วันเสาร์, เมษายน 27
Advertisement

ช่วงนี้ผมได้เห็นหลายๆท่าน ทดลอง…ตั้งใจ…หรือไม่ตั้งใจ ทำการ Hard reset เครื่องหรือ Factory reset เครื่อง Windows Phone 8 ของตัวเองกันบ่อยๆ หรือบางท่านอาจเกิดจากการอัพเดทโทรศัพท์แล้วการอัพเดทไม่สมบูรณ์ ทำให้เครื่องเกิดการ Brick หรือใช้งานไม่ได้กันไป…หรืออาจะด้วยเทรนด์ฮิตของตอนนี้คือการแฟลชเครื่องเพื่อลง ROM ใหม่ๆนั่นเองครับ

ปัญหาการชุบชีวิตโทรศัพท์ของเราก็ขั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องทำ แต่พอเครื่องโทรศัพท์ของเราฟื้นขึ้นมาแล้ว การจะเอาข้อมูลต่างๆที่เคยทำเอาไว้ในเครื่องของเรากลับมานี่ซิ…งานใหญ่เหมือนกันนะครับ ยิ่งท่านที่ลงแอพเยอะๆด้วยแล้ว การมานั่งลงแอพเองทีละตัวนี่ เป็นอะไรที่ปวดใจมากเลย แถมข้อความ sms ต่างๆ Call log ต่างๆก็หายไปด้วย ต้องทำยังไง?

Advertisement

วันนี้ผมมีขั้นตอนการสำรองข้อมูลหรือการ Backup และการเรียกคืนข้อมูลหรือการ Restore มาฝากครับ เป็นเทคนิคที่ผมเองใช้อยู่เป็นประจำตอนที่นั่งแฟลชเครื่องเล่นๆนั่นเองครับ ^^

** หมายเหตุ การสำรองข้อมูลแอพต่างๆ ระบบจะสำรองให้เฉพาะรายชื่อแอพนะครับ การตั้งค่าของแต่ละแอพรวมถึงข้อมูลต่างๆในแอพจะไม่ถูกสำรองเอาไว้ด้วย (พวกเซฟเกมส์ต่างๆก็จะไม่สำรองให้เช่นกัน) ดังนั้นลองดูนะครับว่า แต่ละแอพมีส่วนให้เราสำรองค่าต่างๆของแอพนั้นๆโดยเฉพาะให้หรือไม่ ถ้ามีให้สำรองจากภายในแอพที่สามารถสำรองได้ก่อนครับ **


การ Backup ข้อมูลในโทรศัพท์

ผมจะแบ่งเป็นข้อมูลที่เราสามารถดึงลงเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ และข้อมูลที่ดึงลงเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้นะครับ

ข้อมูลที่ดึงลงเครื่องคอมพิวเตอร์ได้

ได้แก่ ไฟล์เพลง, ไฟล์รูปถ่าย, ไฟล์เอกสาร, ไฟล์วิดีโอหรือไฟล์หนัง และไฟล์เพลงริงโทนครับ พวกนี้เราสามารถโอนย้ายมาไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้ ซึ่งผมแนะนำให้โอนไฟล์เหล่านั้นมาไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์จะง่ายกว่าการ backup ขึ้น Skydrive ครับ

ขั้นตอนการโอนย้ายไฟล์ก็ไม่มีอะไรมาก แค่เสียบสาย usb เชื่อมโทรศัพท์ของเราเข้ากับคอมพิวเตอร์และทำการคัดลอกไฟล์ที่ต้องการได้เลยครับ

มีข้อแม้คือ เครื่องคอมที่ใช้ ต้องเป็น Windows XP SP3 ขึ้นไปนะครับถึงจะโอนไฟล์กับ WP8 ได้ครับ

ข้อมูลที่ดึงลงเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้ หรือข้อมูลที่สามารถ backup ขึ้นสู่ SkyDrive ได้

