Advertisement

Samsung Galaxy S8 และ S8 Plus เป็นสองสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับบริการ ฟังก์ชั่น และอุปกรณ์เสริมที่เด็ดๆ หลายตัวมากครับ ซึ่งทาง Samsung ปูพรมปล่อยของกันแบบไม่ต้องให้ผู้ใช้รอกันนาน รวมทั้งการมาของ Samsung DEX อุปกรณ์ตัวเด็ดที่จะนำมาแนะนำกันในบทความนี้ด้วยเช่นกันครับ

ในปีนี้ทาง Samsung ประเทศไทยเองก็มีการนำเข้าอุปกรณ์เสริมแท้ จากต่างประเทศหลายตัวเข้ามาจำหน่าย มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการออกมา และสำหรับเจ้า Samsung Dex ตัวนี้มีราคาจำหน่ายในไทยอยู่ที่ 3,900 บาท ครับ เรามาดูกันว่าตัวมันทำอะไรให้เราได้มากแค่ไหนครับ

Advertisement

Samsung Dex เป็นอุปกรณ์เสริมที่ผมว่ามันน่าสนใจมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานเครื่องสมาร์ทโฟนให้เป็นมากกว่าแค่เครื่องสมาร์ทโฟน อธิบายคุณลักษณะของมันแบบง่ายๆ ก็คือ

“Dex ก็คือฐานด็อกกิ้งที่เมื่อประกอบร่างกับ Galaxy S8 หรือ Galaxy S8 Plus แล้ว ก็จะกลายเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี เอาไว้ต่อการทำงานออกหน้าจอทีวีหรือจอมอนิเตอร์ได้ นั้นเองครับ”

โดยที่ฐานรอบๆ ตัวของอุปกรณ์ Dex จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อเอาไว้ให้ไม่ต่างกับเครื่องคอมพิวเตอร์ มีพอร์ต USB 2.0 x 2 พอร์ต มีที่เสียบสาย LAN และพอร์ต HDMI สำหรับการต่อออกหน้าจอทีวี และสุดท้ายคือพอร์ตสำหรับเสียบสายชาร์จไฟ USB Type C ซึ่งต้องใช้ตัวชาร์จของทาง Samsung ที่เป็นระบบ Quick charge  มาเสียบนะครับ เพื่อกำลังไฟที่มากเพียงพอ

ด้านบนตัว Dex จะเป็นเหมือนฐานทรงกรมที่พับตัวเองไปด้านหลังได้ ภายในเป็นด็อกกิ้งสำหรับการวางเครื่องสมาร์ทโฟนในรุ่นที่รองรับลงไป (ตอนนี้รองรับ Galaxy S8 และ Galaxy S8 Plus เท่านั้น) โดยจะมีหัว USB Type C รองรับอยู่ด้านล่าง เมื่อเสียบอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่รองรับกันเข้าไปแล้ว ก็จะเป็นการพร้อมเข้าใช้งานในโหมดของ Samsung DEX โดยทันทีครับ

จากการทดลองใช้เครื่อง S8 ที่สวมใส่เคส เสียบเข้ากับ Dex จะสามารถสวมใส่เคสบางประเภทได้ในขณะที่เชื่อมต่อครับ ถ้าเคสไม่มีความหนาหรือใหญ่มากเกินไป Samsung ออกแบบมาให้มีระยะห่างเผื่อเอาไว้ประมาณหนึ่ง

กฏการเชื่อมต่อ Samsung DEX ให้พร้อมทำงาน

  1. เสียบสาย HDMI เข้ากับจอมมอนิเตอร์หรือทีวีเอาไว้แล้ว
  2. เสียบสายแหล่งไฟเข้า โดยใช้ตัวหม้อแปลงไฟของเครื่อง Galaxy S8 หรือ Galaxy S8 Plus (หรือรุ่นอื่นๆ ที่รองรับ)
  3. เสียบตัวสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งาน Samsung Dex ได้เข้ากับด็อกกิ้ง

