วันเสาร์, พฤษภาคม 4
Advertisement

ASUS Zenbook Duo UX481F โน๊ตบุ๊คเครื่องเท่ ที่ออกแบบมาได้เหนือกว่าใครในตลาด ด้วยการเป็นโน๊ตุบ๊คที่มีสองจอในเครื่องเดียวครับ

ASUS Zenbook Duo UX481F หนึ่งในอุปกรณ์ที่ขายแนวคิดและการออกแบบที่พิเศษกว่าทั่วๆ ไป โดดเด่นมากครับ โดยการใส่จอภาพแสดงผลในจอที่สองมาให้ พร้อมกับการทำงานที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากัน

Advertisement

จุดเด่นแรกของเจ้า ASUS Zenbook Duo ตัวนี้คือ “ความโดดเด่น” นี้แหละครับ ผู้ที่ใช้งานจะรู้สึกพิเศษมากเวลากางเครื่องออกมาใช้ เพราะไม่มีใครเหมือน และการออกแบบของทาง ASUS ก็วางสัดส่วนเหลี่ยมโค้งเหลี่ยมคมมาได้อย่างดูทันสมัยมาก

หน้าจอแสดงผลหลักของเครื่อง เป็นจอขนาด 14 นิ้ว ขอบจอเล็ก ความสว่างสูง 300nits ความละเอียด FHD 1920×1080 สัดส่วน 16:9 ชนิดผิวจอแบบ Anti-Glare สีสันสวยสด แสงสว่างดี เป็นจอที่ดูสวยครับและไม่มีเงาสะท้อนให้ปวดลูกตา

และต้องขอชมลำโพงและระบบเสียงของ ASUS Zenbook Duo ตัวนี้เลยครับ เสียงดีมาก ไม่แหลม ไม่บาง ไม่กระป๋องหงองแหงง แถมเสียงมีมิติทิศทาง เล่นเกมดูหนังบอกเลยว่าสุดยอด เปิดเสียงดังๆ เหมือนเชื่อมต่อลำโพงบลูทูธภายนอกเสียงดีๆ ตัวนึงเลย สมชื่อตรา “harman kardon” ที่ประทับไว้จริง

ขอบจอเล็กๆ แต่ฝัง HD IR Camera กล้องสำหรับการใช้งานวีดีโอคอลล์ และรองรับ Windows Hello ระบบสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้ โดยรองรับการสแกนใบหน้าในที่แสงน้อยได้ด้วยครับ

จอที่สอง เขาไม่เรียกจอนะครับ แต่มีชื่อว่า “ScreenPad Plus” เป็นจอช่วยเหลือพิเศษ ที่จะปิดใช้งานก็ได้และจะทำให้ตัวเครื่องก็ทำงานเหมือนโน๊ตบุ๊คตัวอื่นๆ โดยทั่วไป แต่เมื่อเปิดใช้ ScreenPad Plus มันจะทำหน้าที่เป็นจอภาพที่สองทันทีครับ โดยจะเป็นจอที่รองรับการทัชสกรีน และใช้งานร่วมกับปากกา ASUS Pen ที่ให้มาภายในกล่องอีกด้วย (มีฟังก์ชั่นรองรับแปลลายมือเป็นคำ)

หน้าจอสองจอนี่จะทำงานร่วมกันเหมือนเราต่อพวงจอภาพภายนอกเลยครับ ต่อจอนอกทำอะไรได้ เจ้าจอเล็กตัวนี้ก็ทำได้เหมือนกันทุกอย่าง แค่ตำแหน่งวางจอมันตายตัวขยับไปไหนไม่ได้ มีประโยชน์เวลาใช้งาน ใครที่เคยทำงานสองจอมาก่อนจะเข้าใจ เปิดการทำงานอ้างอิงกันไว้ได้ มีพื้นที่ทำงานมากขึ้น

เราจะเปิดทำงานไปด้วย ดูหนังไปด้วย หรือจะแชตกับเพื่อนไปด้วย ก็ไม่เกะกะรำคาญตาครับ เพราะมันแยกแสดงอยู่กันคนละหน้าจอได้พร้อมๆ กัน

และก็จะมีปุ่มฟังก์ชั่นที่ ASUS กำหนดมาให้พิเศษ เช่นปุ่มปิดใช้ ScreenPad Plus หรือจอที่สอง และปุ่มสลับจอซึ่งเป็นปุ่มที่ใช้งานบ่อยมากครับ แค่กดปุ่มเพียงครั้งเดียว โปรแกรมหรือหน้าต่างใดๆ ที่เปิดไว้บนจอบน จะสลับกลับมาไปอยู่ที่จอล่าง โปรแกรมใดเปิดไว้ที่จอล่างก็จะไปอยู่ที่จอบนแทนทันที

