วันอังคาร, เมษายน 30
Advertisement

RAZER DEATHADDER V2 PRO รุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล DeathAdder เมาส์ที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ หลังเปิดตัวครั้งแรกเมื่อตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 และได้มีการจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 10 ล้านชิ้นทั่วโลกครับ ถือว่าเป็นรุ่นยอดนิยมสูงสุดของเรเซอร์

จุดเด่นของ RAZER DEATHADDER V2 PRO คือรูปทรงที่สอดคล้องตามหลักสรีระศาสตร์อย่างมาก และได้รับการตอบรับที่ดีตลอดจากผู้ใช้ครับ รวมถึงเป็นรุ่นตัวเลือกของนักกีฬา E-Sport ระดับโลกหลายคนด้วย

Advertisement

ทาง Razer ไม่เคยเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเมาส์ในซีรี่ย์นี้ไปมากนักตั้งแต่ในปี 2006 เป็นต้นมา แต่มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปแทน โดยในรุ่นใหม่นี้ทางเรเซอร์ได้อัปเกรดให้เป็นเมาส์เวอร์ชั่นแบบไร้สายแล้วครับ โดยใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อล่าสุด Razer HyperSpeed Wireless เป็นระบบการส่งสัญญาณไร้สายที่ดีที่สุดในวันนี้ของ Razer อีกด้วย

เมาส์ DeathAdder V2 Pro สามารถเชื่อมต่อใช้งานได้สามโหมดครับ แบบเสียบสาย USB ปกติ และเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายแบบ Bluetooth และสุดท้ายคือ HyperSpeed Wireless 2.4 ที่ใช้งานร่วมกับ Dongle รับสัญญาณ 2.4 ที่มีมาให้ในกล่องนั้นเองครับ

เราสามารถสลับโหมดการทำงานได้ด้วยสวิทช์ด้านใต้อุปกรณ์ และจะมีปุ่มพิเศษที่ใช้สำหรับกดจับคู่สัญญาณ Bluetooth และใช้สลับโปรไฟล์ของเมาส์ได้โดยตรง ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษของเมาส์รุ่นนี้โดยเฉพาะครับ ผมจะอธิบายความพิเศษของฟังก์ชั่นนี้ที่ด้านล่างบทความนะครับ

ตัวเมาส์ใช้การชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ท Micro USB ด้านหน้าของอุปกรณ์ โดยภายในกล่องจะมีสาย Razer Speedflex มาให้สำหรับการเชื่อมต่อแบบเสียบ USB และเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ไปในตัว แบตค่อนข้างอึดมากทีเดียว ชาร์จเต็ม 100% สามารถใช้งานได้นานเป็นอาทิตย์เลยครับ ตามสเปคของมันเราจะสามารถใช้งานได้ 120 ชั่วโมงผ่านสัญญาณบลูทูธ และใช้ได้ 70 ชั่วโมงผ่านสัญญาณไร้สาย

หรือจะชาร์จด้วยอุปกรณ์เสริมเท่ๆ อย่าง RAZER MOUSE DOCK CHROMA ก็ได้เช่นกันนะครับ ตัวนี้มีพอร์ทด้านใต้รองรับรองรับแต่ไม่มีแถมมาให้ในกล่องนะครับ

จากการทดสอบใช้งาน ตัวเมาส์เข้ามือจริงครับ มันมีตำแหน่งการวางนิ้วด้านหน้ารูปตัววี หน้าใหญ่ กลางเว้า หลังนูน เป็นเมาส์สำหรับคนมือขวาโดยเฉพาะ

น้ำหนักเบา เพียง 88 กรัม พื้นผิวตัวรองเมาส์ด้านล่าง ทำจาก PTFE 100% หรือที่เรารู้จักว่า เทฟลอน นั้นแหละครับ ตัวเมาส์จึงมีความลื่นไม่หนืดกับพื้นผิวไม่ว่าจะใช้งานกับผิวโต๊ะหรือแผ่นรองเมาส์แบบไหนก็ตาม

ใช้ตัวรับสัญญาณการคลิ๊กด้วยแสงอินฟาเรด เลิกใช้แบบกดกลสวิตช์ที่ส่งผลให้เกิดความล่าช้า โดยตัวรับสัญญาณจากสวิตช์รุ่นนี้ถือว่าตอบสนองไว้เป็นระดับท็อปของวงการ ด้วยความไวตอบสนองระดับ 0.2 มิลลิวินาที ถือว่าไวมาก และด้วยการออกแบบให้ตัวรับเป็นออปติคัลแบบนี้ จึงป้องกันการเกิดดับเบิลคลิ๊กขึ้นโดยไม่ตั้งใจ และสวิทช์นี้ยังรองรับการคลิ๊กได้มากถึง 70 ล้านครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นการเคลมไว้มากที่สุดของตลาดเมาส์เกมมิ่งเลยครับ

จากการทดสอบใช้งานในแบบการรับส่งไร้สายบนระบบ Razer HyperSpeed Wireless เป็นสัญญาณความหน่วงต่ำ เวลาใช้เล่นเกมเราจะไม่รูู้สึกแตกต่างกับการเสียบสายเลยนะครับ แต่แนะนำคือระยะของตัวรับสัญญาณกับตัวเมาส์ ยิ่งใกล้ยิ่งดี โดยภายในกล่องจะมีตัว Adapter ไว้ยืดระยะตัวรับสัญญาณมาให้เราไว้ด้วยครับ

