Advertisement

 

 Griffin-square-case-CES-2014-2

Advertisement

 

ในปัจจุบัน ถือได้ว่า Mobile Payments หรือ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟน ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เพราะเป็นการเพิ่มช่องทางในการขาย และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า แต่มันก็เพิ่มโอกาสในการโจรกรรมได้เช่นกัน ?

 

จากการวิจัยของ LexisNexis และ Javelin Strategy & Research พบว่า ร้านค้าหรือห้างร้านธุรกิจมีการใช้ช่องทางการชำระเงินของลูกค้าผ่าน Browser, แอพพลิเคชั่น หรือระบบ point-of-sale บนสมาร์ทโฟน เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และมันก็ถือได้ว่าเป็นการเพิ่มช่องทางในการโจรกรรมมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่จะมีระบบตรวจสอบไม่ดีพอเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ลงทุนไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อป้องการการโจรกรรมหรือการโกงได้เป็นอย่างดี แต่เทคโนโลยีเหล่านั้นมีมูลค่ามหาศาล เกินกำลังที่ธุรกิจขนาดเล็กจะลงทุนได้ งานวิจัยระบุว่าในธุรกิจขนาดใหญ่มีระบบป้องกันดีกว่าธุรกิจขนาดเล็กถึง 8 เท่าเลยทีเดียว

 

Dennis Becker รองประธานฝ่ายการตลาดของ LexisNexis กล่าวว่า

[quote]การมีระบบธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟน มันคือการเพิ่มโอกาสการธุรกิจที่สำคัญของธุรกิจขนาดเล็ก เราจึงปฏิเสธมันไม่ได้ แม้การศึกษาวิจัยจะตอกย้ำว่า อัตราการเกิดโจรกรรมทางการเงินผ่าน Mobile Payments มันแปรผกผันกับขนาดธุรกิจก็ตาม[/quote]

จากการวิจัยพบว่าทุกๆ ครั้งที่เกิดการโกงหรือโจรกรรมผ่าน Mobile Payments จะสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจเกือบ 3 เท่าของมูลค่าของสินค้านั้นๆ เพราะร้านค้าต้องเสียทั้งค่าธรรมเนียม ค่าการตรวจสอบ และอื่นๆ จิปาถะ ตัวอย่างเช่น สินค้าราคา 100 บาท หากมีการโกงเกิดขึ้น ร้านค้าหรือธุรกิจต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมๆ แล้วกว่า 283 บาทเลยทีเดียว

 

โดยรวมแล้วมีร้านค้าหรือธุรกิจกว่า 22% ที่ระบุว่ามีการโจรกรรมผ่าน Mobile Payments มากขึ้นในปีที่ผ่านมา แต่มีเพียง 6% เท่านั้นที่บอกว่าลดลง

 

ผลการวิจัยระบุเพิ่มเติมอีกว่ากว่า 3 ใน 5 การโจรกรรมเกิดจากจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต แต่มีเพียง 23% ที่เกิดจากการจ่ายเงินผ่านบัครเดบิต

 

สุดท้ายนักวิจัยได้แนะนำธุรกิจขนาดเล็กที่เปิดให้มีการ Mobile Payments หรือ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟน ว่า

  1.  ควรมีการตรวจสอบและระมัดระวังการโจรกรรมอยู่เสมอ โดยเฉพาะ Mobile Payments หรือ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟน ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงกว่า
  2. ควรลงแอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมที่ช่วยในการตรวจสอบขั้นสูงเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นการแอพพลิเคชั่นยืนยันตัวบุคคลต่างๆ การแสกนลายนื้วมือ เป็นต้น
  3. ควรแยกการจ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ออกมาให้ชัดเจน เพื่อระวังและสำรวจการโจรกรรมออนไลน์
  4. สร้างหรือเข้าร่วมสังคมผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องมีการชำระเงินออนไลน์ เพื่อให้เป็นที่ปรึกษาหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ระหว่างกัน ไม่ว่าจะผ่าน Facebook หรือ เว็บบอร์ดต่างๆ ก็แล้วแต่

 

หมายเหตุ: การวิจัยนี้ทำการสำรวจ 1,139 ร้านค้าและธุรกิจที่มีการเปิดให้มี Mobile Payments หรือ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟน

 

ที่มา mashable.com

แชร์
Avatar photo

อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่มีความสุขที่ได้ส่งต่อความรู้ให้คนอื่น ไม่อยากจำกัดเฉพาะนักศึกษาตัวเอง จึงได้ลงมือเขียนสิ่งที่ตนเองรู้ลงในเว็บไซต์ AppDisqus แห่งนี้ ด้วยความสุขและยินดีที่ได้เป็นส่งต่อและรับความรู้เพื่มจากผู้อ่าน มันช่างเป็นสถานที่แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดีจริง ๆ //ขอบคุณ AppDisqus นะครับ

Advertisement
Exit mobile version