Advertisement

OPPO Reno4 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ทาง OPPO ตั้งใจออกแบบมาเป็นพิเศษ เด่นในลวดลายฝาหลัง และยังเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่มีความสามารถในการถ่ายวีดีโอได้เก่งกาจมากครับ

สำหรับ OPPO Reno4 Pro 5G ก็เป็นสมาร์ทโฟนในยุค 5G ตามชื่อรุ่นครับ รองรับสองซิมการ์ดและรองรับ 5G ทั้งแบบ NSA และ SA นั้นหมายถึงรองรับ 5G ที่จะใช้กันในอนาคตด้วย

Advertisement

ดีไซด์สมัยใหม่ ดูเด่นและทันสมัยครับ ตัวเครื่องขอบบาง 90Hz 3D Curved Screen เครื่องที่เราได้มาเป็นสีน้ำเงิน Galactic Blue ใช้การผลิตฝาหลัง Reno Glow เทคนิคการเจียระไนเพชรมีความเงาสะท้องแสง ให้ความรู้สึกเหมือนกระจกสองชั้นซ้อนกัน สามารถป้องกันลายนิ้วมือ มีเหลือบเงาและผิวสัมผัสดีมาก

ตัวอักษร “Reno Glow” เด่นชัดที่กลางหลัง เป็นงานดีไซน์ที่แปลกและกล้าออกแบบ คนชอบความมีเอกลักษณ์จะถูกใจ

โดยในรุ่นนี้จะมีเข้ามาจำหน่ายไทยสองสีครับ นั้นคือ Galactic Blue ที่เห็นในรีวิวนี้ และสีดำ Space Black เป็นแนวสีที่ตรงข้ามกับสีฟ้า  พื้นผิวมีความเรียบแต่มันวาว ดูโปร่งแสงเมื่อมีแสงสะท้อน ลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัว O และตัว P ของชื่อแบรนด์ OPPO เรียกว่า “OPPO Monogram”

เห็นตัวบางๆ แบบนี้ แต่ใช้ลำโพงคู่สเตอริโอ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos เสียงกระหึ่ม คมชัด

ด้านหลังวางกล้องหลังสามตัวเลนส์ระดับสูงทั้งสามตัวครับ มาครบทุกฟังก์ชั่น ให้เลนส์หลัก 48MP เลนส์มุมกว้าง 12MP และเลนส์ถ่ายบุคคล 13MP เป็นสามกล้อง Triple LDAF จะสังเกตว่าความละเอียดสูงในทุกๆ เลนส์ครับไม่ใช่แค่เลนส์หลัก และจะบอกว่าความสามารถในถ่ายภาพก็สูงมากด้วย มาพร้อมการใช้เลเซอร์ในการจับโฟกัสวัตถุ และโดยเฉพาะงานวีดีโอมีโหมดน่าสนใจมากเีพยบ  Ultra Night Wide-angle Video และ Ultra Night Video และระบบ Live HDR พร้อมระบบกันสั่นใหม่ Ultra Steady Video 3.0 ที่มีให้ในกล้องหลักและเลนส์ Wide-angle มาครบแบบไม่เคยเยอะขนาดนี้มาก่อน

ด้านหน้าเป็นหน้าจอแสดงผล 6.5 นิ้ว ที่ใช้วัสดุเรืองแสง E3 ทำให้มีอัตราคอนทราสต์สูงมากถึง 5,000,000: 1 เป็นจอสีสันสด AMOLED 90Hz 3D Curved Screen พร้อมอัตราความไวสัมผัสหน้าจอ 180Hz เทคโนโลยี HDR 10+ หน้าจอคมชัดมาก และให้สีสันที่สดใสกว่าหน้าจอโทรศัพท์อื่นๆ รองรับการสแกนลายนิ้วมือโดยตรงบนหน้าจอ

หน้าจอสวยงามจริงๆ สีสดแสงเข้ม สไตล์ AMOLED ขอบจอบางด้วยตัวเครื่องเลยดูโฉบเฉี่ยวมาก และการที่มันมาพร้อมกับลำโพงคู่ ฉะนั้นแค่ตั้งเปิดคลิปก็รู้ว่าเป็นเครื่องระดับท็อปแล้วครับ จอแบบนี้ ลำโพงเสียงแบบนี้ งานดีไซน์แบบนี้

เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลขนาดกล้องหน้าทาง OPPO ยังใส่ฟังก์ชั่นเด็ดเพียบ ถ่ายภาพแบบไฮเปอร์แลปส์หรือการถ่ายวีดีโอแบบเร่งเวลาด้วยกล้องหน้า และรักษาความนิ่งของภาพไว้ได้ด้วยแม้จะใช้เพียงแค่มือในการถือถ่ายครับ

อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีครบเลย ทั้งเคสใส ที่ชาร์จ 65W SuperVOOC 2.0 และสาย USB Type C พร้อมชุดหูฟังดิจิตอลแบบ Type C โดยตรงครับ เพราะว่าเจ้ารุ่นนี้จะไม่มีรูหูฟัง 3.5mm มาให้บนตัวเครื่อง

แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับระบบชาร์จ 65W SuperVOOC 2.0 เสียบชาร์จไว้แค่แป๊บเดียว 15 นาที ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้มากกว่า 60% แล้วครับ และสามารถชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 36 นาที ชาร์จได้รวดเร็วและปลอดภัย หมดปัญหาการลืมชาร์จแบตเพราะคืดขึ้นมาได้เมื่อไหร่ รีบเสียบชาร์จ เพราะจากที่ลองชาร์จให้ได้ 50% มันใช้เวลาไม่ถึง 10นาทีดีเลยครับแบตกลับมาครึ่งก้อนแล้ว โคตรไว!

กล้องถ่ายภาพ

กล้องของ OPPO Reno4 Pro 5G ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสามารถด้านการถ่ายภาพนิ่งอีกต่อไปแล้วครับ เพราะมาถึงในยุค 5G การรับส่งข้อมูลที่มีความเร็วสูงขึ้น ย่อมเหมาะกับงานวีดีโอได้มากขึ้นนั้นเองครับ แต่ก็ยังคงความยอดเยี่ยมของการถ่ายภาพไว้ครบถ้วนเช่นเดิมครับ

3 กล้องหลัง Triple LDAF Camera หรือระบบเลเซอร์จับภาพโฟกัสที่เหนือล้ำกว่าระบบโฟกัสเดิมๆ กล้องหลัก 48MP (IMX586) เลนส์มุมกว้างที่รองรับทังภาพนิ่งวีดีโอ 12MP (IMX708) และเลนส์เทเลโฟโต้ 13MP

ด้วยเทคโนโลยีโฟกัส LDAF จะช่วยให้การโฟกัสมันแม่นยำ ต่อเนื่อง ทำให้ถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอไม่ต้องคอยกังวลว่าจะหลุดโฟกัส แม้การแพนภาพหรือแบบจะเปลี่ยนแปลงกระทันหัน และไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทาง การเคลื่อนไหวของแบบ และปัญหาสภาพแสงในขณะถ่าย เพราะเลเซอร์โฟกัสทำงานได้ทุกสภาพแสงครับ

ยกระดับการถ่ายวิดีโอ ด้วยฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่จะเห็นได้จากหน้า UI ของการถ่ายวีดีโอ มีเพิ่มเข้ามาเพียบเลยครับ มีโหมดถ่ายภาพยนตร์ที่จะสร้างวีดีโออัตราส่วนแบบ 21:9 ได้ด้วย

เช่นโหมด Live HDR ช่วยปรับแสงในการถ่ายวิดีโอให้เห็นรายละเอียด เนียนตาดูสมูทและเป็นธรรมชาติ โหมดการถ่ายวีดีโอกลางคืน ที่รองรับทั้งมุมภาพแบบ Ultra Night Wide-angle Video และ Ultra Night Video ไม่ใช่แค่จับภาพกลางคืนได้ดี แต่ถ่ายมุมกว้างได้ด้วย

