รีวิว PODO กล้องพกพาแนวใหม่ไซด์มินิ สร้างมุมมองภาพใหม่ ไม่ต้องพึ่งไม้เซลฟี่

การถ่ายภาพ Selfie ตัวเอง หรือการถ่ายภาพร่วมกันของกลุ่มเพื่อนฝูง เมื่อยามไปท่องเที่ยวหรือกินเลี้ยงร่วมกัน อาจจะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาไม้เซลฟี่เพื่อการถ่ายภาพในมุมกว้างเสมอไปแล้วครับ

เพราะในยุคปัจจุบันนี้ มันมีตัวช่วยหลากหลายทางเลือกมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลนส์กล้องเสริมขยายมุมภาพ หรือแม้แต่จะใช้เป็นอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายเซลฟี่ในแบบแปลกๆ ใหม่ๆ เช่นเจ้ากล้อง PODO ตัวนี้ครับ

กล้อง Podo เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเน้นความน่ารัก ขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาง่ายและราคาไม่แพงครับ เปิดจำหน่ายในไทยราคา 2,490 บาท โดยมีคุณสมบัติและหน้าตาที่ออกแบบมาได้เหมาะกับวัยรุ่นวัยทำงานที่ชอบท่องเที่ยวเดินทางและร่วมงานปาร์ตี้ โดยเฉพาะใครที่ไม่ชอบหยิบไม้เซลฟี่ออกมาใช้เพราะรู้สึกว่าเกะกะ น่าจะชอบมันครับ

Podo เป็นกล้องเสริมที่สามารถทำงานร่วมกันกับสมาร์ทโฟนของเราได้และทำงานด้วยตัวเองได้ครับ เชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่นที่รองรับทั้งระบบ Android และ iOS ตัวมันเองจะมีเลนส์กล้องมุมกว้างพร้อมสัญลักษณ์แผงไฟแปดดวงบริเวณด้านหน้า ทำหน้าที่เป็นไฟบอกสถานะการทำงานต่างๆ เช่นการบอกโหมดการทำงาน, การนับถอยหลังเพื่อการถ่ายภาพแบบตั้งเวลา, และเป็นไฟแสดงสถานะแบตเมื่อเชื่อมต่อชาร์จพลังงาน, รวมทังเป็นไฟที่เพิ่มความสว่างให้กับใบหน้าของเราได้ในที่แสงน้อยได้ด้วยครับ

ซึ่งในขณะที่มันทำการถ่ายภาพ ตัวไฟทั้งแปดดวงของมันจะสว่างขึ้นมาพร้อมกัน เพื่อเป็นการบอกเราถึงการทำงานของมัน และเป็นการป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิดเช่นการแอบถ่ายได้ด้วยครับ

ด้านในจะเป็นพอร์ต Micro USB สำหรับการโอนถ่ายไฟล์และชาร์จไฟ ซึ่งใช้เวลาชาร์จในแต่ละครั้งไม่เกินหนึ่งชั่วโมงก็เต็มครับ แต่สามารถใช้งานในการถ่ายวีดีโอได้ต่อเนื่องถึงเกือบสองชั่วโมง และใช้ถ่ายภาพได้หลายร้อยรูปในการชาร์จหนึ่งครั้งครับ

คุณสมบัติในการใช้งาน

จะเริ่มใช้งานเจ้า Podo ก็โหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับเชื่อมต่อ, ตั้งค่า และสั่งงาน มาลงเครื่องสมาร์ทโฟนของเราที่ต้องการจะเชื่อมต่อซะก่อนครับ

ระบบ Android ดาวน์โหลด ระบบ iOS ดาวน์โหลด

การเชื่อมต่อของ Podo ในการใช้งานครั้งแรกก็ทำได้ไม่ยากครับ เชื่อมต่อกับมือถือด้วยสัญญาณบลูทูธ ซึ่งตัวแอพ Podo จะทำการค้นหาอุปกรณ์ Podo ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงโดยอัตโนมัติในครั้งแรก และจะจดจำอุปกรณ์ Podo ที่เราเชื่อมต่อเอาไว้เพื่อให้เรียกใช้ได้ทันทีเมื่อเราเปิดแอพขึ้นมาในครั้งต่อไป โดยจะมีชื่อของอุปกรณ์ Podo แสดงอยู่ในรายการการเชื่อมต่อ (สามารถตั้งชื่ออุปกรณ์ Podo แต่ละตัวได้ตามใจภายในแอพ)

เมื่อเชื่อมต่อแล้ว กล้อง Podo ก็พร้อมจะใช้งานได้ทันทีครับ โดยมันจะมีโหมดการถ่ายภาพให้เราใช้งานอยู่ถึง 5 โหมดด้วยกัน นั้นก็คือ

