Advertisement

ก็มาต่อกันในเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับ Nubia Z17s จากรีวิวแรก (อ่านที่ลิงก์นี้ครับ <<< ) ที่เราพาไปดูรายละเอียดต่างๆ ของเครื่องกันไปแล้ว มาตบท้ายกันในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานกันดีกว่าครับ

Nubia Z17s ผมจะบอกว่าเป็นเครื่องที่ทุกคนหวังผลเลิศในด้านประสิทธิภาพการใช้งานไว้ได้เลยครับ ด้วยสเปคเครื่องที่เรียกว่าเบอร์ต้นของระบบ Android แบบไม่ต้องไปดูที่ราคาเพราะขายถูกกว่าคู่แข่งในระดับสเปคใกล้กันมาก ด้วยการใช้หน่วยประมวลผลที่เป็นมาตรฐานสากลอย่าง Snapdragon 835 และแรมที่ให้มาถึง 8GB  พร้อมหน่วยความจำภายใน 128 GB ครบมากด้านตัวเลขสเปคครับ

Advertisement

อีกทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานของเครื่อง Nubia ก็ไม่เป็นรองด้วยครับ แถมออกจะโดดเด่น เพราะว่า Nubia จะมาพร้อมกับระบบการแบ่งหน้าจอทำงานออกเป็นสอง หรือมัลติวินโดวนั้นเอง ซึ่งในวันนี้ผมก็ยังยกให้เป็นระบบมัลติวินโดวที่เก่งที่สุดครับ เพราะแทบไม่มีข้อจำกัด มันใช้งานได้กับแอพพลิเคชั่นมากกว่า 90% ที่มีอยู่ในเครื่อง (ขาดแต่แอพอย่างอัลบั้มรูปและกล้องถ่ายภาพเท่านั้น) ซึ่งจะเป็นการแยกทำงานสองหน้าต่างได้คล้ายกับการทำงานจากเครื่องสองเครื่องเลยครับ

และเป็นฟังก์ชั่นที่จะนำประสิทธิภาพเครื่องมาใช้งานได้สมเหตุสมผลที่สุด ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าจะมีแรมถึงขนาด 8GB เอาไว้ทำไม

ฉะนั้นในการทดสอบใช้งาน Nubia Z17s มันไม่ใช่ลื่นไหลในระดับสูงแบบเครื่องอื่นๆ เท่านั้นนะครับ แต่มันเป็นการทำงานแบบ X2 ด้วยเพราะว่ามันเป็นเครื่องที่เราจะสามารถเล่นเกมระดับกราฟิกสูงๆ ได้พร้อมกันถึงสองเกม และในการใช้งานลำพังเพียงแอพเดียวคุณจะได้พบกับประสบการณ์การเล่นแบบที่ลื่นสุดๆ  ไม่มีสะดุดเลยครับ ยิ่งเมื่อผมใช้งานบนเครื่อง Nubia Z17s ชินๆ แล้วไปเล่นเกมเดียวกันบนเครื่องเรือธงเครื่องอื่นอาจจะรู้สึกถึงอาการสะอึกเล็กๆ แบบที่ปกติไม่เคยรู้สึกถึงได้เลยครับ

ซึ่งการใช้งานสองหน้าจอ บางเกมจะสามารถปรับ Ratio ของภาพได้ แต่สำหรับบางเกมที่ปรับไม่ได้ ก็ต้องยอมรับขนาดภาพแปลกๆ ตามการหดของหน้าจอเอานะครับ ^^ ซึ่งผมมองว่า ประโยชน์มันมีหลายด้านไม่ใช่แค่เรื่องการเล่นเกม อาจจะนำไปใช้เช่นการเล่น Facebook พร้อมเล่นเกม หรือการเปิดแผนที่นำทางพร้อมเล่นดู Youtube เป็นต้นครับ

ยังมีฟังก์ชั่นการสั่งงานตามขอบที่ผมชอบมาก เพราะใน Nubia Z17s เราสามารถเรียกปุ่มคำสั่งด่วน (ปุ่มโฮม, ย้อนกลับ และ Recent App ) ได้จากทุกที่ทุกเวลาครับ ด้วยการทัชนิ้วสองครั้งบนขอบเครื่อง เป็นฟังก์ชั่นที่ผมใช้งานบ่อยที่สุดครับ

ยังมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย ที่เป็นรายละเอียดซึ่งทาง Nubia ใส่เข้ามาไว้ในเครื่องเพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งาน เช่นการดับเบิลทัชที่สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเพื่อแทนการกดปุ่มย้อนกลับ เหล่านี้เป็นความใส่ใจครับ ดูก็มีเรื่องที่ขัดตาอยู่เช่นกัน เป็นฟอนท์และคำแปลในเมนูภาษาไทย ที่บางหน้าเมนูสระยังกระโดดอยู่ในเห็นครับ ต้องฝากให้ทาง Nubia เก็บงานให้ละเอียดด้านการใช้เมนูไทยในเครื่องกว่านี้อีกสักหน่อยเพราะตอนนี้เครื่องก็นับว่าอยู่ในราคาตลาดบนแล้ว ฉะนั้นงานปราณีตต้องมาครับ

และยังงงๆ อยู่กับ UI ของ Nubia ว่าจะลบหน้าว่างๆ ใน Launcher ออกยังไง?

ว่ากันด้วยเรื่องงานปราณีต Nubia Z17s เป็นเครื่องที่สวยนะครับ ด้วยการเลือกใช้สีและวัสดุที่ดูแพง การจับสัมผัสรู้สึกทันทีว่าแน่นหนาครับ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มกดต่างๆ หรืออุปกรณ์เสริมที่ให้มาภายในกล่อง ดูสวยทั้งหมดเลยครับ

สิ่งที่ขัดใจ คือการเป็นหนึ่งในเครื่องที่เดินตามแนวทางไร้ช่องหูฟัง – – Nubia Z17s เป็นเครื่องที่มีพอร์ตใต้เครื่องเป็น USB Type-C ที่รองรับระบบ NeoCharge หรือระบบการชาร์จไวของ Nubia แต่ไร้รูเสียบหูฟังแบบ 3.5mm โดยตรงครับ แต่ภายในกล่องจะมีตัวแปลงพอร์ต Type C ให้เป็นแจ็ค 3.5mm มาให้ แต่พอร์ตการใช้งานที่หายไปหนึ่งพอร์ต สำหรับผมยังไงมันก็คือการลดสเปคครับ แถม Nubia Z17s ก็ไม่มีหูฟังแถมมาให้ในกล่องนะครับ แต่ในวันเปิดจองมีการแถมหูฟัง JBL มาให้ ถือว่าจบปัญหาได้เหมือนกัน ^^

ตัวลำโพงของเครื่องก็เสียงดังใช้ได้ครับ ความคมชัดของหน้าจอก็ถือว่าสูงครับ 1080 x 2040 พิกเซล เป๋็น FHD+ ที่มีจำนวนพิกเซลสูงแบบตัวเลขแปลกๆ เพราะว่า Nubia Z17s เป็นเครื่องมาพร้อมกับสัดส่วนหน้าจอหายาก 17:9 เป็นลูกครึ่งพันธุ์ผสมเครื่องหน้าจอยาวแบบพวกเทรนด์ใหม่ กับเครื่องในสัดส่วนคุ้นตาแบบที่เราเคยคุ้นมือนั้นเอง

ทำให้ขนาดตัวเครื่องของ Nubia Z17s ไม่ใช่เป็นเครื่องทรงยาวแต่ยังอยู่ในสัดส่วนแบบเดิมๆ โดยออกมาในหน้าจอ 5.7 นิ้วแบบไร้ขอบที่ไร้ขอบของจริงครับ เพราะจอค่อนข้างชิดขอบ เหลือไว้เพียงเส้นบางๆ

สัดส่วนตัวเครื่องและหน้าจอเป็นอีกอย่างที่ทำให้ผมเชียร์ตัว Nubia Z17s ว่าเป็นเครื่องขอบบางที่น่าใช้ครับ

ในด้านการเชื่อมต่อไร้สาย ตัว Nubia Z17s รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac dual-band ครับ และใช้งานสองซิมการ์ดแบบ Dual Stand By รองรับการสนทนาเสียง HD VoLTE และ VoWIFI ครบครันด้านการใช้งานและการติดต่อสื่อสาร ตัวแบตเตอรี่ของ Nubia มีมาให้ 3,100 mAh ถือว่าก้อนไม่เล็กไม่ใหญ่ในสมัยนี้ครับ ใช้งานหนักๆ แบบเปิดจอเล่นเกมความสว่าง 50% ใช้แบตชั่วโมงละประมาณ 18% ครับ ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป ผมใช้ได้เช้าจรดค่ำ กับบ้านมาแบตยังไม่แดงครับ

