Advertisement

วันนี้ Wiko สมาร์ทโฟนจากแบรนด์ฝรั่งเศส จัดงานแถลงข่าวและเปิดตัวสามสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Wiko View Prime, Wiko View XL และ Wiko View ซึ่งเป็นสามสมาร์ทโฟนระบบ Android จอใหญ่ 5.7 นิ้ว, 5.99 นิ้ว และ 5.7 นิ้วตามลำดับครับ


ทั้งสามรุ่นทาง Wiko ตั้งเป้าที่จะใช้เข้ามาสู้ศึกแย่งชิงตลาดในช่วงปี 2560 โดยใช้จุดเด่นในด้านหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ สัดส่วน 18:9 และกำหนดราคาจำหน่ายออกมาในราคาไม่เกินแปดพันบาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่เป็นตลาดสำคัญของเมืองไทยในช่วงนี้ โดยมีเป้าหมายยอดจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเครื่อง หรือประมาณ 5% ของส่วนแบ่งตลาดโดยรวม
Wiko ถือว่าเป็นแบรนด์ที่โตเร็วในไทยมากนะครับ เทียบปีต่อปี Wiko จะทำยอดจำหน่ายที่โตแบบหลายร้อยเปอร์เซ็นเลยทีเดียว
และเมื่อเดือนมิถุนายนของปีนี้ ทาง Wiko ก็จำหน่ายเครื่องได้มากกว่ายอดจำหน่ายทั้งปี 2016 ไปแล้วครับ

Advertisement

เรามาดูความน่าสนใจของทั้งสามรุ่นใหม่กันครับ ว่ามันจะมีจุดเด่นที่มาดึงความสนใจจากผู้บริโภคได้แค่ไหน?

Wiko View Prime
ตัวนี้ถือว่าเป็นรุ่นราคาสูงของแบรนด์ Wiko ในช่วงนี้ครับ แต่ก็ยังอยู่ในช่วงราคาประหยัด มาพร้อมกล้องหน้าคู่ 20 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่สูงมาก สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้แบบกลุ่ม แบบหน้าชัดหลังเบลอ กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลที่มีฟังก์ชั่นถ่ายภาพจัดเต็มมาตามสไตล์ Wiko รวมถึง Super Pixel ที่อัพความละเอียดขึ้นไปได้ถึง 64 ล้านพิกเซล ด้านกล้องถ่ายภาพถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจเกินราคาครับ
ตัวเครื่องรองรับสองซิมการ์ดแบบ Dual Active ครับ รองรับการใส่ Micro Sdcard มีที่สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว สัดส่วน 18:9 ความละเอียด 1440×720 พิกเซล 282 PPI หน้าจอใหญ่เต็มตา สัดส่วนเหมาะสม ความคมชัดระดับปานกลาง ใช้แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh
ซึ่งหน้าจอของมันโอเคมากครับ สัดส่วนแบบ 18:9 ขอบเครื่องเล็กมาก

ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 430 Quad-Core 1.4 GHz แรมขนาด 4GB หน่วยความจำภายใน 64GB เรียกว่าด้านสเปคก่ำกึ่งมากครับ แรมเยอะหน่วยความจำเยอะ แต่ตัวประมวลผลซึ่งเป็นรุ่นเล็กตัวใหม่ Snapdragon 430 ต้องรอทดสอบว่า เมื่อทำงานอยู่บนเครื่อง Wiko View Prime แล้ว จะมีประสิทธิภาพแค่ไหน เพราะในการใช้งานทั่วไปผมเชื่อว่าเพียงพอครับ ดูหนับอ่านหนังสือนี่คือเหมาะมา แต่อาจจะมีอาการให้เห็นบ้างถ้าเป็นการเล่นเกมกราฟฟิกสูงๆ ต้องได้เครื่องมาทดสอบรีวิวดูครับ


โดยรวมแล้วถือว่าน่าสนใจครับ เพราะว่าเจ้า Wiko View Prime ประกาศขายในไทยแค่ 7,490 บาทเท่านั้นครับ ได้เครื่องกล้องหน้าคู่ จอใหญ่ ขอบจอเล็ก มาในสัดส่วนที่น่าใช้ 18:9 และสีสันของเครื่อง Wiko ทำออกมาได้สะใจมากครับ ^^
โดยสีที่เข้ามาจำหน่ายของ Wiko View Prime คือ Black, Gold และสีเด็ด Cherry Red รวมถึงมีการกระซิบมาว่า เราอาจจะได้เห็นสีเซอร์ไพรส์ ในงาน Thailand Mobile Expo ปลายเดือนนี้ด้วยครับ


Wiko View และ Wiko View XL
เจ้าคู่นี้มาในเสปคใกล้กันเลยครับ ต่างกันแค่ขนาดหน้าจอและขนาดหน่วยความจำเท่านั้น หน้าจอของ View XL จะอยู่ที่ 5.99 นิ้ว มีหน่วยความจำ 32GB ส่วนตัว Wiko View จะมีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว หน่วยความจำ 16GB โดยมีขนาดแบตที่ต่างกันเพียงนิดเดียวครับ 3,000 mAh และ 2,900 mAh ตามลำดับ

หน้าจอสัดส่วน 18:9 ทั้งคู่ ถือว่าเป็นเครื่องหน้าจอใหญ่ที่เครื่องเล็กในราคาถูกมากเลยครับ เพราะเจ้าสองตัวนี้ประกาศอยู่ที่ 5,990 และ 4,990 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นเครื่องราคาตลาดล่าง ที่จอเทพจริงๆ ครับ

Wiko View XL

Wiko View

ทั้งคู่มาในสเปคด้านประมวลผลเดียวกันครับ ใช้ Snapdragon 425 Quad-Core 1.4 GHz แรมขนาด 3GB
เน้นกล้องหน้ามากกว่ากล้องหลังซะอีกครับ กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมฟังก์ชั่นกล้องครบจาก Wiko

รองรับสองซิมการ์ดแบบ Dual Active (เชื่อมต่อ 4G และ 3G ได้พร้อทกันในซิมที่สอง) มีที่สแกนลายนิ้วมือ เปิดจำหน่ายในไทยสี่สีสวยๆ นั้นคือ Black, Gold, Cherry Red และ Deep Bleen

ทั้งสามรุ่นของ Wiko ใน View Series ถือว่าเป็นเครื่องหน้าจอใหญ่ที่อยู่ในขนาดเครื่องที่เล็กมาก ในราคาที่ถูกมากครับ มาพร้อมระบบ Android 7.1 แล้วทั้งหมด
ตัวเครื่อง Wiko ออกแบบสวยเช่นเดิม มีสีสันเป็นจุดเด่น รองรับสองซิมการ์ดแบบ Dual Active และหน้าจอของทั้งสามรุ่นผมยกให้เลยว่า ดูดีเกินราคาครับ

ซึ่งทาง Wiko ก็ยังมีการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ที่จะเข้ามาสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนให้กับแบรนด์ โดยการเปิดตัว “คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ” ซึ่งจะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ Wiko View Series ด้วยครับ


สมาร์ทโฟน Wiko View Series จะเปิิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 กันยายนนี้ และมีนำเข้าไปจำหน่ายในงาน Thailand Mobile Expo แน่นอนครับ

สเปคอย่างละเอียดของทั้งสามรุ่น Wiko View, View XL และ View Prime

 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version