Advertisement

วีดีโอรีวิว OPPO R7 Plus

OPPO R7 Plus ต้องบอกว่าจัดเต็ม จัดหนักกว่า OPPO R7 Lite มากครับในเรื่องของฟังก์ชั่นชั้นสูงที่ใส่เข้ามาจนแน่นเลยทั้งในส่วนของ Fingerprint sensor รูปแบบใหม่เพียงแค่แตะเท่านั้น และบันทึกลายนิ้วมือได้มากถึง 5 ลายนิ้วมือ, OPPO VOOC ฟังก์ชั่น Fast battery charging ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที

Advertisement

และกล้องความละเอียด 13MP ที่มาพร้อมเลนส์ระดับ Schneider-Kreuznach และฟังก์ชั่น Flash Shot ซึ่งจะมีลูกเล่นเลเซอร์จับโฟกัสอัตโนมัติซึ่งช่วยให้สามารถจับโฟกัสในที่แสงน้อยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำแถม รวมทั้งระบบกันสั่นซึ่งมีประโยชน์มากๆเวลาถ่ายภาพและบันทึกวีดีโอ มีโหมด Voice Selfie มาให้ด้วยนั่นก็คือการสั่งงานถ่ายภาพด้วยคำสั่งเสียงนั่นเอง เพียงแค่พูดคำว่า Colour หรือ Cheese เพียงเท่านี้ก็จับภาพ Selfie ได้ทันใจและง่ายดายแล้ว

และมาพร้อม Colour OS 2.1 บน Android 5.1.1 Lollipop อีกด้วยนอกจากนี้ OPPO R7 Plus ยังจัดเต็มความจุแบตเตอรี่สูงถึง 4100 mAh เลยละครับ แบตเตอรี่อึดใช้ได้เลยละ

นอกจากเรื่องฟังก์ชั่นแล้ว OPPO R7 Plus ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะที่ดูหรูหราทีเดียวครับ หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้วกระจกหน้าจอ 2.5D ความละเอียด Full HD 1080P และเลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 615 จัดเต็ม RAM 3GB หน่วยความจำจุใจ 32GB แถมยังเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้มากถึง 128GB

ซึ่งทั้ง OPPO R7 Plus และ OPPO R7 Lite จะมาราคาต่างกันมากนะครับ OPPO R7 Plus ราคาอยู่ที่ 16990 บาทส่วน OPPO R7 Lite จะอยู่ที่ 10990 บาทครับ

OPPO_R7_Plus_001

OPPO R7 Plus รองรับฟังก์ชั่น OPPO VOOC ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ชาร์จที่มาในชุดจำหน่าย

OPPO_R7_Plus_002

สเปคของ OPPO R7 Plus

3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100

4G LTE band 1(2100), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 40(2300)

Dual SIM (Nano-SIM/ Micro-SIM, dual stand-by)

ขนาดตัวเครื่อง 158 x 82 x 7.8 มม. น้ำหนัก 192 กรัม

Fingerprint sensor

OPPO VOOC ฟังก์ชั่น Fast battery charging ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที

หน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (367ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 3 2.5D

Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Color OS 2.1

ชิบเซ็ต Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & quad-core 1.0 GHz Cortex-A53

GPU Adreno 405

RAM 3GB

หน่วยความจำภายใน 32GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุด 128GB

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot

Bluetooth 4.0, LE

GPS รองรับ GLONASS

microUSB v2.0, USB Host

เซนเซอร์ Accelerometer, proximity, compass

กล้องความละเอียด 13MP, 4128 x 3096 pixels, Schneider-Kreuznach optics, laser autofocus, dual-LED flash, Geo-tagging, touch focus, face detection, panorama, HDR

บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080p@60fps, 720p@120fps

กล้องหน้าความละเอียด 8MP

แบตเตอรี่ความจุ 4100 mAh

ราคาเปิดตัว 16990 บาท

OPPO_R7_Plus_004

OPPO_R7_Plus_005

OPPO_R7_Plus_006

OPPO R7 Plus จะมาพร้อมงานออกแบบที่คล้ายๆกับ OPPO R7 Lite นะครับโดยเลือกใช้วัสดุโลหะ งานประกอบเนี๊ยบมากๆเช่นเดียวกัน หน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (367ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 3 2.5D ดูสดสวยมาก คมชัดและมีมุมมองที่กว้างมากๆ แถมความสว่างสูงมากครับ สว่างเป็นพิเศษเลยละ และพื้นที่หน้าจอเต็มอิ่มมากครับ ขอบหน้าจอบางเฉียบ และพื้นที่ด้านบนและด้านล่างก็เหลือน้อยมากทีเดียว ปุ่มสัมผัสต่างๆจะย้ายไปอยู่ในหน้าจอทั้งหมด และเป็นสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 6 นิ้วที่ดูเล็กและบางมากครับ โดยมีความบางเพียงแค่ 7.8 มม. เท่านั้นเองซึ่งสำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้วถือว่าดูบางทีเดียว

