Advertisement

Puma Vortice เป็นหูฟังระดับบนสุดของแบรนด์ Puma ซึ่งเป็นขาใหญ่ในแวดวงเสื้อผ้าและรองเท้ากีฬา ซึ่งพอหันมาทำตลาดอุปกรณ์ Gadget อย่างหูฟังผมว่าก็ทำได้ดีนะ Puma Vortice จะเป็นหูฟังทรง Over-Ear Headphones ที่มีขนาดใหญ่แต่น้ำหนักเบามากเพียง 260 กรัมเท่านั้น

Review Puma Vortice : AppDisqus Channel

Advertisement

วัสดุเป็นพลาสติคผิวมันเงา ด้านในโครงหูฟังจะเป็นโลหะ สามารถปรับยืดระดับของหูฟังให้พอดีกับศีรษะของเราได้ ด้านบนจะบุด้วยนวมนุ่มๆ และนวมหูฟังจะเป็นหนังซึ่งนุ่มดีมากใส่นานๆก็ไม่ปวดหูเลยครับ แต่ว่าจะร้อนหน่อยถ้าฟังในห้องแอร์ก็โอเคนะ แต่ถ้าใส่ออกไปเดินขางนอกผมว่าร้อนไปหน่อย (แต่จริงๆก็เป็นธรรมดาของหูฟังแนว Full Size)

Puma_Vortice_001

Puma_Vortice_003

Puma Vortice มาพร้อมไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ถึง 50 มม. สมกับเป็นรุ่นใหญ่ที่สุดของ Puma ไม่น้อยหน้าคู่แข่งเลย และมีให้เลือกหลายสี ที่ได้ยืมมาคราวนี้จะเป็นสีขาวครับ (ดูในเวบผมอยากได้สีส้มจังอ่ะสวยมากๆ) สำหรับราคาอยู่ที่  4,590 บาท

Puma_Vortice_004

Puma_Vortice_005

ในกล่องจะมีตัวหูฟัง Puma Vortice, สายหูฟัง (ยาวใช้ได้เลย), กระเป๋าหนัง Puma และเอกสาร

Puma_Vortice_013

Puma_Vortice_014

Puma_Vortice_015

กระเป๋าหนัง Puma เท่มากๆครับ ซิปมีขนาดใหญ่เปิด-ปิดลื่นไหล ภายในบุผ้านุ่มๆสีเทา แต่มีขนาดเล็กไปหน่อย ผมไม่กล้ายัดหูฟังลงไปอ่ะ

Puma_Vortice_006

Puma_Vortice_011

Puma_Vortice_008

Puma Vortice สามารถพับเก็บได้ ข้อต่อดูแข็งแรงดีมาก และสายหูฟังจะมีรายละเอียดเป็นตัวล็อค ช่วยให้สายไม่หลุดง่ายๆเวลาโดนเกี่ยวแรงๆ และสายหูฟังจะมีไมโครโฟนพร้อมชุดรีโมทมาให้ ซึ่งสามารถกดรับสายได้แต่ไม่มีตัวปรับระดับเสียงมาให้นะครับ ทำออกมาสวยทีเดียวเป็นโลโก้ Puma ดูเท่ดีครับ

Puma_Vortice_007

Puma_Vortice_010

หนังเทียมที่หุ้มอยู่นุ่มและหนาดี ใส่สบายหูดีครับแม้ว่าจะใส่ฟังเพลงเป็นเวลานานๆ

Puma_Vortice_009

Puma Vortice มาพร้อมไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ถึง 50 มม. และคุณภาพเสียงทำได้ดีจนผมว่ามองข้าม Puma ไม่ได้แล้วนะครับ ผมว่าเสียงดีกว่าคู่แข่งแบรนด์หลักๆบ้างเจ้าแบบชัดเจนเลยนะ (ไม่ขอเอ่ยนามให้มาม่า อิอิ)

เสียงมีมิติและเสียงร้องกับดนตรีโดดเด้งมากครับพุ่งขึ้นมาเลย รายละเอียดเสียงดีมาก และเบสบางไปหน่อยแต่ก็ยังถือว่าใช้ได้ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหูฟังที่เสียงเบสหนักหน่วง สำหรับผมพอใจแล้วครับ และเป็น Sound Stage ค่อนข้างแคบนะครับ ซึ่งพอจะแก้ไขได้ด้วยการปรับแต่ง Equalizer ในเครื่องเล่นแต่ผมว่าก็ดูไม่ธรรมชาติครับ ถือเป็นจุดที่น่าจะปรับปรุงซักหน่อย แต่มันก็ไม่ได้แคบมากจนอึดอัดนะครับ ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้

Puma_Vortice_016

Puma_Vortice_017

เสียงสนทนาเสียงดังชัดเจนดีมากครับ เสียดายก็ตรงชุดรีโมทไม่มีปุ่มปรับระดับเสียงมาให้ ผมทดลองกับ iPhone 6 Plus และมือถือ Android อย่าง i-mobile IQ X Ken สามารถช้ได้ดีทั้งคู่ไม่เจอปัญหาอะไรเลยครับ

Puma_Vortice_018

ข้อดีของ Puma Vortice

1. Design สวยงาม เท่ และดูแมนมากๆ น้ำหนักเบา

2. สวมใส่สบายนุ่มนวล ใส่นานๆก็ไม่ปวดหู

3. สายหูฟังจะมีไมโครโฟนพร้อมชุดรีโมทมาให้

4. ราคาเปิดตัวในบ้านเรา 4,590 บาทถือว่าเสียงดีมากในช่วงราคานี้

ข้อด้อยของ Puma Vortice

1. วัสดุเป็นพลาสติคผิวมันเงา ทำให้เป็นรอยขีดข่วน และคลาบนิ้วมือได้ง่าย

2. ชุดรีโมทไม่มีปุ่มปรับระดับเสียง

3. เสียงเบสบางไปหน่อยและ Sound Stage ค่อนข้างแคบ

มาชมภาพเมื่อได้ใส่ Puma Vortice กันดูนะครับว่าใส่ออกมาแล้วจะดูเป็นยังไงบ้าง ผมว่ามันใหญ่ดีนะไม่บีบหัว ใส่สบายดีครับ และดูเท่ไม่เบาเลย แมนๆดีนะเรียบๆแต่มีรายละเอียด

Puma_Vortice_019

Puma_Vortice_021

Puma_Vortice_020

Puma_Vortice_022

สำหรับผู้ที่สนใจ Puma Vortice ตอนนี้มีวางจำหน่ายในบ้านเราแล้วนำเข้ามาจำหน่ายโดย Generation S หรือ GEN-S สามารถไปหาซื้อกันได้นะครับ

[gradeB]

แชร์
Avatar photo

คอมลัมนิสต์หัวใจฝักใฝ่ด้าน IT และ Gadget พร้อมสาระความรู้ How To ดีๆ สำหรับการใช้งานมือถือและแท๊ปเบล็ตที่พร้อมจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ที่สนใจในเนื้อหาเดียวกัน เพื่อให้พื้นที่ AppDisqus.com เป็นสเปซสำหรับการแบ่งบันโดยแท้จริง

Advertisement
Exit mobile version