Advertisement

เปิดตัวมาพร้อมเรือธงของออปโป้อย่าง OPPO Find X3 Pro 5G กับหูฟัง OPPO Enco X ที่ได้รับการออกแบบร่วมกันระหว่าง OPPO และ Dynaudio ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก หูฟัง In- ear TWS ที่รองรับการตัดเสียงรบกวน ANC ได้ Daniel Emonts ผู้เชี่ยวชาญการปรับแต่งเสียงอะคูสติกแบรนด์ Dynaudio ประเทศเดนมาร์กกับประสบการณ์กว่า 30ปี เพื่อให้ได้เสียงที่สมจริงและเป็นธรรมชาติที่สุด คัดสรรวัสดุที่แตกต่างกันกว่า 30 ชนิด และชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์ประกอบรวมเข้าด้วยกันมากถึง 152 ชิ้น พร้อมผ่านการปรับแต่งโครงสร้างอย่างละเอียดกว่า 120 ครั้ง ในห้องปฏิบัติการอะคูสติกที่ใหญ่ที่สุดของDynaudio เราจะมารีวิวหูฟัง Enco X หลังจากลองใช้กันว่ามันมีดีอะไร??

Advertisement

แกะกล่อง OPPO Enco X

เรามาแกะกล่องกันเลยดีกว่า กล่องเป็นแบบ 2 ชั้น กล่องในกล่อง..(= =) ทำไปทำไมนิ.. กล่องด้านนอกจะเป็นสีขาวเป็นของตัวหูฟัง Enco X ด้านในเป็นกล่องดำสกรีนตัวอักษร X ตรงกลางประกายสีรุ้งเด่นๆ มาดูกันว่ามีอะไรมาให้ในกล่องบ้าง

  •  เคสและตัวหูฟัง OPPO Enco X
  • จุกซิลิโคนหูฟัง 2 ขนาด ไซส์ S และ L
  • สายชาร์ต USB Type C แบบสั้น
  • คู่มือการใช้งาน 7 ภาษา แต่ไม่มีภาษไทย (ร้องไห้)

การออกแบบ Coaxial Dual-Driver

หูฟังไร้สาย OPPO Enco X เป็นการต่อยอดนวัตกรรมที่ได้พัฒนาต่อจากรุ่นเดิม ซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบสไตล์ Coaxial Dual-Driver ที่สามารถพบได้แค่เพียงอุปกรณ์เครื่องเสียงชั้นนำเท่านั้น
ในส่วนของลำโพงด้านหน้าจะใช้ตัวขับเสียงแบบสมดุล (Balanced Membrane Driver) ที่ทำจากแม่เหล็ก ทำหน้าที่ส่งคลื่นความถี่สูง ส่วนลำโพงด้านหลังมีตัวขับเสียงแบบไดนามิก (Dynamic Driver) ประกอบด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น เพื่อจัดการกับคลื่นความถี่กลางและคลื่นความถี่ต่ำ โดยมีลำโพงคู่วางบนแกนขนานกัน เพื่อช่วยรองรับเสียงที่ส่งออกไปให้มีคุณภาพสูงและเป็นธรรมชาติ

เคสของตัวหูฟัง Enco X สวยเลยทีเดียว เรียบหรู ผิววัสดุเป็นมันวาวข้อเสียคือเป็นรอยขีดข่วนและนิ้วมือได้ง่าย เคสมีขนาดเล็กพอดีมือบางและเบา

ขอบข้างทำด้วยวัสดุเมทัลลิกสีเงินสกรีนโลโก้ OPPO ด้านบน

ด้านข้างมีปุ่มไว้สำหรับแพร์อุปกรณ์ ด้านล่างเป็นช่องเสียบชาร์จพอร์ต USB Type C

ด้านหลังบานพับสกรีนโลโก้ Dynaudio อย่างชัดเจน

ด้านหน้าเป็นไฟบอกสถานะ 3 สี

  • สีเขียว แสดงสถานะแบตเตอรี่เต็มพร้อมใช้
  • สีขาว แสดงสถานะการเชื่อมต่อ
  • สีเหลือง แสดงสถานะการชาร์จ
  • สีแดง แบตฯ หมด

ตัวหูฟังน้ำหนักเพียง 4.8 กรัมเท่านั้น  รูปทรงแบบลูกอ๊อดหัวโตก้านสั้น 555 เห็นหัวใหญ่ๆ แต่ใส่กระชับเข้ากับสรีระหูเราได้อย่าพอดิบพอดี ใช้วัสดุที่ทำจากซิลิโคนที่มีความแข็งระดับ 2 เพิ่มความมั่นใจถึงความคงทนและและความสบายตลอดการใช้งาน

