วันเสาร์, พฤษภาคม 4
Advertisement

DSDS หรือย่อมาจาก Dual SIM Dual Standby เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ 5G สองซิมที่มีใช้กันอยู่มากมายในปัจจุบัน แต่กำลังมาถูกแทนที่ด้วย DSDA หรือ Dual SIM Dual Active ที่มีความสามารถเหนือกว่า และในขณะนี้พร้อมใช้งานกันได้แล้วในประเทศไทย

การเชื่อมต่อสัญญาณของสมาร์ตโฟนรองรับ 5G ที่มีการใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิมพร้อมกันในปัจจุบัน อาจจะแยกเทคโนโลยีการทำงานของสมาร์ตโฟนเหล่านั้นได้ออกมาเป็น 3 รูปแบบด้วยกัน นั้นคือ

Advertisement

แบบเก่าดั้งเดิม ที่แม้จะตัวเครื่อวสามารถเสียบซิมการ์ดเข้าไป 2 ซิมพร้อมกันได้ แต่ทว่ากลับเลือกเชื่อมต่อสัญญาณ 5G ได้เพียงซิมใดซิมหนึ่งเท่านั้น ในขณะที่อีกหนึ่งซิมจะใช้การเชื่อมต่อสัญญาณเทคโนโลยี 4G ไปแทน ซึ่งเป็นระบบเก่าและแทบจะไม่มีชิปเซ็ตหรือสมาร์ตโฟน 5G รุ่นไหนที่นิยมจะหยิบมาใช้งานกันแล้ว อาจจะพบได้แค่ในเครื่องสมาร์ตโฟน 5G กลุ่มราคาเริ่มต้นเท่านั้น

เพราะปัจจุบันเรามาถึงยุคที่ทั้งสองซิมการ์ดจะต้องสามารถทำการจับสัญญาณ 5G ไปได้พร้อมกันเป็นพื้นฐานแล้วครับ ทั้งการเชื่อมต่อ Voice และ Data จะทำได้พร้อมกันทั้งสองซิมการ์ด ซึ่งเราเรียกว่าเทคโนโลยีนี้ว่า DSDS หรือย่อมาจาก Dual SIM Dual Standby เป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีอยู่มากมายหลายรุ่นในตลาด แต่ทว่าเทคโนโลยีนี้ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ในความสามารถบางอย่าง และกำลังจะถูกแทนที่ด้วยความสามารถที่เหนือกว่า นั้นคือ DSDA หรือ Dual SIM Dual Active นั้นเอง

ซึ่งสองเทคโนโลยีนี้ทำงานแตกต่างกันอย่างไร มาดูให้รู้จักในบทความนี้กันครับ

DSDS หรือ Dual SIM Dual Standby

DSDS เป็นความสามารถที่ตัวเครื่องจะเชื่อมต่อสัญญาณ 5G ได้ทั้งสองซิมได้พร้อมกัน แต่จะสามารถใช้การโทรหรือเล่น Data พร้อมกันได้ครั้งละหนึ่งซิมเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีการโทรด้วยซิมหนึ่ง อีกซิมจะถูกตัดการทำงานทั้ง Voice และ Data ออกไปในทันที และจะสามารถกลับมาจับสัญญาณ 5G ได้อีกครั้งเมื่ออีกหนึ่งซิมทำการวางสายไปเรียบร้อยแล้ว

เป็นการรอสแตนด์บายการเชื่อมต่อ 5G ของอีกซิมหนึ่งเอาไว้ ในขณะที่เรากำลังใช้งานสัญญาณ 5G อยู่กับอีกซิมหนึ่ง ซึ่งเป็นหลักการทำงานที่เราเรียกว่า DSDS หรือย่อมาจาก Dual SIM Dual Standby นั้นเอง

DSDA หรือ Dual SIM Dual Active

DSDA เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาพลิกโฉมการใช้งานของสมาร์ทโฟนแบบ 2 ซิม จะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานสัญญาณ 5G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิมแบบไม่มีข้อจำกัดทั้งอินเทอร์เน็ตและการโทรรับสาย (Data + Voice) เราสามารถใช้ได้แม้แต่การโทรออกรับสายไปพร้อมกันทั้ง 2 ซิม (Voice + Voice) ไม่ว่าซิมใดกำลังใช้สาย อีกซิมหนึ่งก็ยังสามารถรับสายหรือโทรออกได้เช่นกัน

รวมถึงการใช้งานในรูปแบบ Voice + SMS/MMS เช่นในขณะที่กำลังใช้สายอยู่ แต่ก็จะสามารถรับข้อความ SMS/MMS จากอีกซิมหนึ่งที่มีเข้ามาได้ทันที โดยที่เราไม่ต้องรอวางสายจากอีกซิมนึงลงไปซะก่อนแบบเทคโนโลยีเก่า

ด้วยระบบใหม่นี้จะช่วยให้การรับสัญญาณ การโทรออกรับสาย หรือการรับส่งข้อความจากทั้งสองซิมการ์ด สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้บนสัญญาณ 5G แบบไม่ขาดช่วงในการติดต่อ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยก็พร้อมใช้งานได้แล้วบนโครงข่าย 5G SA (Standalone) ของผู้ให้บริการ AIS 5G  (ที่รองรับ VoNR (Voice over 5G New Radio) หรือ VoLTE (Voice Over LTE) สามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่า

และที่สำคัญคือต้องใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนที่รองรับระบบนี้ด้วยเช่นกัน โดยมีอุปกรณ์ที่สามารถใช้ DSDA ได้เปิดตัวออกมาแล้วในไทย 2 รุ่นด้วยกัน นั้นคือ Xiaomi 14 Ultra และ Xiaomi 14 นั้นเองครับ ในอนาคตก็จะมีสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับเทคโนโลยี DSDA ออกมาเรื่อยๆ อีกแน่นอนครับ

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version