Advertisement

เปิดตัวมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ OPPO A95 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แบตเตอรี่เยอะแต่มีความบางเบา และสเปคเครื่องรอบด้านที่แรงกำลังดี ตัวเครื่องสวยใช้งานผลิตระดับสูง ใครชอบสมาร์ทโฟนเครื่องสวยๆ ดูดีจาก OPPO น่าจะถูกใจรุ่นนี้ครับ

Advertisement

OPPO A95 นอกจากเครื่องจะสวยแล้วสเปคก็ดีครับ ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 662 แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานต่างๆ รวมถึงการเล่นเกม และให้ RAM มาขนาดใหญ่เลย กับขนาดแรม 8GB และรองรับระบบ RAM Expansion หรือระบบขยายขนาดแรมโดยใช้พื้นที่หน่วยความจำที่ยังว่างอยู่ มาขยายขนาดแรมออกไปได้สูงสุดอีก 5GB รวมพื้นที่แล้วจะทำให้เครื่องมีแรมให้ใช้ได้ถึง 8GB + 5GB เลยครับ เหลือๆ สบายๆ

และพื้นที่ของหน่วยความจำเครื่องรุ่นนี้ก็ให้มาเยอะดีครับ เป็นขนาด 128GB พร้อมรองรับ Micro SD Card ได้เพิ่มเติมในถาดใส่ซิมการ์ดที่เป็นแบบสามสล็อต ใช้งาน 4G สองซิมพร้อมกับใส่ Micro SD card ได้ไม่ต้องแย่งกันกับช่องใส่ซิม รุ่นนี้ RAM และ ROM ใหญ่ดีครับ

ประสิทธิภาพการใช้งาน

จากการทดสอบใช้งานการใช้งานต่างๆ ทำได้ลื่นไหลครับตอบสนองได้ไว ความแรงของ Snapdragon 662 และแรมขนาดใหญ่ 8GB รันบนระบบใหม่ ColorOS 11.1 (ครอบทับ Android 11) สเปคถือว่าแรงพอตัวครับ

และในระบบของ OPPO ก็ยังจะมีความสามารถที่เข้ามาเสริมความแรงของเครื่องด้วย System Booster เป็นระบบที่ใช้ AI เพิ่มความไวและการตอบสนองในการใช้ได้มากขึ้น แรงไปกว่าสเปคปกติโดยการเพิ่มความไวประมวลผล เพิ่มความเร็วของการรับส่งข้อมูล และความเร็วเครือข่าย ดูแลให้ระบบไม่เกิดคอขวด

ทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนของ OPPO จะแทบไม่เจอปัญหาความผิดปกติในขณะใช้งานเลย

หน้าจอขนาดใหญ่ 6.43 นิ้ว เป็นจอชนิด AMOLED FHD+ punch-hole display ขอบจอเล็ก เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล อัตราส่วนหน้าจอต่อพื้นที่ด้านหน้า 90.8% ภาพสวยเต็มตาชัดเจนครับ

ตัวเครื่องทำมาได้บาง เพราะใช้หน้าจอชนิดที่รองรับการสแกนนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง (และสแกนใบหน้าด้วยกล้องหน้าก็ได้เช่นกัน) การเลือกใช้หน้าจอที่รองรับการสแกนนิ้วได้เป็นมาตรฐานของเครื่องในระดับพรีเมี่ยมครับ เพราะแม้จะมีต้นทุนหน้าจอที่แพงกว่า แต่เครื่องก็จะไม่หนาดูเทอะทะลำบากมากขึ้นในการถือใช้งานครับ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่หน้าจอใหญ่ๆ ในสมัยนี้ ถ้าเครื่องหนาด้วยแล้วก็จะเอื้อมนิ้วถึงได้ยาก

หน้าจอมีฟีเจอร์ All-Day Eye Care ดูแลปกป้องดวงตา ปรับสีสันความสว่างหน้าจอให้เหมาะสมได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ความสว่างสูงสุด 800nits ใช้งานภายนอกอาคารก็ยังเห็นได้ชัดครับ

