Advertisement

HUAWEI ส่งมอบเทคโนโลยีจากจีนเข้ามาช่วยเหลือโรงพยาบาลของประเทศไทย โดยเป็นการจับมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย (จำกัด) นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์และรายงานผลการตรวจภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ของผู้ป่วยโควิด-19 ได้ในหลักวินาทีเท่านั้น โดยได้ส่งมอบเทคโนโลยีดังกล่าวไว้ให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นที่เรียบร้อย

เทคโนโลยี AI ของ HUAWEI จะทำงานบนฐานข้อมูลของ HUAWEI CLOUD มันมีความสามารถในด้านคอมพิวเตอร์วิทัศน์หรือการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์ได้ด้วยตัวมันเอง ซึ่งจะอ่านค่า วิเคราะห์ภาพ และช่วยรายงานผลตรวจให้แพทย์ได้อย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติ และมีความแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จในการใช้ฝ่าวิกฤต โควิด-19 ของประเทศจีนในช่วงที่ผ่านมาครับ

Advertisement

ในตอนนี้มันมีบทบาทสำคัญที่จะเข้ามารับหน้าที่วิเคราะห์รูปภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) จากปอดของผู้ติดเชื่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Novel coronavirus, SARS หรือ COV) หรือผู้ป่วยโควิด-19 (COVID-19) โดยจะใช้เวลาในการวิเคราะห์ผลให้ทราบได้ภายในเวลาเพียง 25 วินาทีต่อ 1 เคส นับว่ามีประสิทธิภาพอย่างยิ่งและจะช่วยลดภาระงาน ย่นเวลาให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ของไทยในช่วงเวลานี้ได้เป็นอย่างดีครับ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ทางกระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับประชาชนและสถานการณ์แพร่กระจายของโควิด-19 มากที่สุด จึงเห็นความสำคัญในการเร่งนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก และประสบการณ์ในการพัฒนานวัตกรรมรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีน มาช่วยเสริมประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกให้วงการแพทย์ของไทย โดยนวัตกรรมดังกล่าวคือโซลูชัน AI บน HUAWEI CLOUD จากหัวเว่ย ที่จะช่วยให้แพทย์สามารถนำมาใช้วินิจฉัยผลตรวจจากภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว”

ปกติแล้วการตรวจแบบ CT เป็นหนึ่งในวิธีวินิจฉัยและรักษาโควิด-19 แต่การตรวจด้วยวิธีดังกล่าวต้องทำซ้ำและอ่านภาพหลายครั้ง เพื่อหารอยโรคในปอดที่มีจำนวนมากและยังเกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นการเพิ่มงานให้กับรังสีแพทย์ในไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ จำนวนบุคลากรรังสีแพทย์ที่สามารถวิเคราะห์และวินิจฉัยเชื้อโควิด-19 ได้อย่างแม่นยำยังมีจำกัด โซลูชันระบบ AI นี้จะช่วยลดภาระให้กับแพทย์ไทย และช่วยให้บุคลากรหลายๆ ท่านสามารถกระจายตัวไปดูแลเคสผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือสถานการณ์ระบาดในขณะนี้ได้ดียิ่งขึ้น

ในด้านรายละเอียดการทำงานเของโซลูชันดังกล่าว HUAWEI CLOUD จะใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์และการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เพื่อแยกแยะระหว่างจุดขาวพร่าในปอด (ground glass opacities – GGOs) จำนวนมาก กับการรวมตัวกันของเนื้อปอด (consolidation) แล้ววิเคราะห์ผลเชิงปริมาณจากผลการตรวจ CT ปอดผู้ป่วย กระบวนการดังกล่าวเป็นการรวมข้อมูลทางอายุรกรรมและผลแล็บเพื่อช่วยให้แพทย์ระบุได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในระยะเริ่มต้น ระยะลุกลาม หรือระยะรุนแรง โดยโรงพยาบาลในประเทศจีนกว่า 20 แห่งได้นำโซลูชันนี้ปรับใช้เพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งหลังจากได้รับการปรับแต่งระบบและฝึกอบรมบุคลากรเพิ่มเติม ส่งผลให้โซลูชัน AI จาก HUAWEI CLOUD ตัวนี้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีอัตราความแม่นยำในการวินิจฉัยสูงถึง 96% และได้รับคะแนน DICE score สูงกว่า 85 คะแนน


ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงระบบตัวนี้ว่า “ปัญญาประดิษฐ์นี้ จะช่วยให้แพทย์ใช้วินิจฉัยผลตรวจ CT ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยสามารถวิเคราะห์ความผิดปกติของปอด โดยนำข้อมูล CT ของคนไข้ส่งไปบนระบบ CLOUD เพื่อวินิจฉัยโรคและยังสามารถระบุได้ว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในระยะเริ่มต้น ระยะลุกลาม หรือระยะรุนแรง โดยใช้เวลาประมวลผลเพียง 25 วินาทีต่อ 1 เคส นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคลากรทางการแพทย์ไทยในการรับมือสถานการณ์ในขณะนี้ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่คนไข้เข้ามาด้วยอาการหอบเหนื่อยในตอนต้น เพื่อช่วยในการวินิจฉัยได้อย่างทันท่วงที โดยไม่รอการตรวจในขั้นตอนอื่นๆ”

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ทางกระทรวงฯ และหัวเว่ยได้ส่งมอบโซลูชัน AI สำหรับการตรวจโควิด-19 ดังกล่าวให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพเพื่อรับมือสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งสามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยชาวไทยได้อย่างทั่วถึง”

นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เสริมว่า “ทางดีป้าได้ทำงานร่วมกับหัวเว่ย เพื่อส่งมอบโซลูชันผู้ช่วย AI สำหรับการตรวจโควิด-19 ดังกล่าว ให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยระยะรุนแรงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น”

นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย (จำกัด) กล่าวว่า “การตรวจวินิจฉัยทางเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) เป็นหนึ่งในวิธีมาตรฐานในการตรวจหาไวรัสโควิด-19 ที่มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ซึ่งสามารถวินิจฉัยและประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีบริการผู้ช่วย AI จาก HUAWEI CLOUD สำหรับการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เชิงปริมาณที่ว่านี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ในไทยซึ่งกำลังรับมือกับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 อยู่ในปัจจุบัน โดยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) และการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์ช่วยลดภาระงานของรังสีแพทย์ในไทย ทั้งยังช่วยสามารถส่งมอบผลตรวจแบบ CT quantification อย่างอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำอีกด้วย”


ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย (จำกัด) ก็ได้ส่งมอบระบบนวัตกรรมสื่อสารทางไกลเพื่อการแพทย์ Huawei Telemedicine Video Conference Solution ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยระบบดังกล่าวเป็นระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์แบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบที่สามารถช่วยให้การดำเนินงานของบุคลากรแพทย์ในประเทศไทยมีความคล่องตัว สามารถตรวจวินิจฉัยได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์มือถือของตน และที่สำคัญคือยังช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อให้แก่ทีมแพทย์ไทยด้วยเช่นกัน

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version