ภาพไม่สั่นง่ายๆ เพราะว่ามาพร้อมระบบกันสั่นใหม่ Ultra Steady Video 3.0 และยังมีโหมดถ่ายวีดีโอแบบโบเก้หน้าชัดหลังเบลอได้แบบเรียลไทม์ พร้อมฟิลเตอร์สีต่างๆ ที่สามารถใช้งานได้ในการถ่ายภาพวีดีโอ

นอกจากนี้กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลของ OPPO Reno4 Pro 5G ก็พัฒนาในด้านงานวีดีโอมาเช่นกัน เช่นโหมดกันสั่นกล้องหน้า Front Steady Video เพื่อการถ่าย VLOG ให้ได้ภาพหน้าเรานิ่งกว่าเดิมแม้จะมีการเคลื่อนไหวเร็วๆ และยังมีไทม์แลปส์วีดีโอกล้องหน้า ที่เล่นกับเวลาได้ด้วยกล้องหน้าด้วยครับ

หลังจากเก็บภาพเรื่องราวและสิ่งต่างๆ มาแล้ว ในเครื่องก็จะมีแอพพลิเคชั่นสร้างวีดีโอคลิปตัวเก่ง Soloop มาให้เราได้สร้างคลิปสั่นเอฟเฟ็กต์สวยๆ จากภาพและวีดีโอที่เราถ่ายมาได้ใน OPPO Reno4 Pro 5G ครับ ถ่าย ตัด แชร์ จบครบออกมาเป็นคลิปสวยๆ ได้ด้วยมือถือเพียงตัวเดียว

สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น เราไปดูความสามารถกล้องวีดีโอจากการทดสอบใช้งานจริงๆ กันเลยดีกว่าครับ ในคลิปด้านล่าง เราได้รวมความสามารถในฟังก์ชั่นต่างๆ มาให้ดูกันด้วย

ทดสอบฟังก์ชั่นกล้องถ่ายภาพและวีดีโอของ OPPO Reno4 Pro 5G

ในการถ่ายภาพนิ่ง ก็เป็นเครื่องที่ OPPO ใส่มาตรฐานระดับสูงของแบรนด์มาให้ครับ กล้องหลังซูมภาพได้สูงสุดถึง 20x รองรับทั้งโหมดการถ่ายภาพมุมกว้างและมาโคร ทำงานภายใต้ AI ที่จะคอยปรับโฟกัส สีสัน แนวภาพ ให้ผู้ใช้ได้เองอัตโนมัติตามความเหมาะสมที่มันตรวจจับเจอ จากที่ทดสอบการซูมภาพ ซูมระดับ 5x ภาพยังสวยๆ สบายครับ

ในโหมดการถ่ายภาพบุคคล เราสามารถเลือกระยะโฟกัสชัดลึกชัดตื้นได้ก่อนถ่ายนะครับ ปรับระดับความหน้าใส AI Beauty พร้อมฟิลเตอร์สีเพิ่มความแตกต่างตามอารมณ์ที่เราต้องการ และด้วยเลเซอร์โฟกัส มันจึงจับระยะบุคคลได้แม่นมากครับเจ้ากล้องรุนนี้

ฟิลเตอร์สีที่มีในกล้อง สร้างอารมณ์ภาพของแบบได้ต่างกันเลยครับ ^^ จะเอาหวานนุ่ม หรือจะเน้นชัดตัดฉากหลัง ก็เลือกได้ และโฟกัสแม่นมากซะด้วย รับประกันการถ่าย ง่ายทุกโหมดครับ

ถ่ายภาพมาโครระยะใกล้ ใช้ได้ทั้งเลนส์ปกติและเลนส์ไวด์เพื่อเปิดโหมด Ultra Wide Macro ครับ

มีโหมด ExtraHD ที่จะสามารถขยายความละเอียดภาพที่ได้ ให้เป็นภาพความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซลเลยครับ สามารถถ่ายเพื่อเอามาตัดส่วนที่ต้องการภายหลัง หรือถ่ายเอาไปพิมพ์ภาพใหญ่ขนาดคลุมตึกได้เลย ^^

โหมดถ่ายภาพกลางคืนสามารถซูมภาพได้เหมือนกลางวันครับ ถ่ายได้ชัดไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง และก็ยังทำได้ดีเช่นเดิมสำหรับการนำไปถ่ายภาพเล่นกับไฟในตอนกลางคืน

