Advertisement

Redmi 10 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เลือกใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 2.2GHz เพื่อการใช้งานที่รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 5G เปิดตัวมาในราคาเย้ายวนใจสำหรับวัยรุ่นอีกแล้วครับ ในราคา. …… มาดกันว่าภายใน จะมีอะไรอยู่บ้างครับ

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09276

Advertisement

Redmi 10 5G มาด้วยความน่าสนใจที่เป็นสมาร์ทโฟนในกลุ่ม 5G แบบเต็มตัว แต่มาในเรทราคาระดับเริ่มต้นครับ รองรับการใช้งาน 5G แบบ Dual Sim สามารถเชื่อมต่อ 5G ทุกค่ายของไทยได้พร้อมกันทั้งสองซิมการ์ด  เสียบซิมแล้วใช้งานได้เลย ให้ถาดใส่ซิมมาแบบสามสล็อต รองรับการใส่ micro SD Card ได้เพิ่มเติม

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09280

Redmi 10 5G ทำได้ดีกับราคาสำหรับสมาร์ทโฟน 5G และยังโดดเด่นด้วยการให้หน้าจอที่ดีมาด้วยครับ เป็นจอขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว Dot Drop 90Hz FHD+  ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 3 จอใหญ่ ความคมชัดดี รีเฟรชเรทสูงพอประมาณ ก็ดูจะเหมาะสมกับสายความบันเทิง ที่ชอบเล่นเกมหรือดูวีดีโอสตรีมมิ่งต่างๆ นะครับ

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09247

Redmi 10 5G มีการนำเข้ามาจำหน่ายสองตัวเลือก โดยมีรุ่น RAM 4GB+64GB และ RAM 6GB+128GB ราคาเปิดตัวอยู่ที่  5,999 บาท และ 7,299 บาท ตามลำดับครับ

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09274

ความพิเศษในด้าน RAM และ ROM ของ Redmi 10 5G คือ ความสามารถในการขยายแรมออกไปได้อีก 2GB จากหน่วยความจำที่ยังไม่ถูกใช้งาน และการเลือกใช้หน่วยความจำชนิด UFS 2.2 ที่มีความเร็วในการเขียนข้อมูลไวมากกว่า UFS 2.1 ที่เป็นมาตรฐานส่วนใหญ่ของสมาร์ทโฟนในเรทระดับกลางลงมายังใช้กันอยู่ ก็จะช่วยในการเพิ่มความเร็วเวลาโหลดไฟล์มาลงเครื่อง หรือติดตั้งแอพ ถือว่าเป็นการอัพเกรดเล็กๆ ที่ Redmi ใส่เข้ามาให้ในเครื่องรุ่นนี้ครับ

ตัวเครื่องฝาหลังโค้ง พื้นผิวสัมผัสด้านแบบผิวพลาสติกทำลวดลายเส้นโค้ง ตัวที่เห็นในรีวิวนี้คือสี Chrome Silver มีการนำเข้ามาสามสีร่วมกับสี Graphite Gray และ Aurora Green

ตัวเครื่องหนา 8.9 มม. น้ำหนัก 200 กรัม ใช้พอร์ทชาร์จแบบ USB Type C และมีรูหูฟัง 3.5มม. ลำโพงเสียงดังมากครับ เปิดดังสุดเสียงไม่แตก และเป็นรุ่นที่มี IR Blaster สำหรับใช้เป็นรีโมทอินฟราเรดกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้เช่นเดิมครับ

แบตเตอรี่ภายในใส่มาให้ใหญ่ครับ 5,000mAh ทดสอบใช้งานมาอยู่ได้ทั้งวัน ตัวระบบจัดสรรพลังงานดีไม่กินแบตเตอรี่ เปิดหน้าจอใช้ต่อเนื่องจะใช้แบตเตอรี่ประมาณ 12% ต่อชั่วโมง รุ่นนี้รองรับระบบชาร์จไวด้วยครับ 18W fast charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ในเวลาประมาณ 35 นาทีครับ

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09262

ใช้ที่สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตรงปุ่มพาวเวอร์ ออกแบบมามีขนาดใหญ่ดีครับ สแกนได้ไวไม่มีปัญหา

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09197

กล้องหน้าความละเอียดไม่สูงมาก 5 ล้านพิกเซล รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานด้วยกล้องหน้าได้เช่นกัน ส่วนกล้องหลังเป็นกล้องคู่ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และเลนส์ depth 2 ล้านพิกเซล ตัวกล้องมี AI, HDR และโหมดถ่ายภาพสำคัญอย่างโหมดถ่ายภาพบุคคลที่ปรับชัดลึกชัดตื้นได้ และโหมดถ่ายภาพกลางคืนมีมาให้ใช้ครับ ตัวอย่างภาพถ่ายผมเอามาฝากกันในท้ายรีวิวนี้ด้วยครับ

