สมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นในราคาต่ำ
Advertisement
Lenovo K6 note เป็นรุ่นที่ขยับประสิทธิภาพต่อยอดขึ้นมาจากรุ่นก่อนๆ ซึ่งรุ่นนี้เน้นความคุ้มค่าด้านราคาครับ เลือกใช้วัสดุภายนอกและออกแบบมาให้ดูหรู มีความพรีเมี่ยมในการถือใช้งานครับ ให้ความรู้สึกของตัวเครื่องภายนอกที่ดี
รองรับสองซิมการ์ด หนึ่งซิมเป็นไฮปริดต้องเลือกใช้ระหว่างซิมการ์ดกับ Micro SD card (รองรับ 4G / 3G ได้ครั้งละหนึ่งซิม และอีกหนึ่งซิมสแตนด์บาย 2G )
สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อท้ายเครื่องสำหรับเจ้าตัวนี้ ยังคงเป็นพอร์ต Micro USB ครับ ถ้ามองตามยุคสมัยมันก็น่าจะมาพร้อมกับพอร์ต USB type-C มากกว่า เพราะว่ากำลังจะเป็นมาตรฐานใหม่ที่เข้ามาแทนเทคโนโลยีเดิม
แต่ถ้าจะคิดว่าเป็น Micro USB อาจจะดีกว่าก็ได้ เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่ในตลาดทุกวันนี้ก็ยังคงเป็น Micro USB ซะเยอะ ใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์เสริมเก่าๆ ได้มากกว่า ประหยัดเงินดีครับบางอย่างไม่ต้องซื้อใหม่ ในวันนี้ทั้งสองเทคโนโลยี ยังกั๊กๆ กันอยู่
ทดสอบตัว Micro USB ของ Lenovo K6 Note รองรับ OTG สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้ครับ
ตัวสแกนลายนิ้วมือทำงานได้ไวมาก แค่แตะก็เข้าใช้งานได้เลยครับ สแกนไวและแม่น
ตัวเครื่องภายนอกโดยรวมรุ่นนี้ทำได้ดูดี ดูมีราคาครับ ออกแบบสวย สัมผัสดี
การใช้งานภายใน[section label=”การใช้งานภายใน” anchor=”performance”]
Lenovo K6 note จะใช้ UI ของตัวเองในการทำงานครับ ซึ่งเป็น UI ที่เรียบง่ายใช้งานไม่ยาก แต่มีฟังก์ชั่นหลายอย่างทีเดียวที่เป็นทีเด็ดซ่อนไว้ นับเป็นหนึ่งแบรนด์ที่มีจุดเด่นในด้านนี้
หน้า UI มีความลื่นไหลในระดับดีครับ ทำซอฟท์แวร์ออกมาได้นิ่ง มีธีมให้เลือกเปลี่ยนใช้พอประมาณ และนอกจากธีมแล้วยังมีภาพพื้นหลังและหน้าล็อกสกรีนให้เลือกใช้หลายแบบด้วยครับ
ตัว UI ของ Lenovo จะปรับได้แม้ตัวหน้ารับสายเรียกเข้า หน้าโทรออก สีเมนู และหน้า Recent App เลือกแบบที่ถนัดได้ครับ
หน้าจอแสดงผลของ Lenovo K6 Note คมชัดดีครับ หน้าจอให้แสงสว่างระดับหนึ่งแต่ใช้งานกลางแจ้งแดดจัดๆ ก็สู้แสงไม่ค่อยไหว ประสิทธิภาพการทำงานของ K6 Note สำหรับการใช้งานทั่วไปสูงเพียงพอสบายๆ ครับ จะเกิดอาการแลคให้เห็นเล็กน้อยแค่ในการเล่นเกมระดับกราฟฟิคสูงๆ ครับ แต่ยังเล่นได้ปกติครับ ตัว Snapdragon 435 ตัวนี้เอาอยู่ครับ การเล่นหนังฟังเพลง เข้าเว็บไซด์อ่านหนังสือ พวกนี้ไม่มีปัญหาเลยครับ
ระบบเสียงดังดีชัดเจนครับ ที่สำคัญทุกเครื่องของ Lenovo จะมาพร้อมกับระบบจัดการเสียงของ Dolby atmos แทบทุกรุ่น มีการปรับแต่งเสียงได้เองหรือจะใช้พรีเซ็ตสำหรับการฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมก็ได้
Lenovo เป็นบริษัทที่มีฟังก์ชั่นหลายตัวเอาไว้ให้กับผู้ใช้ครับ แต่ตัวที่น่าสนใจซึ่งจะฝังอยู่ในเครื่อง Lenovo รุ่นใหม่ๆ มีสองฟังก์ชั่นเด็ด้วยกันที่ผมอยากจะแนะนำให้รู้จักสำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้ นั้นก็ฟังก์ชั่น พื้นที่ปลอดภัย และ แอพคู่
พื้นที่ปลอดภัย คือความสามารถในการแยกพื้นที่ส่วนหนึ่งเครื่องออกมาเป็นโซนพิเศษ ซึ่งจะสามารถใช้งานได้เหมือนปกติโดยทั่วๆ ไป แต่การจะเข้าใช้อะไรก็ตามที่อยู่ในโซนนี้ได้ ต้องมีรหัสผ่านซึ่งเรากำหนดไว้ต่างหากอีกชั้นหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับรหัสปลดล็อกหน้าจอตามปกติครับ