OPPO_R7_Plus_007

OPPO_R7_Plus_009

ด้านหลังออกแบบคล้ายๆกันกับ OPPO R7 Lite แต่ชุดกล้องจะอยู่ตรงกลางความละเอียด 13MP ซึ่งใช้ชิ้นเลนส์ของ Schneider-Kreuznach แถมยังมีไฟแฟลชคู่ LED และเลเซอร์จับโฟกัส พร้อมระบบกันสั่นในตัว ถัดลงมาจะเป็น Fingerprint sensor รูปแบบใหม่เพียงแค่แตะเท่านั้น และบันทึกลายนิ้วมือได้มากถึง 5 ลายนิ้วมือ และลำโพงตัวเครื่อง เสียงดังมากๆครับ เสียงใสมากไม่มีแตกเลย

OPPO_R7_Plus_010

OPPO_R7_Plus_011

ด้านบนและด้านล่างจะมีเสาอากาศซ่อนอยู่ ด้านบนมีช่องหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มม. และไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะมีช่องไมโครโฟนและพอร์ท Micro USB

OPPO_R7_Plus_012

OPPO_R7_Plus_015

ด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายจะมีปุ่ม Power และช่องใส่ซิม (ซิมที่ 2 สามารถเลือกได้ว่าจะใส่ซิมหรือ Micro SD Card) สำหรับแบตเตอรี่รุ่นนี้จัดความจุมาให้สูงมากครับ 4100 mAh เลยทีเดียวความอึดเท่าที่ทดสอบหายห่วงครับใช้งานครบวัน แต่ว่าด้วยขนาดหน้าจอ ทำให้แบตเตอรี่ะดับนี้ก็ใช่ว่าจะอึดมากมายเป็นพิเศษนะครับ ถ้าใช้งานหนักๆควรพก Power Bank แต่ก็ชดเชยด้วย OPPO VOOC นั่นก็คือฟังก์ชั่น Fast battery charging ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที

OPPO_R7_Plus_SC_001

OPPO_R7_Plus_SC_002

OPPO_R7_Plus_SC_003

ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 24869 คะแนน

ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 37780 คะแนน

ทดสอบด้วย NenaMark2 ได้ผลทดสอบ 59.2fps

รองรับ Multi Touch 10 จุด

GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วมาก

คะแนนทดสอบออกมา OPPO R7 Plus จะสูงกว่า OPPO R7 Lite นิดหน่อยนะครับ

OPPO_R7_Plus_SC_006

OPPO_R7_Plus_SC_007

OPPO R7 Plus มาพร้อม Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Color OS 2.1 เวอร์ชั่นล่าสุดของ OPPO หลังจากเปิดเครื่องครั้งแรกจะมีอัพเดตใหม่ด้วยนะครับ ก็ไม่รู้ว่าเพิ่มอะไรบ้างเหมือนกัน5555 การใช้งานลื่นไหลดีมากครับ Color OS เวอร์ชั่นใหม่ผมว่ามันลงตัวดีนะ บัคน้อยจริงๆ น่าใช้มากครับแต่ว่า Exclusive Space ก็เหลือแต่หน้าเล่นเพลงเท่านั้น ก็ไม่แน่ใจว่าทาง OPPO จะปรับปรุงเพิ่มเติมหน้า Exclusive Space ใหม่ๆเข้ามาอีกหรือเปล่า ถ้ามีข่าวเพิ่มเติมจะเอามาฝากกันแน่นอนครับสำหรับแฟนๆ AppDisqus