โหมดกล้องอัตโนมัติ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
โหมดถ่ายภาพวีดีโอ ความละเอียด HD 720p
การถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ Lapse เป็นการถ่ายภาพต่อเนื่องเป็นชุดตามระยะเวลาที่เรากำหนด
การถ่ายภาพแบบรวมภาพ Booth รวมภาพสามแอคชั่นมาจัดวางเรียงสร้างเป็นภาพหนึ่งภาพ แฃ
และการถ่ายภาพแบบ Solo ก็คือการใช้งานเจ้ากล้อง Podo โดยไม่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน

การที่เจ้ากล้อง Podo สามารถทำงานได้ด้วยตัวมันเองเพียงลำพังในโหมด Solo ก็เพราะว่ามันมีหน่วยความจำในตัวเอง 8GB สำหรับการเก็บภาพและวีดีโอที่เราบันทึกเอาไว้ และสามารถสั่งงานให้มันถ่ายภาพด้วยการเคาะตัวกล้องของมันสองครั้งก็จะเป็นการถ่ายภาพในทันที

ด้วยในตัวมันมี Accelerometer เซ็นเซอร์ที่ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหว โดยจะตรวจจับการเคาะและปรับแกนภาพโดยอัตโนมัติไม่ว่าเราจะหมุนกล้องไปด้านไหนให้ครับ

เราจะเห็นภาพแบบเรียลไทม์จากตัวกล้อง แสดงอยู่ในแอพบนสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลาครับ สามารถโอนถ่ายไฟล์ภาพจากตัวกล้อง Podo มาสู่สมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อได้ทันทีจากภายในแอพ แต่ไฟล์วีดีโอต้องนำออกมาจากทางการเชื่อมต่อ PC หรือ Notebook ผ่านพอร์ต Micro USB ด้านหลังเครื่องนะครับ ไม่สามารถโอนออกจากตัวกล้องมาสู่สมาร์ทโฟนได้โดยตรง โดยจะมีการแยกส่งไฟล์เสียงที่บันทึกไว้ด้วยเครื่องสมาร์ทโฟน จากภายในแอพมาทางอีเมลต่างหาก

จุดเด่นของเจ้า Podo นอกจากเรื่องของความสามารถในการเป็นกล้องพกพาหน้าตาน่ารักแล้ว ก็เป็นเรื่องมันมีแถบกาวชนิดพิเศษที่อยู่บริเวณฝาหลังของมันครับ เป็นแถบกาวที่ยึดติดได้กับพื้นผิวเรียบแทบทุกชนิด ทำให้เราสามารถนำเจ้า Podo ไปติดกับวัสดุรอบตัวเพื่อสร้างมุมกล้องในแบบต่างๆ ตามจินตนาการ โดยมันจะให้มุมมองภาพที่กว้างและไกล เหมือนเรามีขาตั้งกล้องหรือไม้เซลฟี่พกติดตัวเลยครับ

จะสูงจะต่ำก็ทำได้หมดจากแถบกาวที่ปรับมุมองศาได้อิสระรอบตัว

ซึ่งเจ้าแถบกาวด้านหลังมันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียครับ คือต้องใช้งานกันระวังสักนิด เพราะในไทยอาจจะไม่สะดวกที่จะหาแถบกาวมาเปลี่ยนในภายหลัง (จริงๆ แล้วเจ้า Podo มีเคส, เคสกันน้ำ และแถบกาวแยกจำหน่ายที่เมืองนอก) ซึ่งแนะนำเบื้องต้นว่าอย่านำแถบกาวของมันไปยึดติดกับวัสดุที่มีความบอบบางหรือแตกหักได้ง่าย เพราะมันอาจจะหลุดลอกออกมากับแถบกาวได้ครับ รวมทั้งระวังความสกปรกเพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของตัวกาวลดลงครับ

แต่การทำความสะอาดก็ทำได้ไม่ยาก เพราะตัวแถบกาวของมันโดนน้ำได้ ล้างน้ำเปล่าได้โดยใช้นิ้วมือของเราหรือสก็อตเทปเขี่ยหรือดึงสิ่งสกปรกออกมา ห้ามใช้น้ำยาหรือสบู่ในการล้างเด็ดขาด และสามารถใช้ไดร์เป่าผมเป่าลมร้อนเพื่อเพิ่มความหนืดของกาวได้ครับ

สรุปท้ายรีวิว

ตัวเลนส์กล้องของ Podo มีมุมมองภาพที่กว้างอยู่แล้วเป็นทุนเดิม (90องศา) แถมยังนำไปยึดติดกับที่ไกลๆ ได้ มีการวัดแสงและการจับโฟกัสแบบอัตโนมัติ ซึ่งผลลัพท์ของภาพในการใช้งานโดยส่วนใหญ่ก็นับว่าดูดีกว่ากล้องหน้าของสมาร์ทโฟนโดยทั่วไปครับ และถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งในการอัพเกรดกล้องหน้าสมาร์ทโฟนของเพื่อนๆ ที่คุณภาพอาจจะไม่ดีนัก

รวมทั้งใช้เป็นอุปกรณ์ในการสร้างมุมมองภาพที่แตกต่างไปจากเดิมได้มากเลยครับ อันนี้แล้วแต่จินตนาการของผู้ใช้ ^^