Surface Pro 4 แท็บเล็ตตัวแรงที่ทาง Microsoft เปิดจำหน่ายแล้วในเมืองไทย มีหลายระดับราคาซึ่งแตกต่างกั
ซึ่งตัวที่ผมนำมาทดสอบลองใช้ตัวนี้เป็นเครื่องรุ่น CPU i5 Gent6 แรม 4GB และหน่วยความจำภายใน 128GB ซึ่งเป็นตัวราคาถูกที่สุดของรุ่นที่ใช้ Core i และน่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับคนที่ต้องการใช้งานในด้านเอกสาร, ทำงานผ่านเว็บไซด์ และใช้งานทั่วๆ ไป เพราะเสปคถือว่ามากพอแล้วครับในด้านนี้
[section label=”ตัวเครื่องภายนอก” anchor=”Body”] ตัวเครื่องภายนอก
จุดเด่นของเครื่อง Surface pro 4 คือการออกแบบครับ มันแตกต่างและมีแนวคิดที่ไม่เหมือนใครตั้งแต่หน้าจอ 12.3 นิ้วของมันกับสัดส่วน 3:2 ที่เราอาจจะไม่คุ้นตา แต่เชื่อผมเถอะว่า นี่เป็นสัดส่วนหน้าจอที่ดีกว่าจอกว้าง 16:9 แบบเดิมมากในขณะที่คุณใช้งานเอกสาร การอ่าน การเข้าเว็บไซด์
ลดความกว้างเพื่อความสูงขึ้นมาเล็กน้อยทำให้หน้าจอ 12.3 ของมันดูใหญ่มากพอจะใช้งานและไม่อึดอัด นั้นเพราะตามความเป็นจริงแล้วเรามักจะใช้งานในแนวการมองและการเลื่อนหน้าแบบบนลงล่าง มากกว่าการใช้งานเลื่อนหน้าจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายนั่นเองครับ
ระบบ PixelSense ทำให้การแสดงผลดูมีสีสัน ดูดีครับเป็นจอภาพที่สวย มีความละเอียดหน้าสูงลิบ 2,736 x 1,824 พิกเซล เวลาใช้งานจริงต้องตั้งไว้ขยาย 200% ผมยังต้องเพ่งเล็กน้อย กระจกจอแบบ Corning Gorilla glass 4 กันรอยขีดข่วน และลำโพงคู่หน้าด้านข้างจอภาพแบบสเตอริโอ ทดสอบฟังเสียงแล้วดังใช้ได้ คุณภาพเสียงอยู่ในระดับที่ดีครับ
ขาพับด้านหลังปรับมุมองศาการใช้งานได้กว้าง มีความแข็งแรงอยู่ครับ ด้านในเป็นสล็อตใส่ Micro Sd card ไว้เพิ่อเพิ่มหน่วยความจำใช้งานได้ ตัวเครื่องบาง 8.4 มิลลิเมตร เบาประมาณเจ็ดร้อยกว่ากรัม เวลาถือใช้งานมือเดียวเอาไหวครับ ตัวเครื่องไม่ใหญ่ทั้งที่ภายในสเปคไม่ธรรมดาแต่ทำได้บางขนาดนี้ แต่ก็ยังบางพอดีที่จะมีพอร์ต USB 3.0 มาให้ พร้อมพอร์ตต่อจอภาพภายนอก (mini Display) มาให้อีกหนึ่งพอร์ตด้วยครับ
ขั้วชาร์จไฟแบบแม่เหล็ก
Surface Pro 4 ในชุดขายจะมาพร้อมกับปากกา Surface Pen ตัวใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับ Surface Pro 4 ด้วยครับ เขาว่ารองรับแรงกดได้มากถึง 1,024 ระดับ จากที่ทดสอบถึงมั้ยไม่รู้ แต่ประสิทธิภาพดีมากครับ ตอบสนองไว ตัวปากกาได้น้ำหนักดี มีที่เก็บด้านข้างเครื่องเป็นแม่เหล็ก ยึดติดแน่นมาก แต่ไม่เหมาะจะติดไว้แล้วพกพา เพราะมีโอกาสหลุดหายได้เช่นกันครับ