สำหรับกล้องหน้า 32 ล้าน ไม่มีทางเสียชื่อ OPPO อยู่แล้ว AI Beauty ปรับให้ได้อย่างสวยงาม หรือจะปรับเองตามส่วนต่างๆ ของใบหน้าก็ได้ครับ มันแยกใบหน้าบุคคล สีผิว ลักษณะใบหน้าของบุคคลได้แม่นยำอยู่แล้ว และสามารถแยกใบหน้าบุคคลออกจากพื้นหลัง ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้คมด้วยกล้องหน้าตัวเดียว AI ฉลาดมากครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า สวยเชะ คม ภาพเซลฟี่ใส่ฟิลเตอร์สียิ่งมีฟิลลิ่ง ^^

 

คุณภาพกล้องดีมาก ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอครับ ฟังก์ชั่นเยอะ ใช้งานได้สนุก เป็นสมาร์ทโฟนที่กล้องระดับท็อปด้านฟังก์ชั่นงานวีดีโอ และคุณภาพในการถ่ายภาพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน

การใช้งาน

ใช้ชุดประมวลผลตัวใหม่ล่าสุดของซีรีย์รองท็อป เป็น Qualcomm Snapdragon 765G ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่แรงและรองรับ 5G ในตัว พร้อม RAM ขนาดใหญ่มากครับ 12GB และ ROM 256GB สเปคไม่ธรรมดา ถือว่าสเปคแรงระดับเทียบตัวท็อปได้ครับ ใช้ระบบ ColorOS 7.2 ครอบทับ Android 10 มาจากโรงงาน แต่พร้อมรองรับการอัพเดท Android 11 ในเร็วๆ นี้ครับ ^^

ก็ครบพร้อมทั้งตัวสเปคฮาร์ดแวร์และใหม่ด้วยสเปคซอฟท์แวร์ ประสิทธิภาพการใช้งานเหลือๆ สำหรับการทำงานทุกอย่างและการเล่นเกมกราฟิกสูงครับ

หน้าจอรีเฟรชเรทสูง 90Hz การใช้งานส่งผลตั้งแต่หน้าโฮมครับ รวมถึงแอพพลิเคชั่นที่รองรับ แม้แต่การใช้งาน Facebook, Instagram เราจะรู้สึกถึงความลื่นไหลของหน้าจอที่มากขึ้นได้เลยเมื่อใช้งาน ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ในการใช้งานสมาร์ทโฟนยุคนี้ไปแล้วครับ

การเล่นเกมลื่นไหล โดยไม่จำเป็นต้องใช้โหมดเล่นเกมรีดประสิทธิภาพอะไรเลยครับ สเปคระดับนี้เกินจะพอ ที่สำคัญหน้าจอสวยงามมากด้วย

หน้าจอสวย สีสด ขอบจอบางเฉียบ กล้องหน้าบนหน้าจอเล็กมาครับ ไม่สะดุดเลยเวลาใช้งาน และที่สำคัญเสียงดีครับ เสียงมีมิติและเนื้อเสียง ดีมากพอสำหรับการรับชมคลิป ภาพยนตร์ หรือการเล่นเกมได้อย่างสะใจ ^^

แต่ยังไงก็มีโหมดสำหรับคนเล่นเกมมาให้นะครับ เป็นทางลัดศูนย์รวมการเรียกใช้เกม และเป็นการช่วยเหลือผู้เล่นไม่ให้ถูกรบกวนจากการติดต่อเข้ามาในยามที่เราต้องการโฟกัสกับการเล่น และรีดประสิทธิภาพเครื่องด้วยการเคลียแรมและปิดการทำงานเบื้องหลังของโปรแกรมอื่นๆ เพื่อให้เราสามารถใช้ทรัพยากรเครื่องและสัญญาณอินเตอร์เน็ตเพื่อการเล่นเกมอย่างเต็มที่