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09225

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09271

อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีเคสใสซิลิโคนมาให้ เป็นเคสเนื้อหนาทำมาได้แน่นดีครับ และสายดาต้า USB Type C แล้วก็ที่ชาร์จแบบ 22.5W แถมมาให้ครับ เรียกว่าให้ที่ชาร์จมาเกินเบอร์ของสมาร์ทโฟนกันไปนิดหน่อย เสียบแล้วก็จะรองรับ MAX ของตัวสมาร์ทโฟนที่ 18W ครับ

การใช้งานภายใน

Redmi 10 5G รันด้วยระบบ Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 13 ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 2.2GHz เทคโนโลยีการผลิตระดับ 7 นาโนเมตร ทำงานร่วมกับ ROM ที่เป็น UFS 2.2 และ RAM ที่มาในสองขนาดตัวเลือก คือ 4GB และ 6GB ซึ่งในรีวิวนี้ทางผู้เขียนได้ลองใช้งานในเครื่องรุ่นขนาด 6GB นะครับ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ผู้เขียนขอแนะนำเช่นกัน เพราะราคาต่างกันไม่มาก

ตัวระบบมีความสามารถในการขยายแรมออกไปได้ได้อีก 2GB ด้วยสเปคระดับนี้ก็ถือว่าวงการสมาร์ทโฟนถูกยกระดับขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาด้วยชิปเซ็ต Dimensity 700 ก็ว่าได้ครับ มันมีความแรงมากพอตัวในการใช้งานบนระบบ Android อย่างเพียงพอ ทั้งการใช้งานทั่วไปและการเล่นเกม แม้อาจจะไม่แรงสุดเหมือนเครื่องรุ่นใหญ่

หน้าจอใหญ่คือจุดขายหลักครับ ความคมชัด FullHD+ รีเฟรชเรท 90Hz ถือว่าหน้าจอสเปคใช้ได้เลย เล่นเกมได้เต็มตา รับชมคลิปได้สบาย ภาพสวยๆ ครับรุ่นนี้ และนอกจากจะรองรับกับสัญญาณ 5G แล้ว ตัว Redmi 10 5G ก็รองรับสัญญาณ WiFi ทั้ง 2.4 และ 5.0GHz ด้วย ฉะนั้นการเชื่อมต่อใช้งานอินเตอร์เน็ตคล่องตัวทั้งในบ้านและนอกบ้าน

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09251

Redmi-19-5G-Xiaomi-Review-DSC09257

ภายใน MIUI 13 มีตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถปรับระดับปริสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องได้สามระดับ แยกแตกต่างกันตามการใช้พลังงาน มีโหมดประหยัดพลังงาน โหมดสมดุล และโหมดประสิทธิภาพ เลือกปรับใช้งานได้ตามต้องการ

และโหมดประหยัดพลังงานระดับอัลตร้า ที่จะยืดอายุการทำงานของแบตเตอรี่ออกไปได้มากกว่าสามเท่าตัว โดยตัวระบบจะปิดการทำงานเบื้องหลังที่ไม่จำเป็นออกไปทั้งหมด เหลือไว้แต่หน้าธีมสีดำที่จะแสดงเพียงไอคอนแอพที่เราเลือกเอาไว้เท่านั้น เป็นโหมดฉุกเฉินกันตายนั้นเองครับ

Xiaomi-Redmi-Note-10-5G-007

มีโหมดธีมสีดำ และหน้าจอแสดงผลสามารถปรับระดับรีเฟรชเรทพื้นฐานที่ใช้งานได้เอง ระหว่าง 60Hz และ 90Hz ปรับลดแสงสีฟ้าในโหมดถนอมสายตาได้ หรือปรับหน้าจอให้เป็นสีขาวดำแบบกระดาษก็ได้เช่นกันครับ สำหรับใครที่ต้องการจะใช้มือถืออ่านหนังสือเป็นเวลานานๆ

โหมดสำหรับคนเล่นเกม Game Turbo ใช้เป็นพื้นที่ในการรวบรวมไอคอนเกมเพื่อเริ่มต้นการเล่น และเป็นการบอกเครื่องให้เตรียมพร้อมมากที่สุด

 

ทั้งการเร่งประสิทธิภาพเครื่องให้เป็นระดับสูงสุด การเร่งความเร็วสัญญาณไร้สาย และการปิดกันการทำงานบางอย่างที่จะเข้ามารบกวนเราในขณะเล่นเกมได้ เช่นการปิดแถบการแจ้งเตือน และปิดการปรับความสว่างอัตโนมัติของหน้าจอเป็นต้น เป็นการตั้งค่ากำหนดเอาไว้ล่วงหน้าให้ทำงานได้เองทันทีที่เราเปิดเกมครับ