การเชื่อมต่อ

รองรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วบนสมารทโฟน OPPO รุ่นใหม่ เพียงเปิดเคสชาร์จและกดเชื่อมต่อที่จะปรากฎขึ้นบนหน้าจอสมาร์ทโฟนของคุณ ส่วนการเชื่อมต่อกับอุปกรณอื่นๆ ให้กดค้างไว้ที่ปุ่มด้านขวาของเคสชาร์จ จนไฟแสดงสถานะด้านหน้าเป็นสีขาวกระพริบ

ในส่วนของ LHDC และ Dolby Atmos จะให้ประสิทธิภาพที่ดีมากกว่าเมื่อใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน OPPO เชื่อมต่ออย่างรวดเร็วผ่านบลูทูธ 5.2 ช่วยให้การเชื่อมต่อราบรื่นไม่สะดุด  การออกแบบการรับสัญญาณของหูฟัง OPPO Enco X ได้มีการปรับให้เหมาะสม โดยสายความถี่วิทยุจะมี BPF (bandpass filter) ในตัว เพื่อกรองสัญญาณรบกวนจาก 4G, 5G และสัญญาณรบกวนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันสัญญาณรบกวนของบลูทูธได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันเสาอากาศ LDS ( laser direct structuring) จะมาช่วยให้การเชื่อมต่อบลูทูธดีขึ้น

การใช้งานทั่วไป

หูฟัง OPPO Enco X มีความไวต่อการสัมผัส ใช้งานโดยการแตะสัมผัสที่ตัวหูฟัง นอกจากนี้เราสามารถเข้าไปตั้งค่าได้  ฟังก์ชั่นของหูฟังเอียร์บัดเพื่อตั้งค่าระบบควบคุมการใช้งานต่างๆ เองได้ด้วย อย่างถ้าเราอยากจะให้การเคาะหูฟัง 2 ครั้งด้านซ้ายเป็นการหยุดเพลง ด้านขวาเป็นการเลื่อนเพลงถัดไปก็สามารถทำได้เช่นกัน


• แตะสองครั้ง: การแตะสองครั้งที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่งเพื่อข้ามไปยังเพลงถัดไป หรือรับสาย/วางสาย สามารถสลับระหว่างเพลงและรับสายได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องถอดหูฟังให้ยุ่งยาก
• ควบคุมแบบสไลด์: เลื่อนขึ้นหรือลงที่ด้านใดด้านหนึ่งของหูฟังเพื่อปรับระดับเสียง
• กดค้างไว้ 1 วินาทีเพื่อสลับระหว่างโหมดลดเสียง เป็นการสลับฟังก์ชั่น Max Noice Cancellation กับโหมด Transparency
• แตะสามครั้ง: การควบคุมนี้สามารถเปิดใช้งาน Google Voice Assistant, Siri ของ Apple และ Amazon Alexa สามารถเข้าถึงการบริการแบบอัจฉริยะได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง

โดยค่าเริ่มต้นของการตั้งค่านี้จะถูกปิดใช้งาน แต่สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านแอป

และรองรับการใช้งานทั้งแบบหูข้างเดียวหรือหูทั้งสองข้างในระยะ 10 เมตร สามารถฟังเพลงหรือรับสายได้โดยไม่ต้องอยู่ติดกับโทรศัพท์ ยังสามารถปรับแต่งการควบคุมด้วยการแตะสองครั้งผ่าน HeyMelody
ที่โหลดผ่าน Google Play Store โดยฟังก์ชั่นที่ใช้ได้ ได้แก่ เล่น/หยุดชั่วคราว เพลงก่อนหน้า/เพลง
ถัดไป และ การควบคุมด้วยการแตะสองครั้งสามารถปิดได้หากต้องการ

