Advertisement

“เอามือถืออะไรดีวะ นพ” คำถามที่ช่วงนี้โทรเข้ามาจากคนเดิมๆ เพื่อนเก่าสมัยวัยรุ่น ปรึกษากันประมาณปีละครั้งว่าจะเปลื่อนมือถือใหม่เป็นอะไรดี

งบประมาณในใจมันก็ไม่มี นำเสนอชื่อรุ่นแต่ละรุ่นที่ขนมาถามไม่ได้มีความใกล้เคียงกันในจุดใดๆ เลย มีแค่ความเป็นมือถือที่เหมือนกัน คือมันมีตัวเลือกในใจตั้งแต่เครื่องตกรุ่นราคาเจ็ดพันยันรุ่นใหม่ล่าสุดราคาเกือบสามหมื่น รวมๆ แล้วประมาณ 18 รุ่นถ้วน แนะนำไม่ถูก เลยบอกมันไป “มึงชอบตัวไหน มึงหยิบเลย” ไม่ได้บอกไปเพราะรำคาญ แต่ลองฟังเหตุผลมัน

Advertisement

 

“ก็กูจะซื้อเผื่อๆ ไว้ไง แรงๆ ไว้หน่อย ถ้าถูกดีก็เอา แต่ถ้าถูกไปจะแรงพอไหม แล้วกูจะเอาไปใช้อะไร ใครรู้บ้างกูจะเอาไปใช้อะไร กูจะต้องใช้เครื่องแรงๆ มั้ย สองหมื่นขึ้นไปเลยเป็นไง แรงสะใจใช้อะไรก็ลื่น แต่แพงไปวะ เอาแค่เจ็ดพันก็พอเพราะเขาบอกว่าเดี๋ยวนี้แค่ไม่ถึงหมื่นก็แรงพอใช้ถมเถ แต่จะพอกับที่กูใช้มั้ย มึงบอกกูที ว่ากูจะเอาไปใช้อะไรบ้างวะเนี่ย”

มันก็หยิบไม่ได้หรอก! สุดท้ายก็ยังติดสินใจไม่ถูก รักพี่เสียดายน้อง เครื่องนั้นก็สวย เครื่องโน้นก็เซ็กซี่ แต่เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาผมบอกเลย

นั้นเพราะว่าเพื่อนผม “มันกำลังอยากได้มือถือแพงๆ แต่กำลังเสียดายตังค์” งานเข้า! เพราะเหตุผลย้อนแย้งในตัวมันเองมาก

เคยใช้อะไรมาก็รู้อยู่ ตัวเองใช้งานแค่ไหนไม่ต้องรอให้คนอื่นบอกก็รู้ ที่เปลี่ยนเครื่องเพราะอะไรจริงๆ มันก็เข้าใจตัวเอง ก็แค่เบื่อ! เครื่องเดิมมันตกรุ่น มันเก่า มันไม่สวยเหมือนเครื่องใหม่ๆ ใช้งานแล้วก็ยังดีอยู่ไม่ได้ติดขัดอะไร สิ่งที่คาใจจริงๆ คืออยากแอบเก๋ อยากถือเครื่องเท่ๆ แต่พอเห็นราคาแล้วก็ไม่อยากเสียตังค์

มันเป็นวังวนชีวิตของคนหาเช้ากินค่ำเลยละ ใครๆ ก็อยากได้ของหรูดูดี แต่เงินที่มีในกระเป๋าอะสิ มันขาดความคล้องจองกับความต้องการของเราเหลือเกิน – –

 

ผมเลยบังคับให้มันสรุปงบประมาณที่มันต้องการออกมา ไม่งั้นไม่คุยต่อละ กูเหนื่อย มันจึงคั้นความคิด กำหนดงบประมาณที่มันอยากได้ คือประมาณ เจ็ดพันถึงสองหมื่น (กำหนดได้แคบจริงๆ ขอบใจมึงมาก ไม่ต่างจากเดิมเลย) สุดท้ายคุยไปคุยมา สรุปได้ราคากันแล้วว่า หมื่นห้าขึ้นไปเลยสำหรับเครื่องนี้ เอาวะ นี่คือการลงทุนครั้งใหญ่ของเพื่อน มานั่งคิดวิเคราะห์กันจริงจังสักหน่อย “ว่าถ้านี่เป็นหมื่นห้าสุดท้ายในชีวิตเพื่อนเรา เป็นการใช้เงินครั้งสุดท้ายก่อนมันจะตายจากเราไป เราจะให้มันไปซื้่อมือถือเครื่องไหนมาใช้ดี”

ผมเอามานั่งคิดครับ ว่าอะไรคือความแตกต่างของเครื่องมือถือในสมัยนี้ที่เรารู้สึกได้ชัดเจนจริงๆ และมันมีผลลัพท์กับการใช้งานในชีวิตประวันของเรามากๆ ซึ่งความแตกต่างนั้นมันขึ้นอยู่กับราคาของเครื่องเหล่านั้นด้วยจริงๆ หรือเปล่า

สำหรับผม ผมตัดเรื่องของความเร็ว ลื่น แรงออกไปจากหัวเลย เครื่องราคาหมื่นห้าขึ้นไปในยุคนี้ เครื่องไหนไม่แรงลื่นคงไม่มีอีกแล้ว เรื่องสเปคชิพเซ็ตแรมเริมอะไร กลายเป็นไม่สำคัญ

สิ่งสำคัญที่ผมคิดออกมาได้ข้อแรก นั้นคือกล้อง!

