Advertisement

ก็เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยกันไปหยกๆ Samsung Galaxy J7+ (J7 Plus) ก็พร้อมเปิดให้ทุกคนได้จองเครื่องกันแบบยังสดๆ ร้อนๆ เลยครับ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 17 กันยายน เพื่อรับของแถมพิเศษจากทาง Samsung นั้นก็คือหูฟังไร้สาย U Flex สวยๆ หรูๆ มูลค่า 2,490 บาท (หน้ารายละเอียดการสั่งจอง)

จะแอบบอกว่า ถ้าไปจองที่ Samsung แบรนด์ช้อป ก็รับเพิ่มเคสใสราคา 390 บาท ไปอีกอันด้วยนะ ^^

Advertisement

ซึ่งความน่าสนใจของ Samsung Galaxy J7+ ก็คือ มันเป็นสมาร์ทโฟนราคากลางๆ ของ Samsung ที่มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพแบบคู่ โดยมีความสามารถในการบันทึกภาพแบบ “ละลายฉากหลัง” ได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าของมันเลยครับ จึงขอขึ้นพรีวิว Galaxy J7+ นี้ ด้วยการโชว์คุณภาพจากกล้องคู่ของมันก่อนเลย ^^

สิ่งแรกที่ต้องบอกให้เพื่อนๆ ได้รู้ก่อนก็คือกล้องคู่ของ Samsung Galaxy J7+ จะไม่เหมือนกับกล้องคู่ของ Galaxy Note 8 ที่เป็นรุ่นพี่ของมันนะครับ มีความแตกต่างกันทั้งตัวซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ ซึ่งผมบอกได้เลยว่า ไม่ต้องกลัวน้อยหน้ารุ่นใหญ่เลยครับทั้งในด้านคุณภาพและลูกเล่น

กล้องสองตัวความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล ของเจ้า Galaxy J7+ มีความสามารถในการควบคุมความชัดลึกชัดตื้นของภาพได้อย่างเยี่ยมยอด มันสามารถดูผลแบบเรียลไทม์ก่อนถ่ายได้จากฟังก์ชั่น Live Focus เหมือน Galaxy Note 8 และสามารถมาเลือกจุดโฟกัส และระยะชัดลึกในภายหลังการถ่ายภาพไปแล้วได้ด้วยเช่นกัน จะเลือกลายหน้าหรือละลายหลังได้หมดครับ

คุุณภาพของการถ่ายภาพที่ทดสอบมา อยู่ในระดับที่ตกใจกับความชัดและความฉลาดของมันเลยครับ จับวัตถุแม่น เก็บภาพไว ละลายหลังคมกริบ ถ่ายก่อน แล้วมาเลือกจุดโฟกัสและระยะชัดลึกได้ภายหลัง พร้อมเซฟเป็นไฟล์ภาพใหม่ได้ทันทีจากคำสั่ง “จัดเก็บเป็นไฟล์ใหม่” ด้านขวาบน

มาดูอานุภาพทำลายล้างฉากหลัง/ฉากหน้า และความคมของภาพ จากกล้องหลัง Galaxy J7+ กันซะก่อนครับ

ไม่ใช่แค่กล้องหลังเท่านั้นที่น่าสนใจ เพราะ Galaxy J7+ ยังละลายฉากหลังด้วยการถ่ายเซลฟี่จากกล้องหน้าได้ด้วยครับ ตามคำโฆษณา

แต่ว่ากล้องหน้าไม่ได้ใช้ความสามารถจากกล้องแบบคู่นะครับ กล้องหน้าของ J7+ มันเป็นเพียงกล้องเดี่ยวธรรมดา แต่บังเอิญว่ามันมาพร้อมระบบซอฟท์แวร์ใหม่ ที่ชื่อว่า “โฟกัสเซลฟี่” ที่ทำให้ต่อไปนี้การเซลฟี่จะไม่ใช่แค่หน้าใสเนียนกันเพียงอย่างเดียว แต่ยังเพิ่มความแปลกตาด้วยกล้องหน้าที่สามารถแยกใบหน้าเราออกจากฉากหลังได้ในตัวด้วย