บนตัวเมาส์จะมีปุ่มสั่งงานบนตัวทั้งหมด 8 ปุ่มครับ เราสามารถกำหนดค่าคำสั่งลัดให้ปุ่มบนตัวเมาส์ได้เองผ่านโปรแกรม Razer Synapse 3 โดยจะเป็นโปรแกรมศูนย์กลางของอุปกรณ์เกมมิ่งของ Razer ทุกตัว ภายในโปรแกรมเราจะสามารถเข้าไปเซ็ตค่าต่างๆ ของตัวเมาส์ได้ทั้งหมด ทั้งการอัพเดท FW หรือเช็คสถานะของแบตเตอรี่

เราสามารถกำหนดค่าปุ่มต่างๆ บนตัวเมาส์ได้มากมายครับ เกือบจะทุกอย่างที่คิดออกเลย ทั้งปุ่ม Macro หรือจะเป็น Text Function ที่เรากำหนดข้อความเอาไว้ได้ล่วงหน้า และเรียกใช้ได้ด้วยการคลิ๊กครั้งเดียวบนปุ่มที่เซ็ตไว้ได้ครับ

ถ้าจะมองว่าปุ่ม 8 ปุ่มบนตัวเมาส์อาจจะน้อยไป ผมบอกเลยว่าไม่ใช่ปัญหาครับ ^^ เพราะว่า Razer ได้ออกแบบระบบ “Hyper Shift” มันคือชุดคำสั่งชุดที่สองของเมาส์ที่เรียกกำหนดตั้งค่า และเรียกใช้งานชุดคำสั่งที่สองได้แตกต่างกับชุดคำสั่งแรก เป็นการเบิ้ลปุ่มใช้งานได้บนตัวเมาส์ให้มากเป็นสองเท่าทันทีเลยครับ

และยังไม่พอครับ ด้วยความพิเศษของเมาส์รุ่นนี้ ที่มีหน่วยความจำในตัวเอง มันสามารถเซฟเก็บการตั้งค่าไว้เป็นโปรไฟล์ได้ถึง 5 ชุดด้วยกัน โดยจะจัดเก็บลงในตัวเมาส์ได้เลย ไว้พกพาไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยไม่ต้องไปกำหนดค่าใหม่ ออกแบบไว้ก่อนได้ด้วยรูปแบบที่เราตั้งค่าไว้มากถึง 5 ชุด แล้วกดสลับใช้งานได้โดยตรงจากปุ่มโปรไฟล์ด้านใต้ตัวเมาส์นั้นเองครับ

กำหนดค่าความไวของตัวเมาส์ ใช้ระบบ Razer Focus+ 20K DPI Optical Sensor เราจึงสามารถตั้งค่า DPI ของเมาส์รุ่นนี้ได้จาก 100 ถึง 20,000 DPI เลยละครับ ซึ่งเรากำหนดไว้สลับใช้งานได้ 5 ระดับ

และสามารถปรับจูนให้เข้ากับแผ่นรองเมาส์ที่เราเลือกใช้ได้เป็นพิเศษด้วย ซึ่งถ้าเราใช้แผ่นรองเมาส์ของทาง Razer เขาก็จะมีการกำหนดค่าพรีเซ็ตเอาไว้ให้ไว้แล้ว เลือกระบุได้เลยว่าเราใช้แผ่นรองเมาส์เป็นรุ่นอะไรครับ แล้วตัวเมาส์จะมีความแม่นยำมากขึ้นเป็นพิเศษ แต่ถ้าเราใช้แผ่นรองเมาส์อื่นๆ ที่ไม่มีอยู่ในลิสต์รายชื่อ ก็สามารถจัดการ Calibrate ใหม่ ให้ตัวเมาส์รับรู้ผิวและการตอบสนองที่ดีที่สุดเมื่อใช้งานกับแผ่นรองเมาส์ของเราได้เองด้วยครับ

เราสามารถกำหนดไฟ RGB บนตัวเมาส์ได้ตรงบริเวณสัญลักษณ์ Razer บนตัวอุปกรณ์ และสามารถกำหนดระยะเวลาในการปิดการทำงานของตัวเองเมื่อไม่ได้ใช้งานในระยะเวลาหนึ่ง เพื่อการถนอมแบตเตอรี่ครับ

 

สรุปท้ายรีวิว

สวย เบา วัสดุสบายมือ การออกแบบทำได้เข้ามือผมมาก การตอบสนองไวครับแม้จะใช้งานแบบไร้สาย ข้อดีที่คุ้มค่าที่สุดคือเจ้าเมาส์ตัวนี้มีที่จัดเก็บโปรไฟล์ในตัว เราตั้งค่าไว้ให้รองรับการใช้งานได้หลายแบบ อาจจะเป็นการกำหนดไว้ให้เข้ากับเครื่องมือสำหรับโปรแกรมที่เราต้องใช้ทำงาน หรือกำหนดไว้เพื่อใช้เล่นเกมที่เราเล่นในหลายๆ แนวเกม ด้วยการเซฟค่าไว้ได้เป็นโปรไฟล์แยกกันแบบนี้ ก็เหมือนเรามีเมาส์ 5 ตัวเอาไว้สลับใช้ให้ลงตัวกับงานได้ โดยแค่มีเจ้า DEATHADDER V2 PRO ตัวนี้ตัวเดียวครับ

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version