ท้ายปากกาเป็นปุ่มที่ใช้ลบได้เหมือนยางลบเวลาเราใช้งานในการวาดหรือเขียน รวมทั้งเป็นปุ่มลัดสำหรับการเรียกใช้งาน Onenote เพื่อจดบันทึกด่วนได้ด้วยครับ เรียกใช้งานได้ในทุกขณะแม้แต่ตอนล็อกหน้าจอ รวมทั้งใช้เรียก Cortana เลขาส่วนตัวขึ้นมาเพื่อป้อนคำสั่งเสียงโดยการกดปุ่มท้ายปากกาค้างไว้ได้ด้วย
รอบเครื่องมีช่องระบายอากาศ ออกแบบมาสวยดีครับ ขณะใช้งานที่มีการประมวลผลก็ได้ยินเสียงพัดลมเบาๆ
ด้านใต้เครื่องมีพินสำหรับเชื่อมต่อกับ Type Cover ที่เป็นทั้งฝาปิด เคส และแป้นพิมพ์แบบมีไฟ Backlit ผมชอบการดีไซด์ที่มันสามารถยกด้านในของคีย์บอร์ดเข้าไปติดกับตัวเครื่อง Surface ด้านล่างเพื่อทำมุมลาดเอียงเพิ่มความถนัดในการพิมพ์ได้ครับ
Advertisement
[section label=”ประสิทธิภาพ” anchor=”performance”] ประสิทธิภาพการใช้งาน
เป็นแท็บเล็ตที่ดีที่สุดในระบบ Windows 10 เครื่องแค่นี้แต่มีสเปคภายในไม่ธรรมดาละครับ สิ่งที่ได้มาแน่ๆ คือเป็นเครื่องที่อยู่กับเราได้ทุกโอกาส ทำงานนอกบ้าน เดินทางเข้าออฟฟิศ หรือไปนั่งพิมพ์งานชิวๆ ที่ร้านกาแฟ ไม่ใหญ่เกินไปและไม่เล็กเกินไป เป็นได้ทั้งแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊ค
ที่ผมได้ลองใช้งานมาแบตเตอรี๋สามารถอยู่ได้ประมาณ 6-7 ชั่วโมงครับ สำหรับการทำงานทั่วๆ ไปในโหมดการตั้งค่าพื้นฐาน ตัวมันเองจะเปลืองแบตเตอรี่มากในส่วนของหน้าจอเป็นหลักครับ ยิ่งเปิดแสงสว่างมากๆ แบตก็ยิ่งหมดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เปิดแสงสว่างสุดและใช้งานต่อเนื่องเช่นรับชมภาพยนต์ แบตหมดได้ในประมาณ 5 ชั่วโมงครับ แต่ถือว่าอึดแล้วเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ Windows อื่นๆ
ตัวระบบ Windows 10 ก็ออกแบบมาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์ประเภทผสมผสานแบบ Surface Pro4 ได้ดีมากขึ้นครับ มีโหมดการทำงานแบบแท็บเล็ตและแบบเดสท็อปที่แยกจากกันชัดเจน แต่ผมว่าการทำงานแบบแท็บเล็ตในขณะที่ไม่มีเมาท์ยังไม่คล่องตัวมากเพียงพอที่จะทำงานได้เต็มที่เหมือนใช้งานในขณะที่อยู่ในรูปแบบเดสท็อปพร้อมเมาท์คู่ใจครับ
ในการใช้งานแนวตั้ง ด้วยหน้าจอสัดส่วน 3:2 มันทำให้หน้าจอดูไม่ยาวเกินไป ได้ขนาดเหมือนถือกระดาษ A4 เลยครับ ถนัดกว่าหน้าจอรูปทรง 16:9 เยอะโดยเฉพาะในโหมดนี้