เผื่อว่าหลายๆท่านอาจจะไม่ทราบ สำหรับทุกท่านที่ใช้งานระบบ Windows Phone และมี Microsoft account แล้ว ท่านจะได้รับพื้นที่บน SkyDrive หรือพื้นที่เก็บไฟล์บนระบบ Cloud ของ Microsoft ฟรี 7GB นะครับ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ที่เวลาเราสำรองข้อมูลต่างๆขึ้นสู่ Cloud ไฟล์ของเราก็จะถูกเอามาเก็บไว้ที่นี่แหละครับ (ลองเข้าไปดูพื้นที่ที่เราใช้ไปได้จาก ที่นี่ ครับ)

กลับมาเรื่องการสำรองข้อมูลของเราต่อ ข้อมูลที่เราสามารถสั่งให้ระบบสำรองขึ้นสู่ Cloud หรือ SkyDrive ได้มี 3 ส่วนได้ซึ่งจะได้อธิบายต่อไป และมีขั้นตอนการสำรองข้อมูลตามนี้ครับ
** การสำรองข้อมูลขึ้นสู่ SkyDrive จะต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตนะครับ แนะนำให้ทำตอนที่เชื่อมต่อกับ WiFi อยู่ (แต่ถ้าเป็น Package 3G unlimited ก็ไม่ว่ากันครับ)

เริ่มสำรองข้อมูล

ในโทรศัพท์ของเรานะครับ ไปที่เมนู การตั้งค่า –> สำรองข้อมูล (Backup) แล้วจะเจอตัวเลือก 3 ตามหน้าจอครับ คือ

หน้าจอการสำรองข้อมูล (Backup)
  • การสำรองข้อมูลรายการแอพและการตั้งค่าต่างๆ (Applist+Settings)
  • การสำรองข้อมูล SMS
  • การสำรองข้อมูลภาพถ่าย
จากรูปจะเห็นว่า หน้าจอการสำรองข้อมูลทั้งหมดของผมจะถูกปิดเอาไว้อยู่ครับ เหตุผลเพราะผมไม่อยากให้เครื่องของผมต้องพยายามสำรองข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะเปลืองทั้ง data และแบตเตอร์รี่ (Microsoft บอกว่าการสำรองข้อมูลจะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่เราเชื่อมต่อกับ WiFi เท่านั้น..แต่ถ้าเราไม่เชื่อมต่อกับ WiFi เลยเกิน 7 วันหลังจากที่มีการสำรองข้อมูลครั้งล่าสุด ระบบจะเริ่มสำรองข้อมูลผ่านแพ๊คเกจมือถือของเราให้เอง…เปลืองมั้ยล่ะครับ) 

เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่อยากเปลืองแพ๊คเกจ 3G ของเรา เราก็เปิดให้สำรองข้อมูลเฉพาะตอนที่เราต้องการก็ได้ครับ (แต่ใครจะสำรองตลอดเลยก็ได้เช่นกัน อันนี้ตามสะดวกครับ)

เรามาเริ่มจากการสำรองข้อมูลตัวแรกกันก่อน นั่นคือ การสำรองข้อมูล “รายการแอพและการตั้งค่า (App list + settings) ครับ

ชื่อเมนูนี้อาจะสื่อแค่การสำรองรายชื่อแอพและการตั้งค่าเท่านั้น แต่ความจริงสิ่งที่เมนูนี้สำรองข้อมูลให้เรามีมากกว่านั้นครับ คือ

  • รายการแอพที่เราลงเอาไว้ในปัจจุบัน (List of installed apps)
  • รายการการโทรเข้า-ออก (Call history)
  • การตั้งค่า Theme ของเรา (Theme color)
  • บัญชีอีเมล์+บัญชีแอคเคานท์อื่นๆเช่น Facebook, Twitter, Linked In รวมถึงการตั้งค่าต่างๆของบัญชีนั้นๆ (Email + Accounts with Settings) และรวมไปถึงรายชื่อที่ผูกติดกับบัญชีอีเมล์ของเราด้วย
  • การตั้งค่าต่างๆใน IE และ Favorites (IE Settings & Favorite)
  • การตั้งค่าอื่นๆของเครื่อง (Settings)