ละลายหลังเก๋ๆ พร้อมปรับระดับความเนียน, ความสว่าง, ความเรียวของใบหน้า ได้ตามใจหลายระดับครับ จะเอาขนาดไหนก็เอาตามแต่ต้องการ ถ่ายได้ทั้งเปิดโหมด โฟกัสเซลฟี่ และปิดโหมด โฟกัสเซลฟี่

คุณภาพกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ก็ไม่ธรรมดาเลยครับ มาดูภาพตัวอย่างจากกล้องหน้ากัน มี 3D Sticker น่ารักๆ ให้เล่นด้วย ^^

ที่ว่ามาด้านบน คือความสามารถในการถ่ายถาพของเครื่อง Galaxy J7+ ที่นับเป็นจุดขายของเครื่องในรุ่นนี้อย่างแท้จริง

ส่วนในด้านอื่นๆ Galaxy J7+ ก็เป็นสมาร์ทโฟนระดับตลาดกลางของ Samsung ครับ ก็ย่อมต้องมาพร้อมกับฟังก์ชั่นและบริการของแบรนด์ใหญ่แบรนด์นี้เป็นจุดขายด้วยเช่นกัน แม้ Galaxy J7+ จะไม่มีปุ่ม Bixby ด้านข้างเครื่อง แต่มันก็มาพร้อมกับ UI รุ่นล่าสุด ที่เราสไลด์หน้าจอเข้าสู่หน้า Bixby ได้ด้วยเช่นกัน

ตัวเครื่องเป็นโลหะ มาตรฐานงานประกอบและการออกแบบคล้ายกับ J7 ในรุ่นอื่นๆ รองรับสองซิมการ์ดแบบไฮปริด (สล็อตซิมการ์ดที่สองสามารถเปลี่ยนใส่ Micro sd card ได้) เชื่อมต่อสัญญาณ 4G และ 3G ได้พร้อมกันในซิมที่สองครับ

รองรับการสแกนนิ้วและการตรวจจับใบหน้าเพื่อปลดล็อกเครื่อง โดยรวมแล้วตัวเครื่องได้มาตรฐานงานประกอบเครื่องที่ดูดีครับ (โดยเฉพาะสีดำ ^^ เพราะผมยังไม่เห็นเครื่องสีชมพู)

เบื้องต้นผมชอบในหลายๆ จุดของเครื่อง รวมทั้งความสามารถด้านการถ่ายภาพ มีจุดให้ติแค่เพียงสองเรื่องคือปุ่มย้อนกลับกับปุ่ม Recent App ของเครื่องไม่มีแสงไฟ และพอร์ตใต้เครื่องยังใช้เป็น Micro USB อยู่ ไม่ได้เปลี่ยนเป็น USB Type-C เท่านั้นครับ

เดาไว้ก่อนเลยว่า เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจะขายดีมากๆ ของ Samsung ครับ เพราะทำออกมาได้น่าใช้ครับ กล้องดี มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ผมทดสอบเบื้องต้นก็ถือว่าลื่นไหล ใช้หน่วยประมวลผล Helio Octa-Core 2.39 และแรม 4GB ชุดนี้แรงใช้ได้

คนที่สนใจ ก็สามารถเข้าไปสั่งจองสินค้าได้ตั้งแต่วันนี้ผ่านทางออนไลน์ S-estore และออฟไลน์ตามร้านค้าจำหน่ายทั่วไปรวมถึง Samsung Brand Shop ในวันนี่ถึงวันที่ 17 กันยายนนะครับ รับเครื่องจริงได้ตั้งแต่วันที่ 22 กันยาเป็นต้นไป

อ่านต่อ สเปคและรายละเอียดของ Samsung Galaxy J7+

สำหรับการทดสอบใช้งานอย่างละเอียด และความสามารถในด้านอื่นๆ ของ Galaxy J7+ ก็ติดตามกันต่อได้ในรีวิวเต็มๆ จาก Appdisqus ได้ในเร็วๆ นี้นะครับ

 

 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version