ตัว Surface Pro 4 มีระบบการปลอดล้อกเครื่องด้วยการสแกนใบหน้าด้วยนะครับ ไม่ต้องป้อนรหัสกันทุกครั้ง โดยตัวเครื่องจะทำการสแกนใบหน้าจากกล้องหน้าเพื่อปลดล็อกเครื่องแทนครับ
เมื่อทำการเชื่อมต่อกับ Type Cover การใช้งานก็เหมือนโน๊ตบุ๊คทุกประการ ผมชอบการพิมพ์แบบวางแบนๆ บนพื้นมากกว่าจะยกลาดเอียง เพราะผมเป็นคนพิมพ์นิ้วหนัก กระแทกลงแป้นพิมพ์บางบนพื้นจะแน่นกว่า
ทัชแพดของตัว Cover ก็ตอบสนองไวและแม่นดีครับ รองรับมัลติทัชด้วย ทัชสองนิ้วคือคลิ๊กขวา ทัชสามนิ้วคือเปิดช่องค้นหาหรือ Cortana และทัชสี่นิ้วคือเปิดหน้าการแจ้งเตือน ใช้สามนิ้วรูดขึ้นและรูดลงเพื่อเปิดปิดหน้าและเปิดมัลติเดสท็อปได้ เรียกว่าใช้งานได้เยอะเลยครับทัชแพดของระบบ Windows 10
คีย์บอร์ดพร้อมแสงไฟสำหรับการใช้งานที่มืด สามารถหรี่เพิ่มความสว่างได้หลายระดับครับ และใช้ไฟจากตัวเครื่อง
สำหรับการใช้งานปากกา Surface Pen เราได้ให้ผู้ที่เชี่ยญชาญด้านการวาดภาพบนอุปกรณ์แท็บเล็ต Cherry Cola ได้ลองทดสอบดู ก็บอกว่าชอบครับ เส้นค่อนข้างจะตรงและใช้งานง่ายการตอบสนองไว เป็นปากกาที่ดีมากเลยละครับ
กล้องถ่ายภาพของ Surface Pro 4 นี่ถือว่าดีเกินความเป็นแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊ค Windows มาก กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านและกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล เหมือนอารมณ์กล้องของสมาร์ทโฟนเลยละ ผมมีตัวอย่างภาพถ่ายมาให้ดูกันด้านล่างนี้ครับ
รับชมหนังคลิปวีดีโอ เล่นเกม หน้าจอชัดใหญ่เต็มตามากครับเพราะว่าถ้าจะนับเป็นแท็บเล็ตก็เป็นแท็บเล็ตที่จอใหญ่มากนะครั
เล่นเกมจากในก็สามารถเอียงเครื่องเล่นได้ครับ เพราะเซ็นเซอร์มาครบที่ต้องใช้งาร ส่วนประสิทธิภาพเล่นเกมที่มีอยู่ให้ดาวน์โหลดใน Store นั้นเหลือๆ ครับ
[section label=”สรุป” anchor=”Synopsis”] สรูปท้ายรีวิว
ระดับสูง หรู สวย ประสิทธิภาพสูงมากพอๆ กับราคา ตัวเครื่องออกแบบดีมีแนวคิดที่ผลิตเพื่อระบบ Windows 10 โดยแท้จริง อุปกรณ์เสริมเข้าชุดน่าใช้ครับ ทั้งปากกาและเคสคีย์บอร์ด ประสิทธิภาพรอบตัวดีครบหมดแทบทุกด้านแล้ว ก็สมกับที่ Microsoft เป็นผู้คิดเองขายเอง ดีที่สุดของแท็บเล็ตที่รันระบบ Windows ในปัจจุปันครับ
[section label=”วีดีโอรีวิว” anchor=”ReviewVideo”] วีดีโอรีวิว Surface Pro 4
[signoff predefined=”คำถามล่าสุดจากหมวด Windows Phone”][/signoff]
