Advertisement

เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์สได้รายงานว่า กระแสความนิยมของไอโฟนกำลังลดลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในแถบเอเชีย รวมทั้งในสิงคโปรและฮ่องกงที่เคยมีคนนิยมใช้ไอโฟนเป็นจำนวนมากเมื่อปี 2010 โดยสถิติของ StatCounter ได้ระบุว่าเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว (2012) ส่วนแบ่งตลาดของไอโฟนในสิงคโปร์อยู่ที่ 72% แต่ปัจจุบันลดลงเหลือ 50% แล้ว ในขณะที่แอนดรอยด์มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วจาก 20% เป็น 43% สำหรับส่วนแบ่งของไอโฟนในฮ่องกงก็ลดลงจาก 45% เหลือเพียง 30% ซึ่งถูกแอนดรอยด์กินส่วนแบ่งไปถึง 2 ใน 3 เลยทีเดียว

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้คนเอเชียเริ่มเลิกใช้ไอโฟนแล้วหันไปใช้แอนดรอยด์แทนนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกเขารู้สึกว่าไอโฟนนั้นดูไม่เท่และไม่เจ๋งอีกแล้ว มันกลายเป็นมือถือที่ใคร ๆ ก็มีกัน มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนใช้ไอโฟนเต็มไปหมด ทำให้คนที่ใช้ไอโฟนนั้นไม่ได้ดูโดดเด่นเหมือนสมัยก่อน ในขณะที่แอนดรอยด์นั้นมีให้เลือกหลากหลายรุ่น หลากหลายสเปค มีทั้งรุ่นจอใหญ่, กันน้ำกันฝุ่น, สเปคแรง ๆ , ดีไซน์หลากหลาย ต่างกับไอโฟนที่มีเพียงรุ่นเดียว ดีไซน์เดิม ๆ อย่าง iPhone 5 ก็มีหน้าจอที่เล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แถมยังกินแบตเตอรี่มากอีกด้วย รวมทั้งการจากไปของสตีฟ จ็อบส์ ก็มีผลให้ความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์แอปเปิลลดลงไปเช่นกัน

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้อไหนรุ่นไหนกันเยอะที่สุด ก็ไม่สำคัญเท่ากับการเลือกใช้สมาร์ทโฟนที่เราชอบและตรงตามความต้องการมากที่สุด

 

ที่มา Vioce TV

แชร์
Avatar photo

อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่มีความสุขที่ได้ส่งต่อความรู้ให้คนอื่น ไม่อยากจำกัดเฉพาะนักศึกษาตัวเอง จึงได้ลงมือเขียนสิ่งที่ตนเองรู้ลงในเว็บไซต์ AppDisqus แห่งนี้ ด้วยความสุขและยินดีที่ได้เป็นส่งต่อและรับความรู้เพื่มจากผู้อ่าน มันช่างเป็นสถานที่แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดีจริง ๆ //ขอบคุณ AppDisqus นะครับ

Advertisement
Exit mobile version