ตัว Samsung Dex เมื่ออยู่ในสถานะเชื่อมต่อพร้อมใช้จะทำหน้าที่เป็นแท่นชาร์จตัวสมาร์ทโฟนไปในตัวด้วย โดยมันนับเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กน้ำหนักเบาครับ จะพกพาใส่ประเป๋าเดินทางติดตัวเดินทางไกลไปด้วยก็ไม่ยากเลย

โดยโหมดการแสดงผลของ Samsung Dex ที่จะส่งผ่านไปบนหน้าจอมอนิเตอร์หรือจอทีวี จะมีสองโหมดด้วยกันครับ แล้วแต่เราจะเลือกใช้

โหมดแรกก็คือโหมดแบบ Screen Mirroring หรือโหมดการเลียนแบบการแสดงผลหน้าจอจากตัวโทรศัพท์นั้นเองครับ สำหรับใครที่ต้องการแค่ขยายการแสดงผลจากหน้าจอของโทรศัพท์ไปยังหน้าจอของมอนิเตอร์แบบไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเลย

อีกหนึ่งโหมดที่เป็นตัวเด็ดก็คือโหมดแสดงผลแบบ Samsung Dex ซึ่งจะมีการจำลองให้คล้ายกับรูปแบบของคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปหรือพีซีโดยทั่วไปเลยครับ โดยจะมีสถานะการแจ้งเตือนทั้งหลาย และไอคอนของแอพพลิเคชั่นที่เราเปิดใช้งานเอาไว้อยู่ที่ด้านแถบงานด้านล่าง

ด้วยความที่ตัว Dex พร้อมจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายนอกได้ผ่านทางพอร์ต USB ฉะนั้น มันจึงสามารถเสียบใช้งานคีย์บอร์ดและเมาท์ได้แบบที่เราเคยใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เลยครับ ทั้งแบบมีสายหรือไร้สาย รวมถึงอุปกรณ์หน่วยความจำต่างๆ ก็รองรับการใช้งานกับ Samsung Dex ได้เช่นกันครับ ส่วนในเรื่องของระบบเสียงเราจะเลือกให้เสียงไปดังออกที่ตัวมอนิเตอร์หรือที่ตัว Dex เอง ก็ได้ครับ ถ้าสมาร์ทโฟนของเรามีการเชื่อมต่อลำโพงภายนอกเอาไว้ เสียงก็จะไปดังผ่านลำโพงที่เชื่อมต่อเอาไว้ได้ครับ

หน้าจอการทำงานในรูปแบบที่มีเดสท็อป จะสามารถกางการทำงานหลายๆ แอพพลิเคชั่นออกมาได้แบบเป็นหน้าต่างๆ ซึ่งสามารถลากย้ายจำแหน่ง พับเก็บลงล่าง หรือปิดแอพลงไปเลยก็ได้

หรือจะทำงานแบบเต็มหน้าจอก็ได้เช่นกันโดยมีไอคอนให้กดขยายและย่อได้เหมือนการทำงานในเครื่องระบบ Windows และ Mac OS เลยครับ

ในขณะที่เชื่อมต่อในรูปแบบของ Samsung Dex ความสามารถเดิมของสมาร์ทโฟนไม่มีอะไรที่หายไป มันยังคงทำงานได้ทุกอย่างผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ เช่นการเข้าสโตร์เพื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่น การเรียกใช้แอพหรือข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในเครื่องสมาร์ทโฟน และการแจ้งเตือนที่มาในรูปแบบของป็อบอัพด้านมุมขวาล่าง รวมทั้งเรายังสามารถโทรออก รับสายและวางสายโทรศัพท์ รวมถึงการสนทนาผ่านไมค์และลำโพงแบบแฮนด์ฟรีหรืออุปกรณ์บลูทูธที่เชื่อมต่อ