ระบบ ColorOS 7.2 ปรับแต่งมาเบา สบาย สวยงามครับ เป็น UI ที่ไม่ฉูดฉาดแต่เนียนตา มีธีมสโตร์ เกมสโตร์ และแอพสโตร์ ที่ทาง OPPO เลือกสรรมาให้สามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องล็อคอินก่อน

โหมดการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ เช่นโหมดถนอมสายตาลดแสงสีฟ้า และโหมดกลางคืนหรือโหมดมืด เราสามารถตั้งค่าให้มันทำงานได้เองตามวันเวลาในแต่ละวัน ควรเปิดไว้ครับเป็นฟังก์ชั่นที่ควรมี เพื่อการถนอมสายตาของคนใช้สมาร์ทโฟนในระยะยาว

OPPO เขามีแอพดีๆ เพื่อสุขภาพใจของผู้ใช้อีกตัวที่อยากจะแนะนำกันในทุกรีวิวของเครื่อง OPPO ^^ นั้นคือแอพ OPPO Relax แอพที่ทำมากเพื่อสร้างมุมสงบ เพิ่มความผ่อนคลาย สร้างบรรยากาศและสมาธิให้กับผู้ใช้ ด้วยการออกแบบโทนสี เสียง และบรรยากาศที่เราเลือกได้ในแอพ ตามที่เราต้องการเพื่อความผ่อนคลายตามชื่อแอพครับ ^^

ผลทดสอบต่างๆ

การจับสัญญาณทำได้ดี เสียบซิม 5G เมื่ออยู่ในพื้นที่สัญญาณก็พร้อมใช้งานได้เลย อีกหนึ่งซิมจับสัญญาณ 4G ไปพร้อมกันได้ รองรับ VoWIFI และ VoLTE จับตำแหน่ง GPS ได้ไวไม่มีปัญหาใดๆ จากประสบการณ์ของผมแล้วมาตรฐานของอุปกรณ์ภายในเป็นของดีแน่นอนครับ

สรุปท้ายรีวิว

งานผลิตพรีเมี่ยม ใครชอบเครื่องสมาร์ทโฟนที่ตัวเครื่องภายนอกสวย หรู และมีเอกลักษณ์ดูไม่ธรรมดา หน้าตาดูเป็นเครื่องราคาแพงเพราะรุ่นนี้สวยจริงครับ ผิวสัมผัสดีมาก เป็นรอยนิ้วมือยากด้วย

รองรับ 5G เครื่องบางได้ขนาดนี้ เทคโนโลยีสูง ทั้งหน้าจอสว่างสดใส สีสันสวย รีเฟรชเรท 90Hz ลำโพงคู่ Dolby Atmos มีดีทั้งภาพและเสียง สเปคการทำงานลื่นไหลในทุกการใช้งานอยู่แล้วครับ สเปคดีและมีแรมให้สูงมาก

ระบบชาร์จ 65W SuperVOOC 2.0 หมดปัญหาเรื่องการรอชาร์จในแต่ละวัน เสียบประมาณ 36 นาทีแบตก็กลับมาเต็ม 100% อย่างแน่นอน เครื่องไม่ร้อน ใช้งานปลอดภัย ก็ครบองค์ประกอบที่ดีของสมาร์ทโฟนระดับสูงที่ไม่ได้ขายแค่สเปคเครื่องความแรงเพียงอย่างเดียว

กล้องถ่ายภาพมีอะไรให้เล่น มีอะไรให้ใช้มากกว่าแค่การถ่ายภาพ คุณภาพกล้องดีอยู่แล้วทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่เพิ่มเติมเข้ามาให้มากกว่าใครก็คือฟังก์ชั่นของการถ่ายวีดีโอ ให้มาเยอะจริงๆ และมีประโยชน์จากการใช้งานเพราะถ่ายวีดีโอมุมกว้างรวมถึงถ่ายวีดีโอในตอนกลางคืนได้ดีกว่าด้วยฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาครับ


OPPO Reno4 Pro 5G เปิดจำหน่ายในไทยแล้วครับ ราคา 24,990 บาท เป็นเจ้าของวันนี้รับฟรี หูฟัง OPPO Enco m31 และ E-Vip Card รวมมูลค่าของแถม 10,699 บาท

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version