กล้องถ่ายภาพ

Nubia Z17s เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องถ่ายภาพมากถึงสี่ตัวบนเครื่องครับ เป็นกล้องหลังคู่ 23 ล้านพิกเซล + 12 ล้านที่เป็น Dual Pixel มีรูรับแสงใหญ่ f1.8 ตัวเลนส์ใช้วัสดุแซฟไฟน์ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน กล้องหน้า 5ล้าน + 5ล้าน f2.2 มาพร้อมกับระบบการถ่ายภาพตัวล่าสุดของแบรนด์ครับ และแน่นนอน เมื่อมาเป็นระบบกล้องคู่ ก็ต้องเด่นขึ้นในการถ่ายภาพบุคคล จึงมีการพัฒนา AI Portrait 2.0 ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการภาพบุคคลโดยเฉพาะครับ

ซึ่งกล้องของ Nubia ปกติแล้ว ก็มักจะมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่เยอะมากครับ ในโหมดการถ่ายภาพทั้งในระดับโปรและอัตโนมัติ ซึ่งน่าจะเยอะที่สุดแล้วสำหรับ UI กล้องในปัจจุบันของเครื่องสมาร์ทโฟน มีทั้งการถ่ายภาพดาว การถ่ายภาพเคลื่อนไหว หรือการถ่ายลากแสงไฟ โดยในเวอร์ชั่นบนเครื่อง Nubia Z17s เราสามารถปรับรูรับแสงได้ด้วยครับ แต่เป็นการปรับในแบบซอฟท์แวร์จำลองนะครับ ซึ่งก็แค่นี้ก็ช่วยได้มากแล้วในการกำหนดค่าของกล้องถ่ายภาพได้ด้วยตัวเอง มีระบบโฟลเดอร์แบ่งชนิดภาพเอาไว้ให้ชัดเจนด้วย

คุณภาพของกล้อง Nubia Z17s ยอดเยี่ยมครับ จัับภาพไว แยกวัตถุหรือบุคคลที่ต้องการโฟกัสได้แม่น มีเซ็นเซอร์ที่คอยตรวจจับวัตถุมากกว่า 60% ของพื้นที่หน้ากล้อง ละลายได้คมสวยงามครับ รองรับการถ่ายภาพบุคคลทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง  ปรับแต่งภาพได้เยอะมาก ทั้งหารปรับแต่งเพื่อหน้าสวย หรือฟิลเตอร์สีต่างๆ ครับ

มีโหมดมาโครการถ่ายภาพระยะใกล้โดยจะแสดงการจับโฟกัสแบบพีคกิ่งเป็นสัญลักษณ์สี และการซูมภาพสองเท่าได้แบบไม่ลดรายละเอียด ซึ่งสามารถซูมต่อได้ถึง 10 เท่าด้วยระบบซอฟท์แวร์ครับ

แต่ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพแบบคู่ ของ Nubia Z17s ดูเหมือนจะขาดลูกเล่นการปรับแต่งของตัวกล้องคู่ไป เราไม่สามารถเข้าไปปรับแต่งหรือใช้งานระบบกล้องคู่ของตัวเครื่องมันได้มากนัก ไม่สามารถควบคุมระยะชัดลึกชัดตื้นได้ ไม่สามารถปรับแต่งภาพหลังถ่ายได้ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะเป็นหนึ่งในความสามารถที่เครื่องกล้องคู่มักจะมีกันครับ แต่สำหรับ UI กล้องตัวนี้ของ Nubia Z17s ยังไม่มี น่าเสียดายสีสันตรงจุดนี้ไปครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า

สรุปท้ายรีวิว

ข้อเสียหรือจุดบกพร่องหลักๆ ของเครื่องยังไม่พบเจอมาตลอดการใช้ครับ ใช้งานได้ดี ว่องไว ไหลลื่น และประสิทธิภาพสูงมากครับ ในราคา 17,990 บาทที่ประกาศออกมาในประเทศไทยถือว่าถูกกว่าราคาเมืองนอก และคุ้มมากกับประสิทธิภาพเครื่องที่เราได้รับมาครับ

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version