สิ่งที่สำรองข้อมูลไม่ได้คือ

  • เซฟเกมส์ต่างๆ
  • การตั้งค่าในแอพต่างๆ ตรงนี้ต้องตั้งค่าใหม่หมดครับ
จะเห็นว่าก็ค่อนข้างสำรองข้อมูลได้ค่อนข้างหลากหลายล่ะครับ ขั้นตอนการสำรองข้อมูลก็ทำได้โดยการ
  • แตะที่เมนู “รายการแอพ+การตั้งค่า” จากนั้นจะเข้าสู่หน้าจอดังรูป
  • เปิดการสำรองข้อมูล จากนั้นระบบจะเริ่มการสำรองข้อมูลทั้งหมดที่บอกไว้ข้างต้นของเราครับ รอสักครู่ ขึ้นกับปริมาณข้อมูลในเครื่องครับ ระหว่างนี้ระบบก็จะแสดงแถบเปอร์เซ็นต์มาให้เราดูด้วย (แบบหน้าจอซ้ายล่างครับ)
  • พอระบบสำรองข้อมูลเสร็จ ก็จะขึ้นข้อความว่าระบบได้สำรองข้อมูลเราเสร็จแล้วเมื่อเวลาใด ตามรูปด้านบนขวาครับ (คำว่า Windows Phone ตรงนี้เป็นชื่อของโทรศัพท์เรานะครับ) และจะเห็นว่าพอสำรองข้อมูลเสร็จ ตัวเลือก “ขั้นสูง” จะเป็นสีขาว ซึ่งหมายความว่าเราสามารถเข้าไปในเมนูนี้ได้ โดยเมนูขั้นสูงคือการเข้าไปลบไฟล์ Backup ที่เราไม่ต้องการนั่นเองครับ
  • พอเราสำรองข้อมูลเสร็จแล้ว เราจะปิดฟังก์ชั่นนี้ไปเลยก็ได้ (ในกรณีที่เราสำรองเอาไว้เฉยๆ ไม่ได้สำรองแล้วจะ hard reset เครื่อง) จะได้ไม่กินแพ๊คเกจ 3G ของเราอย่างที่ผมบอกครับ (ตอนปิดระบบจะขึ้นคำเตือนมาให้ ก็ไม่ต้องสนใจ ปิดไปได้เลยครับ
  • เสร็จสิ้นขั้นตอนการสำรอง “รายการแอพ+การตั้งค่า”


การสำรองข้อมูล “ข้อความ sms”

การ backup ข้อความ sms สามารถทำได้โดย
  • จากหน้าเมนู การตั้งค่า –> สำรองข้อมูล ให้แตะที่ตัวเลือก “ข้อความ sms” แล้วจะเจอเมนู “สำรองข้อมูลข้อความ sms” ตามรูปครับ ให้เปิดมันซะ
  • ตรงนี้ให้รอสักครู่ครับ ระบบจะสำรองข้อมูล sms ให้เอง ถ้าเรามี sms มากก็อาจต้องรอนานหน่อย ข้อเสียของเมนูนี้คือการสำรอง sms จะไม่มีบอกเปอร์เซ็นต์ว่าสำรองไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ เราต้องนั่งกะเอาเองครับ แต่โดยทั่วไปก็ไม่นานนะครับ ไม่เกิน 10 นาที (ข้อความน้อยๆอย่างผม 2-3 นาทีก็เสร็จแล้วครับ)
  • เสร็จสิ้นขั้นตอนการสำรอง “รายการแอพ+การตั้งค่า