และมันจะแยกการใช้งานจากโหมดปกติได้แบบสิ้นเชิงเลยครับ เพราะทุกข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ในโหมดปลอดภัย จะไม่สามารถเรียกใช้ได้จากโหมดปกติถ้าเราไม่อนุญาต และในทักๆ แอพพลิเคชั่น เราจะทำต้องทำการล็อกอินไอดีเพื่อใช้งานใหม่ เหมือนเป็นเครื่องใหม่อีกเครื่องที่ซ้อนอยู่ในเครื่องเดียวกัน ซึ่งเราจะล็อกอินเป็นไอดีเดียวกันกับโหมดปกติหรือแยกกันก็ได้ครับ ส่งผลให้เราสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นบางตัวซึ่งปกติใช้ได้เพียงไอดีเดียวต่อเครื่อง มาใช้เป็นสองไอดีในเครื่องเดียวกันได้ หนึ่งไอดีในโหมดปกติ อีกหนึ่งไอดีในโหมดพื้นที่ปลอดภัย
ฟังก์ชั่นนี้มันมีไว้สำหรับสิ่งที่เป็นความลับ หรือสิ่งที่ต้องการความปลอดภัยที่สูงกว่าปกติ เช่นข้อมูลบริษัท ไอดีติดต่องาน หรือแอพพลิเคชั่นธนาคารต่างๆ ก็ควรเอามาไว้ในโหมดนี้ครับ และยังมีความสามารถในการลบตัวเองทิ้งได้แบบง่ายๆ ในไม่กี่คลิ๊กครับ (ต้องรู้รหัส) ซึ่งจะเป็นการลบพื้นที่ส่วนนี้ออกไปจากเครื่องได้ทั้งหมดโดยไม่กระทบกับโหมดหลักครับ
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นคือ แอพคู่
มันคือการเอาความสามารถในการแยกโหมดของพื้นที่ปลอดภัยมาประยุกต์ใช้แค่เพียงความสามารถบางอย่าง โดยจะเอามาแค่ความสามารถในการแยกแอพ จากหนึ่งกลายเป็นสอง หมายถึงในเครื่องเดียวของเราจะสามารถมีแอพพลิเคชั่นตัวเดียวกันได้สองตัว ล็อกอินใข้งานได้สองไอดีต่างกัน เช่น Line หรือ Facebook เป็นต้น หรือจะใช้กับแอพพลิเคชั่นจัดเก็บข้อมูลออนไลน์แบบ cloud storage สองไอดี ก็จะเกิดประโยชน์ต่อการใช้งานได้มากเลยครับ
แต่ด้วยความสามารถของ แอพคู่ และ พื้นที่ปลอดภัย จริงๆ แล้วมาจากความสามารถเดียว เราจึงต้องเลือกใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นนะครับ
แบตเตอรี่เพียงพอใช้งานได้ตลอดทั้งวันครับ ข้ามวันก็ยังไหว นอกจากจุดเด่นในด้านของตัวแบตเตอรี่ขนาดใหญ่แล้ว การเลือกใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 4 ก็เด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงานอีกด้วยครับ ถ้ายังอึดไม่มากพอในเครื่องมีฟังก์ชั่นสำหรับการถนอมแบตยืดอายุการใช้งานไปได้อีกหลายชั่วโมงในกรณีฉุกเฉินด้วย ซึ่งจะปรับตัวเองให้เข้าไปอยู่ในโหมดของโทรศัพท์ธรรมดาๆ ยืดอายุการใช้งานได้ออกไปอีกเป็นวันๆ เลยครับ
ผลทดสอบต่างๆ[section label=”ผลทดสอบต่างๆ” anchor=”test”]
การจับสัญญาณ GPS จากที่ทดสอบแบบไม่ใช่อินเตอร์เน็ตช่วยใช้เวลาเล็กน้อยในการจับตำแหน่งครับ แต่ก็พอจับตำแหน่งได้ปกติครับ
กล้องถ่ายภาพ[section label=”กล้องถ่ายภาพ” anchor=”camera”]
เจ้าตัว K6 Note ตัวนี้ กล้องถือว่าถ่ายง่ายเลยครับ ความละเอียดสูง กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล เป็นกล้องที่ค่อนข้างโฟกัสไว และมันมีโหมดการถ่ายภาพมาให้เราเล่นพอสมควร
มีโหมด Smart ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นเด่นในเรื่องการถ่ายภาพของเครื่อง Lenovo โดยมันจะช่วยแนะนำการจัดวางภาพ ตำแหน่งวัตถุในภาพ ระยะและองศา เป็นไกด์ให้เราสามารถถ่ายภาพได้ออกมาสวยงามด้วยองค์ประกอบภาพที่เหมาะสมครับ โดยมันจะตรวจจับสิ่งที่เรากำลังถ่าย ว่าเป็นภาพวิว วัตถุ หรือบุคคล แล้วจะทำการวิเคราะห์หาความเหมาะสมออกมาแนะนำให้เราได้อัตโนมัติ ซึ่งเราจะทำตามหรือไม่ ก็ไม่จำเป็นครับ แต่ผมว่ามีประโยชน์มากสำหรับนักถ่ายภาพมือใหม่ที่ยังจัดองค์ประกอบของภาพไม่เก่ง
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปท้ายรีวิว[section label=”สรุปท้ายรีวิว” anchor=”synopsis”]
Lenovo K6 Note อาจจะมีสเปคไม่ถึงขั้นสูงเหมือนเครื่องเรือธงรุ่นใหญ่ๆ แต่ใครจะใช้เป็นเครื่องสำหรับการทำงาน การใช้งานทั่วไปที่เรานิยมใช้กันอยู่ในทุกๆ วัน รับรองว่าไม่มีปัญหาครับ จัดวางสเปคมาได้เหมาะสมแล้ว และราคาก็ไม่แพงครับ ได้คุณภาพกล้องที่โอเคมาก ตัวเครื่องก็สวย สมราคารอบตัวครับ
