Advertisement

ผลการทดสอบจาก Geekbench 5 และการใช้งานการแปลงวีดีโอ เพื่อทดสอบความเร็ว iPhone 12 แสดงให้เราได้เห็นว่า A14 Bionic จับคู่กับระบบ iOS เป็นชิพที่แรงแบบยังไม่มีคู่แข่ง

ดูเหมือนเรื่องความเร็วแรงของสมาร์ทโฟนแห่งยุค ยังคงอยู่กับ iPhone ของ Apple ต่อไปอีกสักระยะครับ เพราะเมื่อพูดถึงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียง iPhone 12 มากที่สุด ก็ยังคงเป็น iPhone 11 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนของ Apple ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว ไม่มีโทรศัพท์ Android ตัวไหนที่มาล่มผลการทดสอบของเรือธงจาก Apple ลงไปได้

Advertisement

iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ใช้ชิปตัวใหม่ A14 Bionic ที่ทรงพลังและเร็วขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับชิพตัวเก่งของ Android อย่าง Snapdragon 865+ แล้วค่อนข้างทิ้งห่างเลยครับ เพราะในการทดสอบที่ผ่านมา Snapdragon 865+ ยังไม่สามารถทำผลงานได้เท่ากับ A13 Bionic ได้เลย นับประสาอะไรกับโปรเซสเซอร์ iPhone 12 ซึ่งเป็นตัวใหม่ที่พัฒนามากขึ้น และอยู่ในเกรดเทคโยโลยีระดับ 5 นาโนตัวแรกของโลก

ต้องยอมรับความแรงในจุดนี้ เพราะทาง Apple มั่นใจเป็นอย่างมากกับการประกาศ “A14 Bionic เป็น “ชิปที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน”

ทีมงานของ Tom’s Guide ได้ทำการทดสอบด้วยโปรแกรมมาตรฐาน Geekbench 5 บนโทรศัพท์หลายรุ่น เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างชิป A14 กับ A13 ทั้งในการทดสอบแบบ single-core และ multi-core จะมีความเร็วเพิ่มขึ้น 19% และ 10% ตามลำดับ

ดังภาพที่แสดงไว้ด้านบน ชิป Snapdragon 865+ ใน Galaxy Note 20 Ultra และ ROG Phone 3 ได้คะแนนใกล้เคียงกับ iPhone 11 มากที่สุดแต่ก็ยังคงดูห่างกับชิป A14 อยู่ดี

Tom’s Guide ยังได้ทำการทดสอบกับการจำลองการใช้งานในชีวิตจริง โดยการให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำการแปลงรหัสวิดีโอแบบ 4K บนความละเอียดระดับ 1080p ซึ่งผลลัพท์ออกมาชัดเจนมากสำหรับงานถนัดของอุปกรณ์ iOS เพราะสำหรับ iPhone 12 มันใช้เวลาไปแค่ 26 หรือ 27 วินาที เร็วมากเมื่อเทียบกับ 45 วินาทีของ iPhone 11 Pro Max และทิ้งห่าง Galaxy S20 Plus ที่ 73 วินาที Galaxy Note 20 Ultra ที่ 76 วินาที ในขณะที่  OnePlus 8T ตัวแรงหน้าใหม่ที่เข้ามาอยู่ในระดับท็อปของสมาร์ทโฟน Android หลังจากเปิดตัวทั่วโลกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ใช้เวลาไป 98 วินาที ในขณะที่ Nexus 5 ทำได้ในเวลาเกือบสามนาทีเลยครับ แม้เราอาจจะไม่ได้ใช้มือถือในการจัดการวิดีโอ 4K กันบ่อยนัก แต่การทดสอบเหล่านี้มันแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพโทรศัพท์รุ่นต่างๆ ได้ชัดเจนในรูปแบบหนึ่ง

ไม่ใช่ว่าสเปคของเรือธงแต่ละรุ่นจะมองกันเพียงเท่านั้น เพราะเรือธงของ Android เองก็อาจมีประสิทธิภาพดีกว่า iPhone 12 เมื่อพูดถึงเรื่อง RAM

เพราะโทรศัพท์ Android มีแรมให้ใช้กันตั้งแต่ 8GB ถึง 16GB ซึ่งสามารถชดเชยพลังประมวลผลได้ในแง่ของการโหลดแอปที่ใช้งานหลายอย่างพร้อมกันได้ในเบื้องหลัง ซึ่ง iPhone 12 Pro แม้จะเป็นรุ่นใหญ่ แต่ Apple ก็ใส่แรมมาให้เพียง 6GB ในขณะที่รุ่นอื่นๆ มีแรมให้เพียง 4GB เท่านั้น

ด้วยรูปแบบระบบที่ออกแบบมาแตกต่างกัน อาจจะบอกได้ว่าทำการเปรียบเทียบกันตรงๆ ลำบากสักหน่อย ผลการทดสอบเหล่านี้จึงเอาไว้ดูให้พอเป็นไกด์ไลน์ไว้เท่านั้นครับ ประมาณการความแรง แต่มันไม่อาจบอกทุกอย่างได้อย่างชัดเจนในการใช้งานจริงอีกหลายๆ ด้าน

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version