เห็นเครื่องแค่นี้แต่แบตเตอรี่ภายในใส่ขนาดใหญ่มาให้เลย 5,000mAh และมาพร้อมระบบชาร์จไว 33W Flash Charge ด้วยครับ อยู่กับเราได้นานและชาร์จไฟกลับได้ไว จากที่ลองใช้ วันไหนใช้งานทั่วๆ ไปก็อยู่ได้สบายเช้าจรดค่ำ อาจจะข้ามวันถ้าใช้น้อยกว่าปกติ การใช้พลังงานส่วนใหญ่ขึ้นกับเวลาในการเปิดหน้าจอ ถ้าเปิดหน้าจอใช้ต่อเนื่องก็จะเปลืองพลังงานแบตเตอรี่ประมาณ 14% ต่อชั่วโมง ฉะนั้นถ้าเอามาดูหนังเล่นเกมยาวๆ ก็จะใช้ได้ต่อเนื่องนานกว่า 7 ชั่วโมงครับ ถือว่าแบตอึดใช้ได้เลย

ระบบชาร์จไว 33W Flash Charge ก็ชาร์จไฟกลับได้ไว ในระหว่างวันถ้าเรามีเวลาพักชาร์จไฟแค่ 5 นาที ก็สามารถกลับมาดู Youtube ต่อได้เป็นชั่วโมงๆ แล้ว

และตัวเครื่องไม่มีความร้อนสะสมให้น่ากังวลในระหว่างชาร์จใช้งานไปด้วยครับ เพราะภายในเครื่องรุ่นนี้ ทาง OPPO ได้ใส่ระบบระบายความร้อน พร้อมระบบดูแลความปลอดภัย คอยตรวจจับอุณหภูมิของเครื่องไว้แบบเรียลไทม์ และจะควบคุมปรับอุณหภูมิเครื่องให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติเมื่อพบอุณหภูมิที่สูงเกินไป

มีการใส่ชุดระบายความร้อน Graphite tube dissipation ไว้ภายในตัวเครื่องด้วยครับ ฉะนั้นในเรื่องระบบควบคุมอุณหภูมิของ OPPO A95 ก็จะมีมาทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และทางดานซอฟต์แวร์ที่ทำงานไปคู่กัน ช่วยให้เราใช้งาน OPPO A95 ได้อย่างมั่นใจและมีความปลอดภัยสูงครับ ให้เด็กหรือลูกหลานใช้งานก็ไม่ต้องเป็นกังวล

นอกจากนั้นยังมีระบบที่ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้เราในระยะยาวให้ไว้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คุณภาพของแบตเตอรี่หมดอายุก่อนเวลาอันควร ทาง OPPO ได้ใส่ระบบ AI Night Charge ที่จะเรียนรู้เวลาในการนอนของเรา และปรับแต่งการจ่ายไฟเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ในเหมาะสมที่สุดในขณะที่เราหลับครับ ตัวโทรศัพท์จะปล่อยไฟเข้าชาร์จแบตเตอรี่จนถึงระดับ 80% จากนั้นจะพักไว้ แล้วจึงค่อยชาร์จที่เหลืออีก 20% ภายในเวลา 60 นาทีก่อนที่เราจะตื่น เพื่อการถนอมอายุแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมไว

ต้องบอกว่าทาง OPPO ออกแบบระบบการจัดสรรพลังงานมาได้ดีนะครับ และรุ่นนี้ก็ให้แบตใหญ่ด้วย ถ้าเราใช้งานไม่หนักมากก็สามารถอยู่กับเราได้ข้ามวันเลยนะ สองวันค่อยชาร์จทีก็ยังพอได้ โดยเฉพาะในยามฉุกเฉินเช่นเราลืมเสียบไฟชาร์จไวเมื่อคืน หรือลืมเอาที่ชาร์จมา ก็จะมีระบบที่คอยช่วยประหยัดพลังงานในยามที่เรานอน  Super Nighttime Standby โดยจะลดการใช้งานพลังงานลงอย่างมากด้วยการปิดการทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องในขณะนอนหลับลงไปทั้งหมด ช่วยให้โทรศัพท์ของคุณอยู่ใน
โหมดสแตนด์บายโดยใช้แบตเตอรี่เพียงประมาณ 2% เท่านั้นสำหรับช่วงนอนยาวข้ามคืนประมาณ 8 ชั่วโมงครับ