ประสิทธิภาพใช้ได้ หน้าจอใหญ่ดี รองรับ 5G ด้วยราคาระดับนี้ถือว่าน่าใช้ทีเดียวครับ

กล้องถ่ายภาพ

Redmi 10 5G มาพร้อมกล้องหลังคู่ กล้องหลักเป็นกล้องความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้อง depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ช่วยจับโฟกัสสร้างภาพละลายหลังในโหมดการภ่ายภาพบุคคล รองรับการซูมภาพแบบดิจิทัลสูงสุดที่ 10x ตัวกล้องมี AI และ HDR คอยปรับภาพให้ตามสิ่งและสภาพแสงที่ระบบตรวจพบ

แนวภาพของรุ่นนี้จะปรับออกมาให้แสงมีความสว่างมากกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย WB จะไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ครับ แต่ความคมชัดในแสงกลางวันยังถือว่าคมชัดดีใช้ได้ครับ

รุ่นนี้ตัวกล้องไม่มีฟังก์ชั่นหลากหลายมากนัก แต่มีฟังก์ชั่นหลักๆ เช่นการถ่ายภาพ 50 ล้านพิกเซล, พาโนรามา, โหมดถ่ายภาพกลางคืน และโหมดที่ดูจะทำได้ดีที่สุดคือโหมดถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอครับ โดยรองรับทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า แม้ Redmi 10 5G จะให้กล้องหน้าที่มีความละเอียดแค่ 5 ล้านพิกเซล แต่ผลลัพท์โอเคเลยครับ จากที่ทดสอบ ตัว AI สามารถแยกบุคคลออกจากฉากหลังได้มากกว่า 1 บุคคลครับ

สิ่งที่ดูจะขาดไปในโหมดถ่ายภาพบุคคล คือการปรับระดับความเนียนใสของใบหน้า รุ่นนี้ไม่มีการปรับระดับโหมดบิวตี้มาให้นะครับ ภาพก็จะออกมาในแนวดูเป็นธรรมชาติเป็นหลัก ผลลัพท์ของกล้องหน้าและโหมดถ่ายภาพบุคคลผมถือว่าดีครับ และสามารถถ่ายก่อนแล้วนำมาปรับระยะชัดลึกชัดตื้นได้ใหม่หลังการถ่าย เลือกจุดโฟกัสใหม่ได้ และมีฟิลเตอร์แสงแฟล์ให้เลือกตกแต่งภาพถ่ายไว้ให้ครับ

Redmi 10 5G ถ่ายภาพบุคคลค่อนข้างดีครับ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน ซึ่งในโหมดนี้ทำผลลัพท์ออกมาได้ประมาณกลางๆ ครับ ยังมีนอยส์ตามมาให้เห็นในภาพประมาณหนึ่ง

สรุปท้ายรีวิว

สมาร์ทโฟน 5G เน้นที่ราคาดี ได้ชิปเซ็ต Dimensity 700 มาใช้ ซึ่งถือว่าชิปเซ็ตตัวนี้เข้ามายกระดับเครื่องสมาร์ทโฟนในระดับราคาประมาณหกพันบาทในปีนี้ได้อย่างชัดเจนมากครับ และ Redmi 10 5G ก็เป็นรุ่นที่ได้ประโยชน์มาเต็มๆ และยังจัดเต็มมาในด้านอื่นๆ ที่สำคัญมาให้ด้วย มีการขยับไปใช้หน่วยความชนิด UFS 2.2 เพื่อเพิ่มความไวในการเขียนข้อมูลให้เร็วขึ้น ใช้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว ความคมชัด FullHD+ และรีเฟรชเรท 90Hz มาพร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 18W เรียกว่าจัดมาให้ครบใช้ได้เลยครับ

Redmi 10 5G พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยโดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite Gray, Chrome Silver, และ Aurora Green โดยจะวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่

• รุ่นความจุ 4GB+64GB วางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท เฉพาะที่ร้านค้าผู้ให้บริการเครือข่าย AIS เท่านั้น พิเศษ! สำหรับลูกค้า AIS ที่ซื้อเครื่องพร้อมเปิดแพ็กเกจแบบรายเดือนตามที่กำหนด สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาเริ่มต้นที่ 1,234 บาท  นอกจากนี้ หากลูกค้าซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 10 สิงหาคม 2565 – 30 กันยายน 2565 รับฟรี! Sport water bottle มูลค่า 790 บาท

• รุ่นความจุ 6GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 7,299 บาท ที่ร้านค้าผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, True หรือ dtac พิเศษ! สำหรับลูกค้า AIS, True หรือ dtac ที่ซื้อเครื่องพร้อมเปิดแพ็กเกจแบบรายเดือนตามที่กำหนด สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาเริ่มต้นที่ 999 บาท นอกจากนี้ หากลูกค้าซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 10 สิงหาคม 2565 – 30 กันยายน 2565 รับฟรี! Sport water bottle มูลค่า 790 บาท

Redmi-10-5G-1

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version