OPPO Enco X ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกันกับหูฟังที่เคยได้รับรางวัลอย่างหูฟัง OPPO PM-1 พร้อมปรับขนาดให้เล็กกระชับแต่คงคุณภาพจัดเต็ม จากการออกแบบครั้งนี้ได้พัฒนาช่วงระดับความถี่สูงให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ได้เสียงที่คมชัด สมจริง และยังมาพร้อมกับระบบการตัดเสียงรบกวนด้วยไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัว เป็นเหมือนตัวกรองเสียงที่คอยตัดสลับแบบอัตโนมัติ มีการตรวจจับลม เพิ่มคมชัดในทุกการสนทนา
ที่ด้านหน้าไดรเวอร์เมมเบรนบาลานซ์แม่เหล็กจะจัดการความถี่สูงและที่ด้านหลังไดรเวอร์ไดนามิกคอมโพสิตสามชั้น จะจัดการความถี่กลางและความถี่ต่ำ ลำโพงคู่ที่วางอยู่บนแกนขนานให้เอาต์พุตเสียงที่เป็นธรรมชาติและมีความละเอียดสูง ได้พัฒนาระบบการเพิ่มประสิทธิภาพของไดมามิกเอนจิ้น DBEE 1.0 ด้าน MP3 หลังจากนั้น 13 ปีต่อมา OPPO ก็ได้สร้าง “DBEE 3.0 Acoustic System” ด้วยวัสดุ โครงสร้าง และเทคโนโลยีแบบใหม
การปรับแต่งเสียงในหูฟัง OPPO Enco X โดย Daniel Emonts ผู้สร้าง audio series ระดับแฟล็กชิพของ
Dynaudio พร้อมกับดีไซน์เนอร์ออกแบบผลิตภัณฑ์ระดับ 5 ดาว และ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอะคูสติกและ Hi-Fi ซึ่งประสบการณ์ด้านเสียงในระดับมืออาชีพกว่า 30 ปี ทำให้เกิดเสียงที่สมดุลในหูฟัง พร้อมมอบประสบการณ์เสียงระดับเฟิสคลาส โดยกระบวนการปรับแต่ง เน้นไปที่การกระจายความสมดุลของคลื่นความถี่ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง และมีการเน้น รายละเอียดของแต่ละระดับเสียง ที่แม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อสร้างหูฟังระดับแฟล็กชิพ OPPO Enco X ที่มาพร้อมเสียงที่มีคุณภาพสูง สมจริงและเป็นธรรมชาติ
ชิปตัดเสียงรบกวน dual-core digital Bluetooth noise cancellation ระดับไฮเอนด์ การใช้ไมโครโฟนแบบ dual-fed ที่มีอัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนสูง จึงทำให้หูฟังสามารถตัดเสียงรบกวนได้แบบ hybrid active โดยโหมด Multiple สามารถให้ผู้ใช้ได้เลือกระดับความแรงในการลดเสียงรบกวนได้ โดยแต่ละโหมดได้รับการปรับให้เหมาะสมในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ตั้งแต่นอกบ้านไปจนถึงภายในบ้าน เรียกว่าตัดเสียงได้เงียบจริง

โหมด Transparency ที่ช่วยให้เราเข้าถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ดียิ่งขึ้น สามารถสนทนาต่อได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง เหมาะกับการใช้งานใสสถานีขนส่งสาธารณะ ทำให้เราไม่พลาดประกาศต่างๆ ระหว่างที่กำลังฟังเพลงโปรดอยู่ โดยการกดค้างที่หูฟังด้านใดด้านหนึ่ง

โหมด max noise cancellation เมื่อต้องการตัดเสียงรบกวนสูงสุดในระหว่างการเดินทางที่มีเสียงดัง เพื่อความเพลิดเพลินกับเสียงแบบสูงสุด เช่น บนรถประจำทาง รถไฟใต้ดินหรือเครื่องบิน

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่หูฟังขนาด 44mAh และตัวเคสชาร์จขนาด 535 mAh  เล่นเพลงได้นานถึง 25 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งนั่นคือสองสัปดาห์หากใช้เป็นเวลา 2 ชั่วโมงต่อวัน เหมาะสำหรับการเดินทางไม่ต้องกังวลเรื่องแบตจะหมดระหว่างวันูฟัง Enco X รองรับการชาร์จแบบไร้สาย คุณสามารถชาร์จเคสชาร์จได้ง่ายๆ ด้วยที่ชาร์จแบบไร้สายแบบใดก็ได้ที่รองรับโปรโตคอล Qi Wireless Charging


• เคสชาร์จยังรองรับ wireless reverse charging กับสมารทโฟนที่รองรับฟังก์ชั่นนี้ได้ ทำให้คุณสามารถฟังเพลงได้อย่างต่อเนื่องแม้ขณะชาร์จ


• เคสชาร์จ สามารถชาร์จแบบมีสายด้วย USB Type-C
• เมื่อใช้เคสชาร์จ จะเล่นเพลงได้ถึง 25 ชั่วโมง หรือ โทรได้ถึง 15 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้ใช้เคสชาร์จสามารถเล่นเพลงได้ 5.5 ชั่วโมง หรือ โทรได้ 3.5 ชั่วโมง
• เมื่อเปิดใช้งาน max noise cancellation หูฟังจะสามารถใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมงโดยไม่ต้องใช้เคสชาร์จ หรือ 20 ชั่วโมงเมื่อใช้เคสชาร์จ

การตรวจจับการสวมใส่และการกันน้ำ

เมื่อเราใส่หูฟังจะตรวจพบว่ากำลังสวมใส่อยู่ ซึ่งหูฟังจะเริ่มเล่นเพลงและตัดเสียงรบกวนโดยอัตโนมัติ เพลงจะหยุดโดยอัตโนมัติเมื่อถอดหูฟังเพียงตัวเดียวออก หูฟังที่เหลืออยู่จะเข้าสู่โหมด Transparency โดยอัตโนมัติ เมื่อใส่หูฟังอีกครั้ง หูฟังก็จะกลับมาเล่นเพลงต่อจากที่หยุดไว้

