วันอังคาร, เมษายน 30
Advertisement

มาตามกำหนดการกับ iPhone 13 โดยปีนี้มีทั้งหมด 4 โมเดล คือ iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max โดย iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ในปีนี้แทบไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไหร่นัก จริง ๆ ตั้งชื่อว่า iPhone 12s ก็ยังได้

รายละเอียด iPhone 13 Pro

  • หน้าตาโดยรวมเหมือน iPhone 12 Pro แต่รอยบากเล็กลงกว่าเดิม
  • มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ blue, graphite, gold และ silver
  • ตัวเครื่องวัสดุเดิม ด้านข้างเป็น ​stainless steel
  • แรงด้วยชิปเซ็ต Apple A15 Bionic
  • หน้าจอ ProMotion ที่สามารถปรับรีเฟรชเรตได้เองตั้งแต่ 10Hz – 120Hz ไม่มี Always on Display
  • พอร์ต Lighting เหมือนเดิม

จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของ iPhone 13 Pro อยู่ที่กล้องเป็นหลัก ดังนี้

Advertisement
  • อัปเกรดกล้องซูมเป็นระยะซูม 3x ที่ 77mm
  • กล้อง Ultrawide รับแสงได้มากกว่าเดิมถึง 92%
  • กล้องหลักตัวปกติมีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น 2.2 เท่า
  • มีโหมดมาโครที่ใช้งานได้ทั้ง iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
  • Night mode ใช้งานได้ทุกเลนส์แล้ว
  • เพิ่มฟิลเตอร์ Photographic Styles ทั้ง iPhone 13 และ iPhone 13 Pro ซีรีส์
  • การถ่ายวิดีโอมีโหมด Cinematic Mode (หรือ Portrait mode ในวิดีโอ) ตัวอย่างคลิปด้านล่างนี้

https://www.youtube.com/watch?v=8Tl1RL8MRCA

ราคา

  • iPhone 13 Pro
    • รุ่นความจุ 128 GB ราคา 38,900 บาท
    • รุ่นความจุ 256 GB ราคา 42,900 บาท
    • รุ่นความจุ 512 GB ราคา 50,600 บาท
    • รุ่นความจุ 1 TB (1,024 GB) ราคา 58,900 บาท
  • iPhone 13 Pro Max
    • รุ่นความจุ 128 GB ราคา 42,900 บาท
    • รุ่นความจุ 256 GB ราคา 46,900 บาท
    • รุ่นความจุ 512 GB ราคา 54,900 บาท
    • รุ่นความจุ 1 TB (1,024 GB) ราคา 62,900 บาท

แชร์
Avatar photo

คอมลัมนิสต์หัวใจฝักใฝ่ด้าน IT และ Gadget พร้อมสาระความรู้ How To ดีๆ สำหรับการใช้งานมือถือและแท๊ปเบล็ตที่พร้อมจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ที่สนใจในเนื้อหาเดียวกัน เพื่อให้พื้นที่ AppDisqus.com เป็นสเปซสำหรับการแบ่งบันโดยแท้จริง

Advertisement
Exit mobile version