฟ้าและการปรับหน้าจอให้กลายเป็นสีขาวดำเหมือนกระดาษได้ด้วย

ในด้านแอปบริการต่างๆ ทาง Redmi ได้เตรียมเครื่องมือเอาไว้ให้ใช้ในเครื่องหลายตัว เช่นแอปรีโมทเพื่อใช้งานคู่กับ IR อินฟราเรดของตัวเครื่อง, วิทยุ FM, เครื่องบันทึกเสียง และเครื่องมีด้านความปลอดภัย เป็นแอปดูแลสุขภาพเครื่อง สแกนไฟล์ขยะและสแกนความปลอดภัยในตัว ตรวจสอบการทำงานที่น่าสงสัยให้เราได้ในคลิ๊กเดียว

มีระบบล็อคแอปพลิเคชั่นเอาไว้ด้วยรหัส ป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าใช้งานแอปของเราได้ง่ายๆ และความสามารถในการโคลนแอป ทำแอปเดียวให้ใช้งานได้สองบัญชีในเครื่องเดียว อย่างเช่น Facebook เป็นต้นครับ ระบบทำมาครบครับ ดูไม่มีอะไรตัดขาดหรือหายไป

มี Game Turbo เป็นระบบเกมโหมด สำหรับเพิ่มความสะดวกในการเล่นเกม ปรับเปลี่ยนโหมดประสิทธิภาพของเครื่องและเรียกชุดเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับเกมออกมาได้ในทันที พร้อมกับปิดกั้นการแจ้งเตือนที่จะเข้ามารบกวนเราในขณะเล่นเกม

เราสามารถเปิดโหมดประสิทธิภาพสูงได้โดยตรงเมื่อเราเล่นเกม ผ่านชุดคำสั่งด่วนใน Game Turbo เรียกใช้ได้ด้วยการสไลด์นิ้วเข้ามาจากด้านข้างหน้าจอ เมื่อเปิดโหมดนี้แล้วตัวเครื่องจะเร่งศักยภาพเครื่องในระดับสูงสุด ทดสอบเล่นเกมในโหมดนี้จะมีความเสุถียรของเฟรมเรทในระดับที่สูงกว่าโหมดปกติชัดเจนครับ แต่ก็จะกินพลังงานมากขึ้นอีกเล็กน้อยด้วยเช่นกัน

กล้องถ่ายภาพ

Redmi 12 มีระบบกล้อง 3 ตัว ใช้กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซลทำงานร่วมกับ กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพระยะใกล้ 4CM ไปจนถึงมุมกว้าง 0.5X ไปจนถึงซูมดิจิทัล 10X

Redmi มีความสามารถในการถ่ายภาพความละเอียดสูง 50MP ถ่ายแล้วนำมาขยายใช้บางส่วนยังได้ความคมชัดในนะดับหนึ่งได้ โดยไม่ต้องอาศัยการซูมภาพเพียงอย่างเดียว

Redmi 12 ใส่ฟิลเตอร์ปรับสีสันให้กับภาพมาหลายตัว

มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง และมีโหมดการถ่ายภาพครบอยู่ครับ นอกจากโหมดมาโครและมุมกว้างแล้ว ก็มีโหมดถ่ายภาพบุคคลละลายหลัง เลือกระดับการละลายได้แบบเรียลไทม์ แต่ขาดเรื่องของฟังก์ชั่นบิวตี้ไปนะครับ ไม่มีความสามารถในการปรับใบหน้าเนียนใสใส่เข้ามาให้ คุณภาพของกล้องอยู่ในระดับสมราคาครับ ไม่ได้โดดเด่นมากแต่ใช้งานทั่วไปได้

สรุปท้ายรีวิว

ตัวเครื่องมาตรฐานดี ดูสวยงามแม้ราคาจำหน่ายไม่แพง ตัวเครื่องบางแต่แบตเตอรี่เยอะ และให้หน้าจอมาขนาดใหญ่มาก เป็นจอคุณภาพที่ดีด้วย ความคมชัด FullHD+ สีสวย ขอบจอบาง และรีเฟรชเรท 90Hz ระบบมีความเสถียรใช้งานมาไม่พบปัญหาใดๆ

มี RAM ขนาดใหญ่ 8GB สามารถขยายได้อีกสูงสุดอีก 4GB ให้หน่วยความจำภายในมา 128GB ถือว่าให้แรมมาเยอะครับ หน่วยประมวลผล G88 มีความแรงมากพอตัว สามารถนำมาใช้งานทั่วไปได้สบาย และสามารถเล่นเกมได้แบบไม่ติดขัดอะไรครับ

Redmi 12 เปิดขายในขนาดความจุ 8GB+128GB ในราคา 5,299 บาท โดยเข้ามาจำหน่ายในไทย 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Sky Blue และ Polar Silver สามารถไปจับตัวจริงได้แล้ว ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version