Advertisement

HUAWEI Watch Fit สมาร์ทวอทช์ที่ผมขอเรียกมันว่าลูกครึ่งนาฬิกาและสายรัดข้อมือดีกว่านะครับ ด้วยรูปทรงหน้าปัดที่ไม่เหมือนใคร ทรงยาวแต่จอใหญ่  ตัวเรือนไม่หนักสามารถใส่ใช้งานตลอดวันโดยไม่รู้สีกอะไร และอยู่กับเราได้เป็นอาทิตย์โดยไม่ต้องถอดออกมาชาร์จเลยด้วยซ้ำ

Advertisement

มันก็จะเหมือนกับสาย Fitness Tracker ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่ใส่ติดข้อมือเราเอาไว้ เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในยามออกกำลังกาย เป็นผู้ช่วยสมาร์ทโฟนเพื่อการแจ้งเตือน และเป็นผู้ช่วยจัดเก็บกิจกรรมการเคลื่อนไหวต่างๆ ของร่างกาย เป็นนาฬิกาบอกเวลาธรรมดาๆ และเป็นให้อีกหลายสิ่งหลายอย่าง แม้ไม่ใช่ทุกอย่าง ^^ แต่ก็มีราคาค่าตัวแค่ 3,499 บาทเท่านั้นเอง

มันมีชื่อเต็มว่า HUAWEI WATCH Fit Active Edition ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหว ทำงานด้วย AI และระบบอัตโนมัติ ช่วยเหลือผู้สวมใส่ทั้งการแจ้งเตือนและดูแลสุขภาพครับ

ตัวเรือนน้ำหนักเบา ความรู้สึกตอนใส่สบายๆ เพราะมันไม่ใหญ่ไม่หน่วง เรือนมันจริงๆ หนักแค่ 21 กรัม กระจายน้ำหนักตามทรงยาวของสาย ขนาดรวม 46 x 30 x 10.7 มิลลิเมตร ขนาดความกว้างแค่นี้ใส่ได้ทุกเพศทุกวัย จะลำลองก็พอได้ จะจริงจังก็หล่ออยู่ครับ

เพราะหน้าจอแสดงผลของมันภาพชัดและสีสวย  1.64” AMOLED  ขอบบางเล็กเพียง 0.95 มม ภาพบนจอเห็นชัดเจนดีมาก สู้แสงได้แม้ใช้งานในตอนกลางวัน เห็นอะไรชัดเจน

อยู่กับเราได้ตลอดจริงๆ ครับ มันแบตอึด ตัวเล็กน้ำหนักเบา แถมกันน้ำระดับ 5ATM แข่งกันดำน้ำกับมันเราตายก่อน ฉะนั้นหายห่วงที่จะพามันไปอาบน้ำหรือเล่นกีฬาทางน้ำได้เลยครับ

ใส่แล้วใส่ยาว ไม่ต้องถอด เพราะแบตเตอรี่ชาร์จเต็มทีก็อยู่ได้เป็นอาทิตย์สบายๆ ใส่นานจนลืมเรื่องชาร์จ ไม่ใช่จำพวกต้องถอดชาร์จทุกวันจนลืมใส่

มันถูกออกแบบมาให้ติดตัวตลอดแม้ยามนอนหลับ จะบอกว่ากระจกหน้าจอของเจ้าตัวนี้ทนทานดีมากนะครับ เห็นเครื่องราคาไม่แพง แต่ผมทดสอบให้แล้วด้วยความไม่ตั้งใจ ^^ ทนรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี โดนขอบ PC ไปหลายดอกยังไม่เห็นรอยครับ

มีปุ่มควบคุมเพียงปุ่มเดียวเป็นทั้งปุ่มเปิดรายการใช้งานและกดอีกครั้งเป็นปุ่มโฮมย้อนกลับมาหน้าแรก ส่วนการเลื่อนหน้าจะใช้การสไลด์หน้าจอโดยตรง สไลด์ซ้าย/ขวา คือดู Widget ที่นำมาวางเอาไว้ทีละหน้า เลื่อนขึ้นจะเป็นหน้าศูนย์แจ้งเตือน เลื่อนลงคือเข้าหน้าตั้งค่าต่างๆ ของนาฬิกา

