Advertisement

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้มีคำสั่งแบนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei ภายในสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2020 เป็นต้นไป ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหราชอาณาจักรจะไม่สามารถเลือกใช้อุปกรณ์โครงข่าย 5G ของ Huawei มาให้บริการในแผ่นดินของสหราชอาณาจักรได้

โดยเหตุผลที่ทางรัฐบาลอังกฤษให้ไว้ก่อนหน้านี้เป็นอะไรที่อาจจะดูเบาบางมาก เพราะด้วยเหตุผลว่า รัฐบาลอังกฤษไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยในอุปกรณ์โครงข่าย 5G ของ Huawei เพราะหลังจากสหรัฐอเมริกามีคำสั่งแบน Huawei ไปก่อนหน้านี้ รัฐบาลอังกฤษเชื่อว่าจะส่งผลให้สถานการณ์ด้าน Supply Chain ของ Huawei นั้นจะเริ่มสะดุดและมีปัญหาได้ในภายหลัง

Advertisement

หลังจากทางรัฐบาลอังกฤษได้ออกคำสั่งและให้เหตุผลต่อประชาชนไปแล้วนั้น ทาง Huawei เองก็ออกแถลงการณ์ให้กับสื่อตามออกมาในทันทีเช่นกันครับ ซึ่งแถลงการณ์มีอยู่ว่า

“จากกรณีที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวันอังคารที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลมีมติห้ามมิให้บริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมของสหราชอาณาจักรซื้ออุปกรณ์ 5G จากหัวเว่ยหลังสิ้นสุดปี 2020 เป็นต้นไป และต้องถอดชุดอุปกรณ์ 5G ของหัวเว่ยออกจากเครือข่ายทั้งหมดของผู้ให้บริการภายในปี 2027

นายเอ็ดเวิร์ด บรูว์สเตอร์ (Edward Brewster) โฆษกหัวเว่ยแห่งสหราชอาณาจักรชี้แจงว่า “การตัดสินใจอันน่าผิดหวังของรัฐบาลสหราชอาณาจักรครั้งนี้ถือเป็นข่าวร้ายของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทุกคนในสหราชอาณาจักร นอกจากจะเสี่ยงต่อความล่าช้าในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นแล้ว ยังจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลมากขึ้นอีกด้วย การแบนครั้งนี้เป็นการเดินถอยหลังแทนที่จะก้าวไปข้างหน้า เราจึงขอให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรพิจารณาการตัดสินใจนี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรายังคงเชื่อมั่นว่ามาตรการกีดกันครั้งใหม่จากสหรัฐฯ นี้จะไม่กระทบกับด้านความยืดหยุ่นและด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของเราที่มีการใช้งานในสหราชอาณาจักร น่าเสียดายที่อนาคตของหัวเว่ยในสหราชอาณาจักรได้ตกเป็นเหยื่อทางการเมืองซึ่งเกี่ยวข้องกับนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ โดยมิได้เกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์แต่อย่างใด ในระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยมุ่งมั่นในการสร้างการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นในสหราชอาณาจักร และในฐานะองค์กรที่ยึดมั่นในการแสดงความรับผิดชอบ เราจะยังคงมุ่งให้บริการและช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างที่ปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งนี้ เราจะทำการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่าการประกาศในวันนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราในด้านใด และเราจะทำงานร่วมกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อชี้แจงว่าหัวเว่ยจะสามารถช่วยยกระดับการเชื่อมต่อในสหราชอาณาจักรให้ดียิ่งขึ้น”


เกี่ยวกับหัวเว่ย

หัวเว่ย (Huawei) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และอุปกรณ์อัจฉริยะ ด้วยโซลูชันแบบครบวงจรใน 4 เรื่องหลัก ได้แก่ เครือข่ายโทรคมนาคม ไอที สมาร์ทดีไวซ์และบริการคลาวด์ เรามุ่งมั่นที่จะนำระบบดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกบ้านและทุกองค์กรเพื่อเชื่อมต่อกับโลกแห่งความล้ำสมัยด้านสติปัญญา

ผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยมีศักยภาพด้านการแข่งขันทั้งยังมีความปลอดภัย จากการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในระบบเครือข่าย ทำให้หัวเว่ยสามารถสร้างสรรค์คุณค่าในระยะยาวให้แก่ลูกค้า เสริมประสิทธิภาพให้กับผู้คน ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่บ้านมีความสะดวกสบาย รวมทั้งสร้างแรงบันดาลให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบ

หัวเว่ยยังให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยเราได้ทุ่มงบประมาณให้กับการวิจัยและพัฒนา เพื่อค้นหาเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้า หัวเว่ยมีจำนวนพนักงานมากกว่า 194,000 คน ดำเนินธุรกิจใน 170 ประเทศทั่วโลก โดยบริษัทก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1987 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version