Advertisement

กลับมาอีกครั้งกับหูฟัง TWS ที่คุ้มค่าที่สุดในช่วงนี้ ในตระกูล FreeBuds รุ่นล่าสุดกับ Huawei FreeBuds 4 หูฟังไร้สายอัพเกรดมาจากตัว FreeBuds 3 ในทุกด้าน ชูความโดดเด่นด้านประสบการณ์เสียงสมจริงโดดเด่นด้านคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res กับเทคโนโลยี Open-Fit ANC 2.0  และดีไซน์ให้บางเบากว่ารุ่นเดิม มาพร้อมไดนามิกไดรเวอร์ 14.3 มม. เชื่อมต่ออัจฉริยะได้ถึงสองอุปกรณ์พร้อมๆ กัน สวมใส่สบาย พกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเบา รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ในราคา 5,999 บาท ลดพิเศษสำหรับโปรโมชันพรีออเดอร์เหลือเพียง 4,499 บาท พร้อมรับฟรีบริการ HUAWEI Music VIP นาน 3 เดือน 

Advertisement

ดีไซน์ของ HUAWEI FreeBuds 4

การออกแบบของตัวเคสชาร์จและตัวหูฟังที่ดูเรียบหรู กับหน้าตาที่เป็นทรงแบบเดิมของตัว HUAWEI FreeBuds 3  เพิ่มเติมคือ ความเบาและบางกว่าเดิม มาพร้อมสีใหม่ Silver Frost สีเงินด้านที่ดูสวยแปลกตา และสีขาวคลาสสิคแบบดั้งเดิม Ceramic White ตัวเคสบางและขนาดเล็กลง 12.1% และน้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นก่อนถึง 20.8% ตัวที่เราจะมารีวิวคือสีขาว Ceramic White

ตัวเคสชาร์จดีไซน์ทรงกลมแบน บางและน้ำหนักเบาตัวเคสเปล่าเบาเพียง 38 กรัมเท่านั้น ด้านหลังฝาพับแสดงให้เห็นโลโก้ HUAWEI สีเงินอย่างชัดเจน

ผิววัสดุที่เป็นมันวาวให้ความรู้สึกเรียบหรู แต่ก็เป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายเช่นกันค่ะ ตัวหูฟังที่มีการทั้งปรับขนาดและน้ำหนักให้เพรียวบางและเบาขึ้น การออกแบบที่เน้นความสบายในการสวมใส่ เพราะมีน้ำหนักเพียง 4.1 กรัมเท่านั้น

ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่ไม่ชอบหูฟังแบบ In Ear เจ้าตัวนี้เป็นหูฟังแบบ EarBuds ใส่สบายรูหูไม่รู้สึกอึดอัดในขณะที่พอร์ตเอาท์พุตเสียงขนาดใหญ่ขึ้นเพิ่มความสบายในช่องหูมากขึ้น ส่วนหัวของหูฟังบางลงและปรับองศาให้เอียงเข้าด้านใน เพื่อลดแรงกดบริเวณหูชั้นนอก และความกระชับมากขึ้นใส่ออกกำลังกายได้ ไม่เลื่อนหลุดง่าย

พอร์ตชาร์จ USB Type C รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว

ด้านข้างจะมีปุ่มสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์

เชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกระบบปฏิบัติการด้วย Bluetooth 5.2 ไม่ว่าจะเป็น Android, iOS หรือ Windows และแน่นอนว่าเชื่อมต่อได้อย่างอัจฉริยะกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของหัวเว่ยที่ใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.0 ขึ้นไป โดยสามารถตรวจจับการเชื่อมต่อได้อัตโนมัติ เพียงเปิดฝาเคสชาร์จ หน้าต่าง Pop-up ก็จะปรากฏบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่อยู่ในบริเวณเดียวกันทันที

หากเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นที่ไม่ใช่ Huawei ด้วยกัน วิธีเชื่อมต่อโดยการเปิดฝาเคสชาร์จแล้วกดปุ่มด้านข้างค้างไว้ 2 วินาที จนไฟสถานะจะกระพริบ

การควบคุมด้วยปลายนิ้วที่ตัวหูฟัง

เราสามารถใช้งานควบคุมจากภายนอกโดยไม่ต้องเปิดมือถือเพียงปลายนิ้วสัมผัส

  • แตะ 2 ครั้งบริเวณก้าน เล่น / หยุดเพลง , รับสาย / วางสาย
  • แตะค้างที่ปลายก้าน เป็นการเปิด/ปิด ANC
  • เพิ่มระดับเสียงโดยการสไลด์ขึ้นลง บริเวณก้าน

เพื่อการใช้งานหูฟังได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพ แนะนำให้โหลดแอพพลิเคชั่น Huawei AI Life ค่ะ หน้าตาก็ตามนี้เลย ดาว์นโหลดได้ใน Huawei App Gallery , PlayStore , AppStore

เชื่อมต่ออัจฉริยะได้ถึงสองอุปกรณ์พร้อมๆ กัน ทำงานแบบ Multi-tasking สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์สองเครื่องพร้อมกัน ได้ทั้งกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป สมาร์ทวอทช์ หรือสมาร์ททีวี เช่น หากกำลังประชุมผ่านแล็ปท็อป แล้วมีสายเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟน HUAWEI FreeBuds 4 จะสลับไปที่สมาร์ทโฟนได้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องสลับการเชื่อมต่อให้วุ่นวาย