การสำรองข้อมูลภาพถ่าย

ตัวเลือกสุดท้ายในเมนูการสำรองข้อมูล ซึ่งตรงนี้อย่างที่ผมแนะนำไปครับว่า การสำรองข้อมูลภาพถ่ายนั้น ถ้าเราทำโดยการโอนไฟล์เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั้นจะง่ายและสะดวกกว่าการโอนขึ้น Cloud หรือ SkyDrive เยอะเลย เพราะสามารถทำได้ง่ายๆแค่เสียบสาย USB และไม่เปลืองแพ๊คเกจ 3G ครับ
แต่ถ้าใครจะลองสำรองข้อมูลภาพถ่ายขึ้น SkyDrive ก็สามารถทำได้ตามขั้นตอนนี้ครับ
  • จากหน้าเมนู การตั้งค่า –> สำรองข้อมูล ให้แตะที่ตัวเลือก “ภาพถ่าย” จะเจอหน้าจอดังรูปครับ
  • ซึ่งตรงนี้เราสามารถเลือกสำรองได้ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ โดยสามารถเลือกคุณภาพของภาพได้ตามต้องการ แต่ถ้าเราเลือกคุณภาพแบบดีที่สุด ระบบจะสำรองข้อมูลให้ได้เฉพาะตอนที่เราต่อกับ WiFi เท่านั้นนะครับ
  • เลือกคุณภาพของภาพที่ต้องการ แล้วก็รอครับ ถ้าภาพถ่ายเยอะก็ใช้เวลานานโขอยู่ครับ – -‘ ผมเลยแนะนำให้โอนผ่านสาย USB จะง่ายกว่าเยอะครับ


เก็บตก

บางครั้งข้อมูลรายชื่อ (Contacts) ต่างๆที่เราเพิ่มเข้าไปในเมนู “ผู้คน” (People) ระบบก็จะทำการ sync ข้อมูลรายชื่อเหล่านั้นเข้ากับอีเมล์ของเราอยู่แล้ว แต่ถ้าเรากลัวว่าการ sync เสร็จสิ้นดีมั้ย ก็ให้ไปกด sync เองดูซักครั้งก็ได้ครับ
โดยไปที่เมนู การตั้งค่า –> อีเมล+บัญชี (Settings –> Email + Accounts) แล้วแตะที่บัญชีอีเมลที่เราใช้เก็บข้อมูลรายชื่อค้างไว้ซักครู่ แล้วจะเจอคำสั่ง “ซิงค์” (Sync) ดังรูป จากนั้นก็รอให้ระบบซิงค์ข้อมูลให้เราซักครู่ ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ
กดซิงค์ซะ ก็เรียบร้อยครับ
ตอนนี้เราก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการสำรองข้อมูลแล้ว ขั้นต่อไปคือขั้นการเรียกคืนข้อมูล (Restore) หลังการ Hard reset หรือ Factory reset หรือจะด้วยสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เครื่องของท่านข้อมุลหายเรียบไปนั่นเองครับ

การเรียกคืนข้อมูล (Data restore)

** ข้อแม้อย่างเดียวของการเรียกคืนข้อมูล (Restore) คือ เราสามารถเรียกคืนข้อมูลที่เราสำรอง (Backup) ไว้ได้ แค่ขั้นตอนเดียวคือ ขั้นตอนระหว่างการเปิดใช้งานเครื่องครั้งแรกเท่านั้นครับ ถ้าเราเปิดใช้งานเครื่องแล้ว อยู่ดีๆอยากเรียกคืนข้อมูลที่สำรองไว้ขึ้นมา ตรงนี้จะไม่สามารถทำได้ นอกซะจากว่าท่านจะทำการ Hard reset หรือ Factory reset เครื่องอีกรอบซะก่อน