OPPO_R7_Plus_SC_008

OPPO_R7_Plus_SC_009

OPPO_R7_Plus_SC_010

OPPO_R7_Plus_SC_011

OPPO_R7_Plus_SC_013

บริการดาวน์โหลด Wallpaper, Theme, Lockscreen ฟรีมีมาให้เช่นเคยครับ และแอพพลิเคชั่นติดเครื่องอย่าง Backup & Restore, NearMe Cloud, File, App Center, Security Center รวมทั้ง O-Cloud และ Market ของ OPPO นั้นน่าใช้นะครับ แนะนำว่าไหนๆก็ซื้อมาแล้วอยากให้ลองเล่นกันดู

Gesture & Motion มีมาให้เพียบเช่นเคยครับ สมกับเป็นแบรนด์แรกๆที่มาพร้อมจุดขายฟังก์ชั่นเหล่านี้ ช่วยให้เราเข้าถึงฟังก์ชั่นหรือแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการสั่งงานด้วยการแตะหน้าจอเพื่อเลือกปลดล็อคหน้าจอ หรือจับภาพหน้าจอ หรือสั่งงานฟังก์ชั่นเครื่องเล่นเพลงโดยไม่ต้องเข้าเมนูโดยตรง และสามารถเลือกเปิด-ปิด OTG ได้เองอีกด้วย (USB On-The-Go)

และสามารถจับภาพหน้าจอแบบยาวได้ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาต้องการจับภาพหน้าจอบทความทั้งหน้า โดยสามารถจับภาพได้ยาว 5 หน้าจอครับ เวลาจะจับภาพหน้าจอแบบนี้ให้กดปุ่ทเพิ่มเสียง+ปุ่ม Power ส่วนการจับภาพหน้าจอปกติให้กดลดเสียง+ปุ่ม Power

และไม่ต้องพึ่งฟิล์มกันรอย Blue Light Cut กันแล้วครับเพราะใน ColorOS 2.1 ทาง OPPO ใส่โหมดถนอมสายตามาให้โดยจะเป็นการกรองแสงสีฟ้าคลื่นสั้นที่ส่งผลเสียต่อสายตาของเรา สามารถเลือกปิดใว้หรือเปิดใช้งานก็ได้ โดยสามารถปรับแต่งได้ 3 ระดับแต่ก็เป็นตัวช่วยในการถนอมสายตานะครับ ดีที่สุดคือควรจะพักสายตาเป็นระยะๆ ไม่ควรใช้สามาร์ทโฟนติดต่อกันเป็นเวลานาน น่าสนใจแค่ไหนสามารถไปอ่านรีวิวของ OPPO R7 Lite ดูได้ครับตามลิงค์นี้

http://www.appdisqus.com/devices/review-oppo-r7-lite

OPPO_R7_Plus_SC_012

OPPO R7 Plus มาพร้อม Fingerprint sensor แบบใหม่ใช้วิธีแตะเท่านั้น ความแม่นยำทำได้ดีมาก แต่ละลายนิ้วมือมีการแสกนละเอียดมากๆ และสามารถตั้งค่านิ้วมือได้ 5 ลายนิ้วมือด้วยกันครับ สามารถใช้งานร่วมกับการปลดล็อคหน้าจอ หรือตั้งค่าเพื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งใช้ไปใช้มาผมว่า Fingerprint sensor มาอยู่ด้านหลังแบบนี้มันใช้งานถนัดดีนะ

OPPO_R7_Plus_SC_014

ทดสอบเรื่องเกมด้วยเกมอย่าง Modern Combat 5 ลื่นไหลดีครับ จริงๆสมาร์ทโฟนสเปคระดับนี้เรื่องเล่นเกมหายห่วงครับ

OPPO_R7_Plus_SC_015

OPPO R7 Plus กล้องความละเอียด 13MP มีจุดเด่นที่มาพร้อมเลนส์ Schneider-Kreuznach และฟังก์ชั่น Flash Shot ซึ่งจะมีลูกเล่นเลเซอร์จับโฟกัสอัตโนมัติซึ่งช่วยให้สามารถจับโฟกัสในที่แสงน้อยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และกล้องหน้าความละเอียด 8MP มีโหมด Voice Selfie มาให้ด้วยนั่นก็คือการสั่งงานถ่ายภาพด้วยคำสั่งเสียงนั่นเอง เพียงแค่พูดคำว่า Colour หรือ Cheese เพียงเท่านี้ก็จับภาพ Selfie ได้ทันใจและง่ายดาย และใช้กับการถ่ายภาพปกติได้ด้วยครับ ไม่ใช่ลูกเล่นใหม่ แต่ฟังก์ชั่นสั่งถ่ายภาพด้วยเสียงช่วงนี้กลับมาฮิตอีกรอบครับ^__^