กล้องถ่ายภาพคือความแตกต่างที่สัมผัสได้เป็นอย่างแรกเมื่อวัดจากเครื่องที่ราคาแตกต่างกัน เราไม่ได้พูดถึงขนาดพิกเซลของรูป แต่เราพูดถึงคุณภาพของไฟล์รูป ระบบโฟกัส ความง่ายในการได้มาซึ่งรูปสวยๆ มือถือที่มีความสามารถด้านการถ่ายภาพในระดับสูงจะอยู่ที่ราคาสูงกว่าหมื่นห้าขึ้นไปเกือบทั้งนั้นครับ  คุณจะได้ภาพถ่ายสวยๆ มาแบบง่ายๆ ในอีกระดับหนึ่งเลย โดยเฉพาะในเรื่องของการถ่ายภายใต้บางสภาพแสง

แม้มือถือที่มีราคาประหยัดหลายรุ่น ก็สามารถให้ภาพที่ดีแก่เราได้เช่นกัน แต่ความแตกต่างของคุณภาพโดยรวมของมือถือรุ่นใหญ่จะให้เราได้รูปดีๆ มาง่ายกว่านั้นเองครับ หรือที่เขาเรียกกันว่า “ถ่ายยังไงก็สวย” เรื่องกล้องจึงเป็นเรื่องแรกที่ผมรู้แล้วว่า มันคือต้นทุนสำคัญและความแตกต่างใหญ่ๆ ในจุดหนึ่งของราคาเครื่อง ฉะนั้น มันต้องไปลองถ่ายรูปของเครื่องนั้นด้วยตัวมันเอง ว่าถ่ายง่ายมั้ย เข้ามือมันมั้ย แล้วมันจะได้เครื่องที่กล้องดีที่สุดที่มันถูกใจกลับมา

มาถึงจุดที่สอง นั้นก็คือ “จอภาพ”

หน้าจอโคตรจะสำคัญ คุณภาพของมันรับรู้ได้ด้วยตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี แสงสว่าง และความกว้างของขนาดหน้าจอ เพื่อนต้องได้เครื่องที่หน้าจอเป็นมิตรกับลูกกะตาของมัน มันชอบจอขนาดไหน ชอบสีสันแบบไหน ชอบรูปทรงจอแบบไหน มันเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ฉะนั้น มันต้องไปลองด้วยลูกตาของมันเอง ดูด้วยตัวเองว่าถูกใจมั้ย หน้าจอสบายตามั้ย อยากได้จอแบบไหน ต้องไปเลือกให้ถูกใจด้วยตัวเอง

แล้วเรื่องสุดท้ายที่อยากให้มันให้ความสำคัญที่สุด นั้นคือ “รูปร่างหน้าตา”

รูปทรงหน้าตาความสวยงาม อะไรก็ตามที่เขาเรียกกันว่า “รูปกายภายนอก” มันสำคัญและต้องเลือกให้ถูกใจ เลือกมือถือก็เหมือนเลือกคนคู่ใจมาเคียงข้าง จะเป็นนางงามหรือสุภาพบุรุษเราเลือกที่จะเอามาเชยชมเป็นของเราได้ มีโอกาสแล้วต้องเลือกซะ อย่าไปถามเรื่องความงามจากผู้อื่น

รวมถึงแบรนด์สินค้าถ้ามันมีส่วนกับความเชื่อมั่นในจิตใจของมัน ได้แบรนด์ดีมีความมั่นใจก็เหมือนได้นางงามผ่านเวทีใหญ่มาแล้วนั้นเอง เพื่อนผมต้องไปเลือกคู่ควงมันด้วยตัวมันเอง สเปคของมันจะหน้าตาแบบไหนผมคงคิดแทนไม่ได้ จะเอาขาวสวยหมวยอึ้ม แขนใหญ่กล้ามปู ผมก็ไม่รู้สเปคมัน ฉะนั้น มันต้องไปเลือกของมันเอง

สุดท้ายตกผลึกความคิด กลั่นจากประสบการณ์การรีวิวมือถือมาหลายรุ่น ผมบอกข้อสรุปให้กับเพื่อนของผมที่รอฟังคำแนะนำ

“มึงชอบตัวไหน มึงหยิบเลย”

ง่ายจะตายห่า เพื่อนผมนี่ฟังแล้วถึงขั้นเกิดปัญญา ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูดใด แล้ววางสายไม่โทรมาอีกเลย

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version