และโหมดฉุกเฉินสุดๆ ป้องกันแบตเตอรี่ระยะสุดท้ายจะหมดลงไป แต่เราจำเป็นต้องใช้งานเพื่อเรียกรถกลับบ้าน หรือมีการติดต่อที่สำคัญรออยู่ เราสามารถใช้งาน Super Power Saving Mode ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ออกไปได้มากกว่าปกติถึงประมาณสามเท่าเลยครับ โดยตัวระบบจะให้เรากำหนดการทำงานที่สำคัญซึ่งยังต้องใช้ และจะปิดการใช้งานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดลงไป แม้ว่าจะมีพลังงานเหลือแค่ประมาณ 5% เราก็ยังสามารถโทรสนทนาได้ต่ออีกกว่า 2 ชั่วโมง, หรือใช้แอพแชตได้ต่ออีกเป็นชั่วโมง ยังไงก็จะมีแบตมือถือเอาไว้เรียกรถกลับบ้านได้แน่นอนครับ

ระบบ ColorOS 11.1 ยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้อีกหลายฟังก์ชั่นครับ เช่นในด้านความปลอดภัย มีตู้นิรภัยส่วนตัว ที่สามารถซ่อนไฟล์ข้อมูลต่างๆ ภาพ เสียง เอกสาร เอาไว้ในพื้นที่พิเศษที่ปกป้องไว้ด้วยรหัสป้องกันอีกชั้นหนึ่ง พร้อมความสามารถในการล็อคแอพ ซ่อนแอพ เพื่อไม่ให้ใครคนอื่นสามารถเปิดใช้งานแอพที่เราป้องกันเอาไว้ หรือไม่อยากให้เห็นได้ครับ

ฟังก์ชั่นความสะดวกในการใช้แอพต่างๆ ที่สามารถเปิดใช้ได้พร้อมกันทั้งในรูปแบบแบ่งหน้าจอทำงาน และแบบเป็นหน้าต่างป๊อบอัพซ้อนกัน ประสิทธิภาพก็แรงมากพอจะรันสองแอพได้รวดเร็ว เข้าออกได้เร็ว เพราะมีแรมที่เยอะด้วยนั้นเองครับ

เราจะเปิดเกมเล่น พร้อมกับดูคลิปวีดีโอไปพร้อมกันก็ยังลื่นๆ นะครับ เข้าออกไม่ช้าไม่ค้าง ใช้งานสองแอพพร้อมกันไม่มีปัญหาใดๆ

หรือจะโฟกัสกับการเล่นเกมเป็นหลัก ก็จะมีโหมด Game Space ซึ่งเป็นโหมดที่จะเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องให้พร้อมสำหรับการเล่นเกมมากที่สุด พร้อมกับช่วยย่อขนาดการแจ้งเตือนทั้งหมดที่เข้ามาซึ่งอาจจะรบกวนเราในขณะเล่น ให้อยู่ในรูปแบบย่อขนาดหรือปิดกั้นไม่ให้รบกวนเราครับ ซึ่งเราสามารถกำหนดเปิดปิดความสามารถต่างๆ ของ Game Space ได้ตลอดขณะเล่นเกม โดยแค่สไลด์เรียกเมนูจากขอบจอด้านข้างเท่านั้นเองครับ

โดยเราสามารถกำหนดความเข้มข้นในความจริงจังของการเล่นเกมเราได้ครับ เล่นชิวๆ ก็โหมดทั่วไป ถ้าไม่ต้องการให้มีอะไรมารบกวนก็เปิดโหมด “โปรแกรมเมอร์”

การเชื่อมต่อต่างๆ ทำได้ดี ใช้งานมาไม่เจอปัญหาใดๆ ครับ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั้ง 2.4 และ 5.0 การจับตำแหน่งทำได้ไวแม้จะไม่เปิดอินเตอร์เน็ตช่วย

OPPO Glow Design สวยโดดเด่น จับถือง่าย ใช้งานสบาย

ตัวเครื่องภายนอก OPPO A95 สวยมาก บางและเบา ใช้เทคโนโลยีการผลิต OPPO Glow Design ทนทานต่อรอยขีดข่วน ผ่านการทดสอบมากมายหลายด้าน ทดสอบการฉายผ่านรังสี UV นาน 96 ชั่วโมง ทดสอบการเสียดสีกับวัสดุและทดสอบการเผาไหม้ ทำให้ทนต่อความร้อนลดการเกิดรอยขีดข่วนได้ดีมากๆ

โดย OPPO A95 จะมีมาให้เลือกสองสีคือสีเงินประกายรุ้ง Glowing Rainbow Silver และสีดำ Glowing Starry Black ที่เห็นในรีวิวนี้ครับ