** แต่ไฟล์ที่เราสำรองข้อมูลเอาไว้ (Backup file) เราสามารถเรียกคืน (Restore) กี่ครั้งก็ได้ตามต้องการ จนกว่าเราจะไปลบมันออก ในตัวเลือก “ขั้นสูง” ของเมนู เมนู “รายการแอพ+การตั้งค่า” ครับ (ตามที่เขียนไว้ข้างบนนะครับ)
อย่างที่บอกครับ เราสามารถเรียกคืนข้อมูลได้แค่ขั้นตอนเดียว คือตอนการเปิดใช้งานเครื่องครั้งแรก ซึ่งถ้าเราได้ทำการสำรองข้อมูล (Backup) เอาไว้ ระบบจะผูกเจ้าไฟล์สำรองข้อมูลนั้นเข้ากับ Microsoft account ของเรา ซึ่งเมื่อเรามาเปิดใช้งานเครื่องอีกครั้งด้วย Microsoft account เดิม ระบบก็จะตรวจหาไฟล์ที่เราสำรองข้อมูลเอาไว้ขั้นมาให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งมีขั้นตอนตามนี้ครับ
  • ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอตามปกติของการเปิดใช้งานเครื่องครั้งแรก จนมาเจอหน้าจอให้ sign in ด้วย Microsoft account ตามรูปครับ ก็ให้กด sign in ไปด้วย Microsoft account ของเราที่ใช้งานและได้สำรองข้อมูลเอาไว้ก่อนหน้า
  •                                                     
  • จากนั้นระบบจะตรวจหาไฟล์ที่เราได้มีการสำรองข้อมูลเอาไว้แล้วแสดงขึ้นมา ตามรูป ก็ให้เราเลือกชื่อของไฟล์ที่เราได้ทำการสำรองข้อมูลเอาไว้ (ดูตรงวันที่ด้วยก็ได้ครับเพื่อความมั่นใจ)
    Credit รูปจากเว็บ AAWP ครับ

    ** ตรงนี้ถ้าเลือก “don’t restore” คือจบเลยนะครับ จะไม่สามารถ restore หรือเรียกคืนข้อมูลได้อีก จนกว่าจะ hard reset หรือ factory reset เครื่องอีกรอบครับ

  • จากนั้นกด Next ไปครับ ระบบจะทำการ restore ข้อมูลต่างๆให้ ตามรูป
    หน้าจอขั้นตอนการเรียกคืน (Restore) ข้อมูลครับ

    ** ขั้นตอนนี้ทำใจนิดนึงครับ เพราะระบบจะ download ข้อมูลการตั้งค่าต่างๆที่เราได้สำรองไว้จาก SkyDrive ซึ่งตรงนี้จะเป็นการ download ผ่านอินเตอร์เน็ต และจะเปลืองค่าแพ๊คเกจของเราแน่ๆ แต่ข้อมูลตรงนี้ไม่ได้ใหญ่มาก เพราะเป็นส่วนการตั้งค่าต่างๆ (Settings) เท่านั้น ยังไม่ใช่การโหลดแอพครับ

  • เสร็จสิ้นการดาวน์โหลดข้อมูล ในกรณีที่ตอนสำรองข้อมูล เรามีการผูกบัญชีอีเมลหรือบัญชี Social network ต่างๆ ขั้นตอนต่อไประบบจะขึ้นรายชื่อบัญชีเหล่านั้นมาให้ เพื่อให้เรากรอกพาสเวิร์ดของบัญชีเหล่านั้นอีกทีครับ (ขออภัยขั้นตอนนี้ผมลืม capture หน้าจอมาครับ – -‘) ก็ให้เรากรอกพาสเวิร์ดแล้วก็กด next ข้ามไปได้เลยครับ
  • จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอไปเรื่อยๆ จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเปิดใช้งานเครื่อง (ถึงหน้าจอ Live Tiles หรือหน้าจอเริ่มต้นของการใช้งานเครื่องของเรานั่นเอง)
** ขั้นตอนนี้สำคัญมากครับ ขอเตือน อย่าปล่อยเครื่องเอาไว้ เพราะแพ๊คเกจ 3G ของคุณอาจหมดโดยไม่รู้ตัว เพราะหลังจากที่เราเปิดใช้งานเครื่องสำเร็จ (ได้รับ sms จาก Microsoft และเข้าสู่หน้า Live tiles) ระบบจะเริ่มการดาวน์โหลดแอพที่เราเคยลงเอาไว้ทันที ซึ่งตรงนี้จะเป็นการดาวน์โหลดผ่าน 3G ของเราแน่นอน (เพราะยังไม่ได้ตั้งค่า WiFi เลย) 
ตรงนี้ผมแนะนำให้รีบไปที่เมนู การตั้งค่า –> เครือข่ายโทรศัพท์ แล้วปิดตัวเลือก “การเชื่อมต่อข้อมูล” เอาไว้ก่อนเลยครับ จากนั้นค่อยไปตั้งค่า WiFi แล้วให้ระบบโหลดแอพผ่าน WiFi อย่างเดียว 
  • จากนั้นระบบจะเริ่มทำการดาวน์โหลดแอพที่เราเคยติดตั้งเอาไว้ในตอนที่เราสำรองข้อมูลมาให้เองโดยอัตโนมัติครับ (ตามรูป)
    Credit รูปจากเว็บ AAWP ครับ จากรูปจะเห็นว่าแอพที่อยู่ในคิวจะขึ้นข้อความว่า Pending
  • เราสามารถตรวจสอบสถานะการติดตั้งแอพต่างๆได้จากเมนู Store ครับ (ตรงนี้จะเห็นรายการแอพที่ดาวน์โหลดเยอะแยะเลย ดังรูป) ทั้งนี้ถ้าแอพไหนขึ้นข้อความ “Attention required” (ผมจำชื่อภาษาไทยไม่ได้จริงๆครับ) แสดงว่าการดาวน์โหลดล้มเหลว ก็ให้แตะที่แอพนั้นเพื่อเริ่มการดาวน์โหลดอีกครั้งครับ
    ** ในบางกรณี เราก็ไม่สามารถเรียกคืนแอพบางแอพได้ เช่นแอพที่เป็นส่วนการตั้งค่าของเครื่อง (ได้แก่แอพพวก display+touch, audio หรือการตั้งค่าเฉพาะของ Nokia) ซึ่งต้องไปอัพเดทแอพเอาเองทีหลัง หรือบางกรณีที่เราไม่สามารถเรียกคืนแอพได้ก็คือแอพนั้นถูกถอดออกไปจาก Store แล้วครับ

