Advertisement

ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา Microsoft เป็นบริษัทที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการบุกเข้าสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือได้ตามเป้าอย่างที่เขาตั้งใจ ทำได้ใกล้เคียงสุดเพียงแค่ในยุคของ Windows Phone ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทเองก็เหมือนกำลังจะปล่อยให้ระบบสมาร์ทโฟนของตัวเองตายลงไปและหายไปจากตลาดในไม่ช้า

อย่างไรก็ตาม Microsoft ก็ยังคงต้องมีแนวการทำงานร่วมกันกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและให้ความสำคัญกับมันต่อไปครับ เพราะปัจจุบันสมาร์ทโฟนนับเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สุดจากทุกคนบนโลก แต่แผนงานต่อไปของทาง Microsoft จะมีทิศทางอย่างไร ที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่า ยังไม่มีความชัดเจนและยังไม่มีใครรู้ครับ

Advertisement

ล่าสุดรายงานจากเว็บไซด์ The Verge ผู้ซึ่งมีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับ คุณ Joe Belfiore หนึ่งในซีอีโอผู้กำหนดทิศทางของบริษัท Microsoft เปิดเผยแผนกลยุทธ์ที่จะให้ระบบ Windows ของเขา เข้ามีบทบาทอย่างไรกับผู้ใช้สมาร์ทโฟนในทุกวันนี้ คำตอบก็คือ ” Microsoft จะผลักดันให้ระบบ Windows เป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานและใช้แอพพลิเคชั่นต่อเนื่องกันแม้ว่าอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่พวกเขามีนั้นจะเป็นระบบ iOS หรือ Android ก็ตาม”

ซึ่งสิ่งที่ คุณ Joe Belfiore  และบริษัท Microsoft ตั้งใจไว้ก็คือ จากสถิติในปัจจุบันของผู้ใช้แต่ละราย จะมีอุปกรณ์มากถึง 6 อุปกรณ์ด้วยกันสำหรับการใช้งานอยู่เป็นประจำ และเขาต้องการจะให้หนึ่งในอุปกรณ์เหล่านั้นเป็นเครื่องในระบบ Windows โดยไม่จำเป็นต้องไปพยายามขายสมาร์ทโฟนที่ต้องเป็นสมาร์ทโฟน Windows อย่างที่ผ่านมา จะเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโน๊ตบุ๊คพกพาแบบใดก็ได้ และสิ่งที่จะทำให้ผู้ใช้เลือกอุปกรณ์ของพวกเขา คือการทำให้ระบบ Windows สามารถสอดรับและทำงานต่อเนื่องกับการทำงานของเครื่องในระบบอื่นๆ ให้มากที่สุด ซึ่งระบบที่เขาโฟกัสมานั้นก็คือ ระบบ Android และ iOS ที่อยู่ในอุปกรณ์สมาร์ทโฟนนั้นเองครับ

ที่ผ่านมา Microsoft ก็ได้พยายามที่จะผลักดันแอพพลิเคชั่นและบริการของพวกเขา ให้เข้าไปเป็นแอพพลิเคชั่นสำคัญที่อยู่ในระบบ Android และ iOS ตลอดมาครับ และในปัจจุปัน Microsoft ก็เพิ่งจะมีการเปิดตัวคุณลักษณะใหม่ที่เรียกว่า หน้า Timeline ซึ่งตั้งใจออกแบบมาเพื่อที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้งานแอพพลิเคชันที่ทำงานค้างไว้บนอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งจากในระบบ Windows 10 และแม้แต่ในอุปกรณ์โทรศัพท์อย่าง iPhone หรือสมาร์ทโฟน Android ได้ต่อเนื่องกัน

 

นอกจากนี้ยังมีบริการ Microsoft Graph Cloud เพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเชื่อมโยงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ระหว่างอุปกรณ์ โดย Microsoft Graph Cloud จะทำหน้าที่เป็นเกตเวย์เพื่อให้แอพพลิเคชันบนมือถือสามารถเชื่อมโยงกันกับแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เดสท็อป และมีฟังก์ชันที่ใช้งานกันได้แบบต่อเนื่องมากมาย เช่น การเริ่มอ่านข่าวจากจุดที่อ่านค้างไว้ หรือการแก้ไขเอกสารจากย่อหน้าเดิมที่ทำงานค้างไว้ หรือการใช้คุณลักษณะคลิปบอร์ดคัดลอกเนื้อหาข้ามอุปกรณ์ จากอุปกรณ์พีซีที่ใช้ระบบ Windows 10 คัดลอกเนื้อหาที่ต้องการเหล่านั้นไปยัง iPhone หรืออุปกรณ์ Android ได้โดยตรง เป็นต้น

พูดง่ายๆ สิ่งที่ Microsoft ต้องการ ก็คือการขอเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้นั่นเองครับ โดยไม่ทำตัวขัดแย้งกับระบบอื่นๆ ในด้านการใช้งาน แต่จะเน้นสร้างประสบการณ์ในการใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

แต่ปัญหาก็คือแนวคิดนี้ดูจะสวนทางกับ Apple อย่างมากครับ เพราะสินค้าของ Apple มักจะออกแบบระบบของเขาให้มีการปิดกั้นและสนับสนุนแต่เพียงระบบนิเวศของเขาเองเป็นสำคัญ ซึ่งคุณ Belfiore ก็ได้ให้ความเห็นกับเรื่องนี้เอาไว้ด้วยเช่นกันครับ

“สิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันมากเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่และสิ่งที่ผมได้เห็นจาก Apple ก็คือเรากำลังเปิดรับอุปกรณ์ต่างๆ ให้เข้ามาสู่ระบบ เราจะสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผู้ใช้และลูกค้าของเราในการได้เลือกใช้อุปกรณ์ที่เขาต้องการ” และถ้ามีสิ่งใดที่เป็นอุปสรรคกีดขวางแนวทางนั้น จากทั้งอุปกรณ์ iOS หรือ Android ” Microsoft จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหาทางสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า”

Belfiore ยังได้กล่าวเพิ่มเติมไว้อีกด้วย ว่า “วิสัยทัศน์สำหรับพวกเรา แต่ละคนก็จะมีกิจกรรมที่ทำแตกต่างกัน และแต่ละคนก็จะเลือกอุปกรณ์ที่นำมาใช้งานแตกต่างจากบริษัทที่ต่างกัน นั้นคือความสมเหตุสมผลที่ควรจะเป็น”

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version