สรุปแล้วจากตัวเครื่องภายนอก มันคืออุปกรณ์คู่กายเลยครับ ตัวไม่หนัก ไม่หน่วง น้ำหนักเบา แบตเตอรี่อึด หน้าปัดทนทาน และกันน้ำ 5ATM อยู่อึดอยู่ทนอยู่นาน เป็นแนวใส่แล้วไม่ต้องมาถอดเข้าถอดออกบ่อยๆ

การใช้งานภายใน

การทำงานของ HUAWEI WATCH Fit จะใช้งานร่วมกันกับแอพพลิเคชั่น Huawei health รองรับทั้งระบบ Android และ iOS ซึ่งในปัจจุบันต้องบอกก่อนว่า แอพบนระบบ Android มีความสมบูรณ์ครบ แต่บนระบบ iOS จะใช้งานบางอย่างไม่ได้ เช่นไม่สามารถใช้เป็นชัตเตอร์กล้องถ่ายภาพได้ หรือยังไม่มีหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกใช้เหมือนในระบบ Android ครับ

บนแอพ Huawei health จะเป็นศูนย์กลางการใช้งานเลยครับ มันเอาไว้ตั้งค่าการทำงานต่างๆ เช่นกำหนดการแจ้งเตือน กำหนดหน้าการใช้งานบนตัวนาฬิกา รวมถึงใช้ในการจัดเก็บสถิติต่างๆ ของผู้ใช้ ให้อยู่ในโปรไฟล์ไอดีของเราบนแอพพลิเคชั่น Huawei health นั้นเองครับ

เราสามารถอัพเดทระบบของตัวนาฬิกาได้ที่แอพนี้เช่นกัน

มันถูกออกแบบให้ทำงานอัตโนมัติเป็นหลักครับ ตัว AI ของระบบจะคอยตรวจจับเองว่า เรากำลังเดิน กำลังนั่ง หรือกำลังนอน แล้วจะตรวจจับเก็บสถิติเหล่านั้นเอาไว้ให้เรา

สามารถตรวจจับการนอนได้ลึกถึง 4 ระดับ และสามารถนับรวมการนอนกลางวันเข้าไปในชั่วโมงพักผ่อนของเราได้ด้วยครับ การจับแม่นยำมาก เวลาหลับและเวลาตื่นตรงเป๊ะเลย

ตัวมันมีเซ็นเซอร์ GPS ในตัว ฉะนั้นจึงสามารถจัดเก็บระยะทางได้ด้วยตัวมันเองไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนในยามออกเดินหรือวิ่ง มีเซนเซอร์ตรวจจับชีพจรหัวใจ ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในอีกหลายอย่าง เช่นการตรวจจับความเครียดจากอัลกรอริทึมการหายใจ

ถ้าตรวจพบความเครียดที่มากเกินไป จะแวะพักกำหนดลมหายใจในโหมดกำหนดลมหายใจ ผ่อนคลายชีวิต ทำให้ร่างกายได้ออกซิเจนอย่างเต็มที่ และสามารถตรวจวัดออกซิเจนในเลือดได้ ซึ่งจะวัดได้แค่แบบกะประมาณไม่ใช่ในระดับที่ใช้ยืนยันทางแพทย์ได้นะครับ

เป็นสมาร์ทวอทช์ในระบบที่มีหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกใช้งานเยอะเลยนะครับ สวยงามดูแฟชั่นดีหลายแบบ และสามารถใช้รูปภาพหรือรูปถ่ายภายในเครื่องของสมาร์ทโฟน มาทำเป็นภาพบนหน้าปัดนาฬิกาได้ด้วยเช่นกัน

 

เจ้าแอพตัวนี้ สามารถเป็นผู้ช่วยในการแจ้งเตือนเพื่อปลุกคุณในตอนเช้าได้นะครับ รวมถึงใช้ตั้งบันทึกเตือนรอบเดือนของคุณสุภาพสตรีได้ด้วย

ในด้านการออกกำลังกาย ตัวมันมีทั้งเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เซนเซอร์ตรวจจับชีพจรหัวใจ มี GPS ตรวจจับระยะทาง ฉะนั้นใครชอบออกกำลังกาย เจ้านี้มีครบครับ และยังมีชุดโปรแกรมสำหรับการฝึกฝนร่างกาย ที่จะแนะนำเราเป็นเสียงและภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอ

รวมทั้งชุดออกกำลังกายบนแอพพลิเคชั่น และบนตัวนาฬิกาก็จะมีการออกกำลังที่รองรับมากถึง 96 ชนิดเลยทีเดียว ครบครันทุกการออกกำลังกายแล้วละครับที่ส่วนใหญ่เขานิยมเล่นกัน

ในฐานะเป็นผู้ช่วยผู้ใช้สมาร์ทโฟน ก็สามารถรองรับการแสดงผลภาษาไทยสมบูรณ์ 100% สามารถรับการแจ้งเตือนมาแสดงบนข้อมือเราได้ สามารถแสดงสายเรียกเข้าได้ด้วยนะครับ แต่ไม่สามารถรับสายสนทนาคุยผ่านตัวนาฬิกาได้ เป็นแค่การแจ้งเตือนว่ามีสายโทรเข้ามาเท่านั้นครับ

สามารถทำตัวเป็นรีโมทระยะไกล สำหรับควบคุมกดชัตเตอร์กล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่ออยู่ได้ และเป็นรีโมทสำหรับการควบคุมเครื่องเล่นเพลงได้ด้วยครับ

กดค้นหาสมาร์ทโฟน ให้เครื่องที่เชื่อมต่ออยู่ สงเสียงให้เรารู้ตำแหน่งได้

จะเห็นว่าครบแล้วละครับ งานที่ต้องการใช้ จุดเด่นคือเจ้าตัวนี้มันทำงานได้ไว หน้า UI ไม่ค่อยซับซ้อน จอแสดงผลสวย ใหญ่ อ่านได้ชัดเจน และที่สำคัญคือแบตเตอรี่มันอึดมาก ใช้งานได้นานเป็นอาทิตย์โดยไม่ต้องชาร์จ

อันนี้สำคัญมากๆ เพราะสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ ที่จะออกแบบมาเป็นผู้ช่วยของผู้ใช้ให้ดีที่สุด ก็ต้องสามารถอยู่กับเจ้าของได้นานมากเท่าที่จะนานได้นั้นเอง

แถมรองรับระบบชาร์จไวซะอีก ใช้เป็นอาทิตย์แต่ชาร์จไฟแค่หลักนาที เสียบชาร์จไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง แบตเตอรี่ก็กลับมากว่า 70% แล้วครับ

สรุปท้ายรีวิว

สมาร์ทวอทช์ราคาไม่แพง ถูกแต่ฉลาดและใช้งานได้ดีครับ จอภาพสวย แบตเตอรี่อึดมาก การทำงานฉลาดด้วย AI มีการตรวจจับอัตโนมัติ รองรับภาษาไทยสมบูรณ์ เป็นผู้ช่วยผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้เป็นอย่างดี

สำหรับผู้ชอบการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ HUAWEI WATCH Fit มาพร้อมกับเซนเซอร์คุณภาพดี มีทั้งเซนเซอร์ชีพจร และ GPS ในตัว พร้อมโปรแกรมการออกกำลังกายกว่า 96 ชนิด กันน้ำ 5ATM รองรับกิจกรรมทางน้ำ มีลำโพงสำหรับการโค๊ชชิ่งแนะนำการฝึกตัวเองจากชุดโปรแกรมที่ Huawei ออกแบบไว้ให้

ราคาแค่ 3,499 บาท ทำได้ขนาดนี้ ยอดเยี่ยมมากครับ

สเปค HUAWEI WATCH Fit

  • หน้าจอ : 1.64” AMOLED / ขอบบางเพียง 0.95 มม
  • Size : 46 x 30 x 10.7 mm.
  • ROM : 4 GB
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0 BLE
  • น้ำหนัก : 21 กรัม (ไม่รวมสาย)
  • กันน้ำ : 5ATM (50 เมตร)
  • รองรับโหมดออกกำลังกาย 96 โหมด
  • คอร์สฟิตเนส 12 รูปแบบ พร้อมแนะนำด้วยภาพเคลื่อนไหว
  • เทคโนโลยีการชาร์จเร็ว ชาร์จ 1 ครั้ง ใช้งานได้ 10 วัน
แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version