ตัวหูฟัง OPPO Enco X ได้รับการรับรอง IP54 ป้องกันทุกสภาพอากาศทั้งสภาพแวดล้อมในร่มและกลางแจ้ง ในระดับ IP54 ของการป้องกันฝุ่นและกันน้ำหูฟังจะได้รับการปกป้องจากสภาพอากาศ ไม่ว่าจะอยู่ในโรงยิมหรือกลางแจ้ง สามารถป้องกันน้ำที่กระเซ็นเข้ามาในทุกทิศทาง ใส่ออกกำลังกาย ฟังเพลงกลางสายฝนได้สบายๆ แต่เฉพาะหูฟังเท่านั้นที่กันฝุ่นและกันน้ำที่ระดับ IP54 ซึ่งไม่เกี่ยวกับตัวเคสชาร์จนะ

ทดสอบการใช้งานด้านเสียงเพลง

เคลมมาว่าตัวหูฟัง OPPO Enco X ได้รับการปรับจูนเสียงมากจาก Dynaudio นั่นก็แสดงว่าพลังเสียงย่อมไม่ธรรมดา ด้วยความที่เจ้าตัว Enco X ตัดเสียงรบกวนได้เงียบดีนั่นทำให้เรารู้สึกว่าการฟังเพลงมีความเป็นส่วนตัว และเสียงเพลงชัดเจนมากกว่าเดิม เรามาทดลองฟังเพลงหลายๆ แนวดูดีกว่าว่าเจ้าตัว Enco X จะเหมาะกับการฟังเพลงสไตล์ไหน มาเริ่มกันที่แนวบัลลาดที่น่าจะถูกทางกับแนวทางการจูนเสียงของ Dynaudio

เราจะทดสอบเสียงจากแอปสตรีมมิ่งทั่วไปที่นิยมฟังกัน อย่าง Apple Music , Spotify และ Youtube Music กันนะคะ

ต้องบอกว่าเป็นหูฟังที่เสียงละมุนมาก เหมาะกับเพลงแนวบัลลาดที่เพราะซึ้งด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว เสียงใส เสียงดี เสียงกีตาร์คมชัดละมุนเป็นธรรมชาติ มิติเสียงกว้างชวนให้ล่องลอยไปกับอารมณ์เพลง ปรบมือให้เลย

มาลองแนวดีดเด้งขึ้นมาบ้างก็เพราะชีวิตมันมีหลายอารมณ์ กับแนวซินท์ป๊อบที่ฮิตในช่วงนี้ เพลงแดนซ์ที่เน้นการใช้เสียงสังเคราะห์ บีทหนักๆ และลูกเล่นของการบันทึกเสียง ก็ทำได้ดีมากค่ะ เบสตุ๊บกำลังดี เสียงบีทเล็กบีทน้อยเก็บหมดจริงๆ

สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงร็อคที่ไม่ถึงขั้นเฮฟวี่เมททัลอันนี้ต้องบอกว่าเฮ้ย!!..โครตดี เห็นตัวแค่นี้แต่เบสหนักไม่ใช่เล่น เสียงเบสเสียงกลองเป็นพระเอกแซงกีตาร์ที่ค่อนข้างจะดร๊อปไปนิดพอๆกับเสียงร้อง ลองกับเพลงแนวโพรเกรสซีฟร็อคที่มีการใช้เครื่องดนตรีหลากหลาย โอ้โห..ฟินเวอร์

สรุปเลยแล้วกัน

แล้วก็ฟังได้ทุกแนวเพลง คุณภาพเสียงดีเยี่ยม เก็บเสียงได้ดีช่วยให้การฟังเพลงเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีโหมด Transparency ช่วยให้ฟังเสียงภายนอกได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง ไมค์โครโฟน 3 ตัว สนทนาได้ชัดเจน ขนาดของหูฟังก็กำลังดีใส่นานๆ ได้ไม่เจ็บหู เอาจริงๆ นี่คือใส่นอนไม่รู้สึกเจ็บหรืออึดอัดจนลืมไปว่าใส่หูฟังอยู่ และใช้ได้ทั้งระบบ Android และ IOS

OPPO Enco X หูฟังแฟล็กชิพที่เปิดตัวมาพร้อมสมาร์ทโฟนแฟล็กชิพ OPPO Find X3 Pro 5G ตัว Enco X วางจำหน่าย มี 2 สีคือสีขาวและสีน้ำเงินในราคา 5,999 บาท พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมเป็นต้นไป ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

 

 

แชร์
Avatar photo

ว่างจากวาดรูปก็มาเล่นในนี้แหละ ^^

Advertisement
Exit mobile version