สายถ่าย Vlog น่าจะถูกใจเจ้า FreeBuds 4 ที่สามารถใช้ไมโครโฟนของหูฟังบันทึกเสียงถ่าย Vlog ได้ด้วย เก็บรายละเอียดเสียงได้แบบมืออาชีพ บันทึกเสียงคุณภาพระดับ HD ด้วยค่าความละเอียดในการบันทึกเสียงสูงสุดที่ 48 kHz หมดปัญหาเสียงขาดๆ หายๆ นอกจากนี้ยังปรับการโทร HD ทำให้เสียงสนทนาชัดเจนขึ้น

คุณภาพเสียงการคุยโทรศัพท์สูงสุดที่ 32 kHz ในพื้นที่ ที่มีคนพลุพล่านอย่างริมถนนหรือร้านอาหาร สนทนาได้ชัดเจนตัดเสียงรบกวนได้ดี มีไมโครโฟน 3 ตัวเพื่อรับเสียงระหว่างใช้งานโทรศัพท์ โดยไมโครโฟน 2 ตัวมีระบบการตัดเสียง ANC เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Open-Fit ANC 2.0 และไมโครโฟน 3 ตัว ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุด 25 เดซิเบล ทำให้เราสามารถฟังเพลงได้อย่างเต็มที่ แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่พลาดข้อมูลสำคัญรอบด้านอย่างเสียงการแจ้งเตือนบนรถไฟฟ้า หรือสนามบิน คนรอบตัวหรือการแจ้งเตือน

หากเผลอทำหูฟังหายไปข้างใดข้างหนึ่ง เราสามารถส่งสัญญาณให้หูฟังส่งเสียงเพื่อช่วยหาหูฟังได้ด้วย ผ่านแอพพลิเคชั่น Huawei AI Life

ใครที่เคยใช้หูฟังในตระกูล FreeBuds โดดเด่นที่คุณภาพเสียงแทบจะไม่ต้องพูดอะไรมาก ด้วยราคาและคุณภาพที่เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป แกะกล่องออกมาก็เสียบเข้าหูฟังเพลงได้เลยโดยไม่ต้องเบริ์นหูฟังให้เสียเวลา  ใช้ไดนามิกไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 14.3 มม. และไดอะแฟรมที่ทำจากพอลิเมอร์ผลึกเหลว (LCP มาพร้อมกับเสียงเบสอัดแน่น พร้อมช่องเสียงแบบสูญญากาศและท่อเสียงเบส  ที่ตอบสนองความถี่ถึง 40 kHz  ฟังเพลินทุกแนวเพลง คุณภาพเสียงดี มิติเสียงที่กว้าง ฟังสนุก

นอกจากนี้ยังมาพร้อม Low Latency Gaming Mode สนุกกับการเล่นเกมด้วยค่าความหน่วงต่ำกว่า 150 มิลลิวินาที ภาพกับเสียงสอดคล้องกัน รวมถึงการชมภาพยนตร์ผ่านอุปกรณ์และการชมคลิปยูทูป เสียงกับปากตรงกันไม่รู้สึกถึงการดีเลย์ของเสียง

รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 15 นาที ก็ใช้งานต่อได้อีก 5 ชั่วโมง นอกจากนี้ ตัวหูฟังมาพร้อมแบตเตอรี่ 30 mAh และเคสชาร์จอีก 410 mAh ทำให้เล่นเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุด 4 ชั่วโมง เมื่อปิดการใช้งาน ANC และนานสูงสุด 22 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC และใช้ร่วมกับเคสชาร์จ หมดปัญหาแบตหมดระหว่างวัน

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • หูฟังและเคสชาร์จ Huawei FreeBuds4
  • สายชาร์จ USB Type C
  • คู่มือการใช้งานสารพัดภาษา
  • Warranty Card

สรุปการใช้งาน HUAWEI FreeBuds 4

เยี่ยมยอดและคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับหูฟังในระดับราคาใกล้กัน ทั้งคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ที่ดีตั้งแต่ฟังครั้งแรกโดยไม่ต้องปรับอีคอวไลเซอร์เพิ่มหรือเบิร์นหูฟังเลย การปรับรูปทรงทั้งตัวเคสชาร์จและตัวหูฟังให้บางและเบาขึ้น เทคโนโลยี Open-Fit ANC 2.0 การเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน ใช้ไมโครโฟนของหูฟังบันทึกเสียงถ่าย Vlog ได้ด้วย บันทึกเสียงคุณภาพระดับ HD คุ้มค่าแบบนี้เอารางวัลหูฟังคุ้มค่าสุดในระดับราคาเดียวกันจากทาง APPDISQUS ไปเลยค่ะ

HUAWEI FreeBuds 4 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน Silver Frost และสีขาว Ceramic White วางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท ลดพิเศษสำหรับโปรโมชันพรีออเดอร์เหลือเพียง 4,499 บาท พร้อมรับฟรีบริการ HUAWEI Music VIP นาน 3 เดือน รวมมูลค่า 387 บาท

เปิดให้พรีออเดอร์แล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ถึง 22 กรกฎาคม 2564 ทั้งทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ

ช่องทางจำหน่าย HUAWEI FreeBuds 4

แชร์
Avatar photo

ว่างจากวาดรูปก็มาเล่นในนี้แหละ ^^

Advertisement
Exit mobile version