ปัจจุบันสถานการณ์ของ Huawei เรียกว่าค่อนข้างลำบาก จากเดิมที่ไม่สามารถใช้งาน Google Services ได้ก็ค่อนข้างลำบากแล้ว แต่คำสั่งห้ามบริษัทขายชิปหรือผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ นั้นทำให้ Huawei ตกที่นั่งลำบากมากกว่าเดิม แถมกลายเป็นเปิดทางให้บริษัท (จีน) รายอื่น ๆ มีโอกาสทำตลาดได้มากกว่าเดิมด้วย
รายงานล่าสุดจาก China Starmarket ระบุว่า ยอดขายของ OPPO ในตลาดแถบยุโรปจะสูวมากขึ้นหลังจาก Huawei เริ่มสะดุดจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทก็เตรียมเพิ่มกำลังผลิต โดย OPPO คาดการณ์ว่ายอดขายสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้นถึง 100 ล้านเครื่อง แต่สื่อประเมิณว่าน่าจะเพิ่มขึ้นที่ประมาณ 85 ล้านเครื่อง โดยรายงานดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากมีประกาศว่า Pete Lau, CEO ของ OnePlus ได้เข้าร่วมเก้าอี้ผู้บริหารของ OPPO ด้วย
เดิมที OPPO ยังไม่สามารถสร้างชื่อเสียงในตลาดยุโรปได้ มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 3% เท่านั้น ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีของ OPPO ที่จะสามารถสร้างชื่อเสียงในตลาดนี้ได้มากขึ้น ในขณะที่ Huawei ซึ่งเดิมก็มีชื่อเสียงในตลาดยุโรปพอสมควรอยู่แล้วกำลังเดินเกมยากเพราะการแบนของสหรัฐอเมริกา
จากการที่ Huawei ไม่สามารถสั่งซื้อหรือสั่งผลิตชิปประมวลผลได้ ก็มีการคาดการณ์ว่ายอดขายสมาร์ทโฟนของ Huawei น่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดยุโรป เมื่อไม่มี Huawei ก็ทำให้ยุโรปกลายเป็นตลาดอันดุเดือดของ Xiaomi และ OPPO แทน อ้างอิงข้อมูลจาก Counterpoint ทั้งสองแบรนด์มีการเติบโตที่มากขึ้นอย่างชัดเจน โดย OPPO โตขึ้น 41% และ Xiaomi โตขึ้น 55% ในตลาดยุโรป ในขณะที่ยอดขายของ Huawei ในตลาดยุโรปหายไปถึง 46%
ไม่นานมานี้ OPPO ได้กลายเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งก็ถือว่ามีการเติบโตที่รวดเร็วมากเลยทีเดียวครับ
