วันเสาร์, พฤษภาคม 4
Advertisement

iPhone 5S เปิดตัวมาแล้วพร้อมกับชิพประมวลผลตัวใหม่ M7 ที่อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนงงกันว่ามันมีเอาไว้ทำอะไร บางคนถึงกับนึกไป ว่ามันเป็นชิพประมวลผลแบบการ์ดจอแยก ก่อนที่เราจะมั่วกันไปกว่านี้ เรามาดูกันดีกว่าครับว่า จริงๆ แล้ว เจ้า M7 โปรเซสเซอร์ตัวนี้ใน iPhone 5S มันคืออะไร? และมันเอาไว้ทำอะไร?

iphone-m7

Advertisement

การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ อีกครั้ง! สำหรับ iPhone ตัวใหม่ ภายใต้ชื่อ iPhone 5C และ iPhone 5S ทั้งสองตัวมีความแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจนครับ เพราะ iPhone 5C ที่มาในสีสันสดใส เป็นตัวเครื่องรุ่นใหม่ ที่ทาง Apple จะเอาเข้ามาจำหน่ายแทน iPhone 5 ตัวเดิมนั้นเอง เปลี่ยนบอดี้เป็นแบบใหม่ วางจำหน่ายในราคาถูกลง (จริงๆแล้ว มันใช่ข่าวน่ายินดีสำหรับผู้บริโภคหรือเปล่า มาถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่ค่อยไม่แน่ใจ)

แต่เครื่องที่เป็นตัวน่าสนใจแน่ๆ ก็คือเครื่อง iphone 5S ที่มาในมาดใหม่ เปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในภายนอก แต่เปลี่ยนแปลงมากมายในภายใน นับรวมได้ประมาณสี่ประเด็นหลักที่นับเป็นตัวชูโรงในเครื่อง iPhone 5S จาก Apple หนนี้ครับ นั้นก็คือ Touch ID ระบบแสกนลายนิ้วมือ,  เซ็นเซอร์กล้องที่อัพเดทมากขึ้น, หน่วยประมวลผล A7 64-bit ตัวแรกของโลก และ ซิพประมวลผล M7

สิ่งที่พาหลายๆ คนงงงวยที่สุดก็คือเจ้า โปรเซสเซอร์ M7 นี่แหละครับ

iphone2013-0174620-610x406

M7 คืออะไร?

Apple ได้อธิบายเอาไว้ว่า เจ้า M7 นี่เป็นเพื่อนกันกับ CPU A7 ที่อยู่ในเครื่อง iPhone 5S ครับ มันจะอยู่ข้างๆ เพื่อช่วยในการแบ่งเบาภาระในการวัดข้อมูลการเคลื่อนไหวต่างๆ จากตัวเซ็นเซอร์ที่มีอยู่ในเครื่อง เช่น accelerometer, gyroscope หรือเข็มทิศ งานเหล่านี้จะเป้นภาระหน้าที่ของเจ้าตัวประมวลผลตัวใหม่ ที่ชื่อว่า M7 นี่แหละครับ

M7 ทำงานอย่างไร?

ตัวประมวลผล M7 จะสามารถทำงานได้อย่างมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อ แอพพลิเคชั่นเหล่านั้นต้องสามารถเข้าถึงการสั่งงานของตัวประมวลผล M7 ได้แล้วเท่านั้นครับ โดยจะเป็นการสั่งงานผ่าน API CoreMotion ที่ทาง Apple เพิ่งจะปล่อยออกไปให้แก่นักพัฒนา ให้นำไปใช้กับแอพพลิเคชั่นของตน และจะช่วยให้แอพพลิเคชั่นนั้นเข้าถึงการติดตามการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ใช้ ผ่านตัวโปรเซสเซอร์ M7 นั้นเองครับ

ทั้งหมดก็เพื่อ “เพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้บริบทขององค์ประกอบ และการเป็นไปทั้งหมดของผู้ใช้ในขณะนั้นๆ แก่ตัวโทรศัพท์” จะเป็นการปูเส้นทางอนาคตให้แก่ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นสุขภาพ หรือแอพที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวและข้อมูลร่างกายของมนุษย์  เช่นในแอพพลิเคชั่นอย่าง RunKeeper เป็นต้น

 

M7 กับประโยชน์ข้างเคียง

ผลข้างเคียงที่น่าสนใจ สำหรับการเพิ่มชิพประมวลผล M7 เข้าไปใน iPhone 5S ก็คือ ลดภาระการทำงานของ Cpu ตัวหลัก (ที่น่าจะรับประทานพลังงานกันพอสมควรกับ A7 64-bit) ทำให้เกิดการประหยัดพลังงานในการประมวลผลเพียงเรื่องของเซ็นเซอร์ ไม่จำเป็นต้องใช้พี่ใหญ่มาคิดคำนวนให้เปลืองแบตเหมือนชี่ช้างจับผีเสื้อกันอีกต่อไปครับ

 

ความสำคัญของ M7 ในอนาคต

ฉัน(ผู้เขียน) คิดว่าความสำคัญของ M7 มันไปไกล และนอกเหนือไปจากที่เราจะพูดถึงการมีอยู่แต่ภายในเครื่อง iPhone 5S เท่านั้น เพราะในมุมมองของการใช้งานเชิงออกกำลังกาย คงไม่ใช่ทุกคนที่จะเอาสายรัดเครื่องสมาร์ทโฟนขนาดจอ 4 นิ้วไว้ที่ต้นแขนกันตลอดเวลา และเมื่อพวกเขาออกไปทำงาน หรือใช้โทรศัพท์ มันก็จะกลับไปอยู่ในกระเป๋าของพวกเขาในทันที

แต่ฉันเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่กว่าและสำคัญกว่าของตัว M7 ในอุปกรณ์อื่นๆ ที่กำลังจะหมดความสำคัญไปแล้วเช่น iPod Nano และอาจจะรวมไปถึงผลิตภัณฑ์สวมใส่ร่างกายตัวอื่นๆ (หมายถึงเหล่า Smart Watch ใช่มะ ^^) เพราะเมื่อมีอุปกรณ์ใด ที่จะสามารถมีปฏิสัมพันธ์อยู่กับตัวคุณได้ตลอดเวลา (Smart Watch อีกนั้นแหละ) มันก็สามารถบอกหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างที่คุณกำลังทำ หรือที่คุณกำลังจะทำได้ เช่นรับรู้ถึงสิ่งที่ต้องกาทิ้งออกไปจากรายการสิ่งที่ต้องทำ (To Do List) เพราะคุณได้เดินทางมาถึงที่หมาย ตามนัดรายการแล้ว

สิ่งเหล่านี้สำหรับ M7 จะมีไว้เพื่ออนาคต ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในเครื่อง สมาร์ทโฟนนั้นเองครับ เพียงแค่จุดเริ่มต้นของมัน โดนกำหนดไว้ใน iPhone 5S เครื่องนี้เท่านั้นเอง

 

ฐานข้อมูล intomobile

 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version