    ถ้าลองดาวน์โหลดแอพนั้นซ้ำหลายๆครั้งแล้วยังไม่ได้ เราสามารถแตะค้างที่แอพนั้นๆแล้วจะเจอคำสั่ง “ยกเลิก” หรือ Cancel ซึ่งเราก็สามารถยกเลิกการเรียกคืนแอพนั้นๆไปก่อนได้ครับ

  • Credit รูปจากเว็บ AAWP ครับ
  • จากนั้นก็รอจนการดาวน์โหลดแอพเรียบร้อย ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการเรียกคืนข้อมูลครับ

เก็บตกการเรียกคืนข้อมูล

  • หลังการดาวน์โหลดแอพต่างๆ ขั้นต่อไปสำหรับคนที่โอนไฟล์ต่างๆไปไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์คือ การโอนไฟล์กลับมายังเครื่องโทรศัพท์ของเรานั่นเองครับ ตรงนี้ผมโน๊ตเอาไว้ให้ เผื่อมีคนลืม ^^
  • การตั้งค่าหลายๆอย่างอาจจะถูกเรียกคืนมาไม่หมด (เช่นการตั้งค่าความสว่างหน้าจอ, การตั้งค่าการตอบสนองของหน้าจอ ฯลฯ) ซึ่งเราอาจต้องเข้าไปตรวจสอบกันเองอีกทีครับ
  • แต่ข้อมูลบัตรเครดิตหรือวิธีการชำระเงินใน Store จะยังอยู่ครบนะครับ แค่เราต้องไปที่เมนู กระเป๋าสตางค์ (Wallet) จากนั้นระบบจะทำการซิงค์ข้อมูลกับ Microsoft account ของเราสักครู่ จากนั้นข้อมูลวิธีการชำระเงินของเราก็จะกลับมาให้เหมือนเดิมครับ)
ก็เสร็จสิ้นแล้วครับ ขั้นตอนการสำรองข้อมูล (Backup) และการเรียกคืนข้อมูล (Restore) อาจจะดูยาว แต่ความจริงขั้นตอนไม่เยอะหรอกครับ ^^ ลองทำดูแล้วจะเห็นว่าไม่ยากครับผม

 

แชร์
Avatar photo

Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone…

Advertisement
Exit mobile version