จากการทดสอบความคมชัดเยี่ยมครับ และ White Balance ฉลาดกว่า OPPO R7 Lite มากครับ และจัดเต็มฟังก์ชั่นการถ่ายภาพมาครบเลยครับ เหมือนกับรุ่นใหญ่ไม่มีผิด มีโหมด Ultra HD บันทึกภาพความละเอียดสูงมาให้ด้วยนะ มาชมตัวอย่างภาพถ่ายกันครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO R7 Plus

OPPO_R7_Plus_Camera_003

OPPO_R7_Plus_Camera_005

OPPO_R7_Plus_Camera_006

OPPO_R7_Plus_Camera_007

OPPO_R7_Plus_Camera_008

OPPO_R7_Plus_Camera_009

OPPO_R7_Plus_Camera_010

OPPO_R7_Plus_Camera_011

OPPO_R7_Plus_Camera_012

OPPO_R7_Plus_Camera_013

OPPO_R7_Plus_Camera_014

OPPO_R7_Plus_Camera_015

OPPO_R7_Plus_Camera_002

OPPO_R7_Plus_Camera_004

OPPO_R7_Plus_Camera_001

ข้อดีของ OPPO R7 Plus

1. ตัวเครื่องออกแบบสวยหรู วัสดุโลหะ งานประกอบดีมาก ขอบหน้าจอบางมากๆ

2. หน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (367ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 3 2.5D

3. รองรับ 4G และรองรับการใช้งาน Dual SIM (Nano-SIM/ Micro-SIM, dual stand-by)

4. สเปคน่าใช้ Snapdragon 615, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุด 128GB

5. เปิดตัวมาพร้อม Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Color OS 2.1

6. มาพร้อม Fingerprint sensor และ OPPO VOOC ฟังก์ชั่น Fast battery charging ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที

7. กล้องความละเอียด 13MP เลนส์ระดับ Schneider-Kreuznach และฟังก์ชั่น Flash Shot ซึ่งจะมีลูกเล่นเลเซอร์โฟกัส

8. แบตเตอรี่ความจุสูง 4100 mAh

ข้อด้อยของ OPPO R7 Plus

1. Snapdragon 615 กับราคานี้ดูจะให้มาน้อยไปหน่อย

OPPO_R7_Plus_013

OPPO_R7_Plus_014

OPPO R7 Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่ผมถูกใจมากครับ เพราะผมชอบมือถือหน้าจอใหญ่ๆ ตัวเครื่องสวยมากครับ ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม ราคา 16990 อาจจะดูสูงเพราะใช้ชิปเซ็ตเดียวกับ OPPO R7 Lite แต่ว่ามันมีจุดขายครับทั้งหน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P, Fingerprint sensor, OPPO VOOC และกล้องที่มาพร้อมเลนส์ระดับ Schneider-Kreuznach และฟังก์ชั่น Flash Shot ซึ่งจะมีลูกเล่นเลเซอร์โฟกัส รวมทั้งแบตเตอรี่ความจุสูง 4100 mAh ผมว่ามันก็คุ้มกับเงินที่เพิ่มนะครับ เท่าที่เล่นมาชอบใจทุกอย่างครับ จะติก็ตรงกล้องถ่ายภาพระยะใกล้ๆอย่างภาพอาหารไม่ได้เลยแหะ จับโฟกัสค่อนข้างไกล อย่างภาพข้าวผัดที่ถ่ายมาให้ชมมกันครับ มันได้แค่นั้นอ่ะ ซึ่งผมก็ไม่มั่นใจนะครับว่าเป้นเพราะยังไม่ใช่ตัวจำหน่ายจริงหรือเปล่า แต่นอกนั้นโดยรวมชอบครับ แนะนำว่าลองไปเล่นกันดูนะครับวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ

[gradeA]

แชร์
Avatar photo

คอมลัมนิสต์หัวใจฝักใฝ่ด้าน IT และ Gadget พร้อมสาระความรู้ How To ดีๆ สำหรับการใช้งานมือถือและแท๊ปเบล็ตที่พร้อมจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ที่สนใจในเนื้อหาเดียวกัน เพื่อให้พื้นที่ AppDisqus.com เป็นสเปซสำหรับการแบ่งบันโดยแท้จริง

Advertisement
Exit mobile version