Glowing Starry Black เป็นสีดำที่ให้ผิวสัมผัสแบบด้าน เวลาใช้งานก็จะไม่เกิดคราบรอยนิ้วมือใดๆ ไม่มีคราบมัน รู้สึกละมุนมือเวลาถือใช้ เป็นโทนสีเข้มที่จะมีเทคเจอร์แบบเกร็ดกริตเตอร์อยู่ในผิว เวลาสะท้อนแสงเงาจะเหมือนท้องฟ้ากลางคืนที่มีแสงดวงดาวระยับระยับครับ

ด้านหลังเครื่องเป็นกล้อง AI 3 ตัว วางตำแหน่งไว้สวย เป็นกล้องหลังความละเอียด 48ล้านพิกเซล ทำงานกับกล้อง Depth 2ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2ล้านพิกเซล ล้อมกรอบชุดกล้องโดยสีโทนเดียวกันกับตัวเครื่องและใส่กริตเตอร์ไว้ด้วยเช่นกัน ออกแบบมาเบาบาง หนักเพียงแค่ 175 กรัม และบางแค่ 7.95 มม. แม้ภายในจะใส่แบตเตอรี่มาให้ถึง 5,000mAh แต่เครื่องขนาดแค่นี้เอง ใช้การผลิตมาในเกรดสูงมากครับ

 

งานออกแบบดีครับ ถือใช้งานสบายมือเพราะเครื่องบาง ขอบเครื่องโค้ง ผิวสัมผัสไม่ลื่น จับแล้วเข้าอุ้งมือไม่ต้องเอื้อมไม่เมื่อยนิ้ว และใช้งานได้อย่างสบายใจเพราะไม่เกิดคราบมัน เลอะรอยเปื้อน หรือเป็นรอยขูดขีดได้ง่ายๆ ครับ

อุปกรณ์ภายในกล่องมี Adaptor ชาร์จไว 33W Flash Charge มาให้ พร้อมสาย USB Type-C  และเคสใสซิลิโคน แต่ในกล่องจะไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้นะครับ แต่ตัวเครื่องจะยังมีรูหูฟังมาให้อยู่นะครับรุ่นนี้

กล้องถ่ายภาพ

กล้องถ่ายภาพหลักด้านหลังของ OPPO A95 เป็น AI 3 กล้องหลัง ความละเอียด 48ล้านพิกเซล และกล้องที่สองเป็น Depth Camera 2ล้านพิกเซล ช่วยจับภาพระยะชัดลึกชัดตื้นสำหรับถ่ายภาพบุคคล และสุดท้ายคือกล้องมาโคร ความละเอียด 2ล้านพิกเซล

โฟกัสวัตถุในระยะใกล้สุดได้ 4 เซนติเมตรในโหมดมาโคร และซูมได้ระยะไกลสุดแบบดิจิทัลที่ 10X จากที่ทดสอบการซูมภาพ 5X จะยังได้รายละเอียดภาพที่ดี เกินกว่านั้นใช้สำหรับการซูมเพื่อให้เห็นมากกว่าครับ

ภาพมีความสดใส มีความชีวิตชีวาสูง ผมชอบโทนภาพที่ AI ของ OPPO ปรับออกมามากเลย มันนุ่มนวลแต่สว่าง

โหมดถ่ายภาพมาครบครับ ถ่ายภาพบุคคลละลายหลังพร้อมฟิลเตอร์สีสันให้เลือกใช้งานเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ และการถ่ายคนก็ยังคงความยอดเยี่ยมของ AI ตามมาตรฐานของกล้อง OPPO เช่นเดียวกัน

รองรับโหมดการถ่ายภาพกลางคืน คมโดยไม่ต้องมีขาตั้งกล้อง ซูมภาพกลางคืนก็ยังหวังผลความชัดได้อยู่เลยครับ

 

กล้องหลังตัวหลัก มีความละเอียด 48ล้านพิกเซล แต่มีโหมด HD พิเศษ ที่จะสามารถถ่ายภาพอัพความละเอียดไปได้ถึงระดับ 108 ล้านพิกเซลเลยทีเดียวครับ เอาไว้ถ่ายภาพเพื่อนำไปพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ หรือนำมาขยายใช้งานภาพบางส่วนในภายหลังได้นั้นเองครับ