Samsung พยายามออกแบบการใช้งานในโหมด Dex ให้เราคุ้นชินจากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ มากที่สุดครับ ประสิทธิภาพมากพอจะเรียกว่าลื่นไหล เรียกใช้งานและเปิดปิดแอพพลิเคชั่นได้ฉับไว สิ่งเดียวที่ดูเป็นข้อจำกัดของโหมดการใช้แบบ Dex ก็คือการแสดงผลของบางแอพพลิเคชั่นในเรื่องของสัดส่วน บางแอพเมื่อไปอยู่บนหน้าจอมอนิเตอร์แล้วจะผิดเพี้ยนไปครับ ฟ้อนใหญ่บ้างซ่อนกันบ้าง แต่จากที่ทดสอบมามีน้อยครับ เป็นอยู่แค่ไม่กี่ตัว

เพราะในแอพพลิเคชั่นตัวหลักๆ มีการปรับสัดส่วนและการแสดงผลได้เป็นปกติครับ จะใช้งานดูหนัง เช็คเมล พิมพ์เอกสาร เข้าใช้งานเว็บไซด์ ทำได้หมด และทำได้ดีด้วย แต่การเล่นเกมอาจจะลำบากหน่อยตรงในส่วนการควบคุมครับ เพราะปกติเกมบนมือถือจะเน้นใช้การทัชบนหน้าจอโดยตรง ลำพังเมาท์อันเดียวอาจจะเล่นยากต้องลองเล่นกับเกมที่ต่อจอยควบคุมได้ครับ

และแอพพลิเคชั่นบางตัวจะมีการหยิบมาแนะนำเป็นพิเศษ เพราะทาง Samsung จะแยกแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นออกมาแนะนำในสโตร์ของ Dex เองเลย ในเริ่มแรกนี้จะมีแค่แอพพลิเคชั่นชุด Office ของทาง Microsoft และ eBay ที่ใส่เข้ามาให้ครับ

ใครมีซื่อชุด Office ไว้ใช้อยู่แล้ว ก็พร้อมจะทำงานแบบจริงจังบน Samsung Dex ได้ทันที คีย์บอร์ดที่นำมาเชื่อมต่อจะรองรับการเปลี่ยนภาษาบนแป้นพิมพ์ที่ได้ครับ ใช้งานการพิมพ์ภาษาไทยได้เลย รองรับคำสั่งช็อตคัททั้งหลายเช่น Copy หรือ Cut การลากและวางไฟล์ระหว่างหน้าแอพด้วยเมาท์ รวมทั้งคำสั่งผ่านการคลิ๊กเมาท์ขวา มีทั้งหมดครับ ซึ่งจะมีแป้นพิมพ์เสมือนให้ใช้งานบนหน้าจอได้ด้วยเช่นกันนะครับ

 

ความสามารถน่าสนุกและน่าสนใจแบบนี้ มีราคาแค่ 3,900 บาท แต่เพิ่มความสามารถของ Galaxy S8 และ S8 Plus ออกไปได้อีกมากโข เปิดโลกการทำงานแบบจริงจังให้กับสมาร์ทโฟนได้ ผมนับว่าเป็นความคุ้มค่าที่น่าลงทุนมากๆ ครับ

สรุปความน่าใช้ของ Samsung Dex

  • เปลี่ยนรูปแบบการใช้งานจากสมาร์ทโฟน ให้กลายเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเหมาะสมกว่าในการทำงานหลายลักษณะ เช่นงานเอกสาร งานแต่งรูปภาพ และการใช้งานที่ต้องการการแสดงผลขนาดใหญ่
  • สามารถใช้แอพพลิเคชั่นของระบบ Android ได้ในรูปแบบของคอมพิวเตอร์เดสท็อป
  • ใช้ข้อมูลและการทำงานที่ต่อเนื่องกันจากเครื่องสมาร์ทโฟน กลับจากนอกบ้านพร้อมทำงานที่ต้องการบนหน้าจอมอนิเตอร์ได้แบบต่อเนื่องทันที
  • ราคาไม่แพง มีการดีไซน์ที่สวยงาม เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่โชว์ความสวยงามภายในบ้านได้อีกหนึ่งอุปกรณ์

 

 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version