กล้องรุ่นนี้ถ่ายสวยได้ง่ายครับ ถ่ายวิวภาพสดใส สีสันสวย ถ่ายคนก็โฟกัสตัดคนได้แม่น จับใบหน้าของนางแบบได้เป๊ะเลย มาตรฐานกล้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับสำหรับ OPPO A95 พกพาไปถ่ายท่องเที่ยวได้สบาย

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ก็รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่โบเก้ละลายหลัง ทำได้ดีอีกเช่นกัน

และแน่นอนว่ามากับ AI Beautification ที่จับและปรับแต่งได้ทุกอวัยวะบนใบหน้า กล้องหน้าเซลฟี่ รองรับฟิลเตอร์สีสันใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน

ตัว AI และระบบกล้องจะช่วยเพิ่มแสงบนใบหน้าให้เก็บรายละเอียดของภาพ พร้อมปรับหน้าเนียนภาพสวย ละลายหลังกันเบาๆ ถ่ายคนยังไงก็สวย คนสวยก็ยิ่งสวยขึ้นไปอีกครับ ^^

ตัวอย่างภาพถ่ายของ OPPO A95 บางส่วน

สรุปท้ายรีวิว

OPPO A95 สมาร์ทโฟนฟอร์มดี สเปคครบเครื่อง จอใหญ่แบตอึด 5,000 mAh แต่เครื่องบางเบา ใช้เทคนิคการผลิตระดับสูง ไม่เกิดคราบลายนิ้วมือ ลดรอยขีดข่วน มาพร้อมระบบชาร์จไว 33W Flash Charge แรมเยอะ 8GB พร้อมระบบขยายแรม RAM Expansion ได้อีก 5GB และให้หน่วยความจำมาขนาดใหญ่เพียงพอใช้งานได้เต็มที่ 128GB และรองรับ Micro SC Card เพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ

สเปคดีครับ เครื่องสวยน่าใช้ ออกแบบมาได้สมกับทุกเพศทุกวัยสำหรับ OPPO A95

สำหรับ OPPO A95 ราคา 9,499 บาท มี 2 สี ได้แก่ สีเงิน (ประกายรุ้ง) Glowing Rainbow Silver และสีดำ Glowing Starry Black เปิดให้จองก่อนใครตั้งแต่วันที่ 19 – 23 พฤศจิกายนนี้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับของสมนาคุณ รวมมูลค่า 5,199 บาทไปด้วยครับ

  • E-VIP CARD ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และรับประกันหน้าจอ มูลค่า 3,900 บาท
  • Mini Suit Case มูลค่า 1,299 บาท
    รวมมูลค่า 5,199 บาท

และเป็นเจ้าของ OPPO A95 ได้ง่ายยิ่งขึ้นกับโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, Dtac และ TrueMove H ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 3,999 บาท

โดย OPPO A95 จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

นอกจากนี้ OPPO ยังได้เตรียมกิจกรรมให้แฟนออปโป้และชาวไทยมาร่วมกันเป็นแรงเชียร์นักฟุตบอลทีมชาติไทยไปพร้อมๆ กัน โดยสามารถติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ทาง Facebook OPPOThai เพราะสำหรับ OPPO A95 ก็เป็นรุ่นที่ OPPO ได้จับมือเป็นพาร์ทเนอร์หลักของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน AFF Suzuki Cup 2020 ด้วย อยากให้ทุกคนร่วมเชียร์ทีมฟุตบอลไทยในการแข่งขัน AFF Suzuki Cup 2020 ในครั้งนี้ไปด้วยกันด้วยนะครับ งานแข่งขันจะเริ่มในวันที่ 5 ธันวาคมเป็นต้นไป อย่าพลาดมาร่วมเชียร์กันนะครับ ^^

ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์และติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่: https://bit.ly/3F7XJLj

ดูข้อมูลโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการเครือข่าย AIS เพิ่มเติมได้ที่ https://m.ais.co.th/aWH4en9UM

ดูข้อมูลโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการเครือข่าย Dtac เพิ่มเติมได้ที่ https://store.truecorp.co.th/online-store/shop/oppo-a95

ดูข้อมูลโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการเครือข่าย TrueMove H เพิ่มเติมได้ที่ https://www.dtac.co.th/best-deal/oppo/oppo-a95.html

 

 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version