หรือระบบพรีเซ็ตชุดโปรแกรมใช้บ่อย โดยเราสามารถบันทึกชุดโปรแกรมที่เปิดร่วมกันไว้ได้เป็นโปรไฟล์ และเวลาจะเรียกใช้ ก็จะทำการเปิดโปรแกรมทั้งหมดในชุดทีเ่รากำหนดไว้ ตามตำแหน่งที่เราเคยบันทึกไว้เลยครับ พร้อมทำงานตามความเคยชินได้ทันที

ตำแหน่งทัชแพดจะถูกย้ายมาด้านข้างของคีย์บอร์ด ถ้าจะบอกว่าอะไรคือข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการออกแบบที่โดดเด่นนี้ ก็คงเป็นเรื่องของ “ความเคยชิน” เพราะตำแหน่งของทัชแพดมันมาอยู่ที่แปลกๆ แบบนี้แหละครับ ต้องใช้เวลาทำความเคยชินกับมันสักระยะเลยละ

วัสดุผิวงานแข็งแกร่ง โครงเครื่องถือจับไม่บิดงอง่ายๆ มุมองศาคีย์บอร์ดจะถูกยกสูงเมื่อยกเปิดฝาขึ้นมาใช้งาน ปุ่มกดให้ความรู้สึกที่ดี แต่จะไม่มีจุดวางพักข้อมือเพราะชุดคีย์บอร์ดอยู่ชิดติดกับขอบเครื่องด้านล่างแล้ว

แต่ชุดคีย์บอร์ดของ ASUS Zenbook Duo ตัวนี้ปิดการทำงานได้ด้วยนะครับ ฟังก์ชั่นนีี้ถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์การใช้พื้นที่คีย์บอร์ดเป็นที่วางข้อมือเพื่อใช้งานจอทัชสกรีนบน ScreenPad Plus โดยตรงครับ ทำให้เรากดสั่งง่านทัชสกรีนง่ายขึ้น จะขีดๆ เขียนๆ บน ScreenPad Plus ก็ทำได้ถนัดขึ้นเมื่อสามารถวางมือลงบนคีย์บอร์ดได้เต็มๆ

โดยเราสามารถปิดการทำงานของคีย์บอร์ดได้จากชุดคำสั่งพิเศษ ที่อยู่ในหน้าจอ ScreenPad Plus ครับ

พอร์ตเชื่อมต่อรอบเครื่องมี 5 พอร์ทด้วยกันครับ

  • 1x USB3.1 Type A (Gen1)
  • 1x USB3.1 Type A (Gen2)
  • 1x USB3.1 Type C (Gen 2)
  • 1x HDMI
  • 1x Micro SD card reader
  • และรูหูฟัง 3.5 mm

ตัวเครื่องโดยรวมไม่หนัก 1.50 กิโลกรัม จุดที่หนามากสุดคือ 1.9 เซนติเมตร ถือว่าเป็นเครื่องขนาดพกพาใช้งานนอกบ้านได้สบาย แต่อย่าลืม มันมาพร้อมกันถึงสองจอภาพ ^^ เครื่องไหนก็ให้เราไม่ได้ครับในจุดได้เปรียบตรงนี้

สเปคเครื่องรุ่นที่ผมได้มาลองใช้ คือรุ่น Zenbook Duo UX481F ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i5-10210U ส่วน RAM 16GB ออนบอร์ด เพิ่มไม่ได้ลดไม่ได้ และฮาร์ดดิสให้มาเป็น 512GB M.2 SSD PCIEG 3×2 NVME และมีการ์ดจอ MX250 ใส่มาช่วยอีกเบาๆ

การเชื่อมต่อล้ำยุคใช้ได้ รองรับ Bluetooth 5.0 และ Wireless 802.11ax รองรับเน็ต Wi-FI ความเร็ว 1GB ของเราเตอร์ AIS รุ่นใหม่ได้สูงสุดเลยครับ (แต่จะวิ่งได้เต็มเท่าไหร่ แล้วแต่สภาพแวดล้อมและคุณภาพสัญญาณนะครับ) ของผมเทสได้ 8xx Mbps สูงมากแบบไม่ต้องต่อสาย LAN

สเปคโดยรวมไม่ได้แรงเวอร์ฉูดฉาดอะไรมากมาย แต่เป็นเทคโนโลยีระดับกลางในรุ่นใหม่ล้วนๆ เลยครับ สเปคใหม่ไฮเทค ใช้งานได้อีกนานสบายๆ

สเปคระดับนี้ทำงานทั่วไปลื่นๆ เล่นเกมก็ยังไหวครับ เซ็ตค่ากลางๆ ในเกมระดับ AAA ก็ยังรันได้เฉลี่ยเกือบ 40Fps แรงพอแล้วครับ

เรื่องของแบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้ยาวครับ เปิดสองจอก็ยังใช้งานได้ยาว 5 ชั่วโมงไม่ดับ ถ้าใช้จอเดียวก็นานได้กว่านั้นอีก ตัวชาร์จขนาดเล็กแต่ไฟแรง 65W เสียบไปใช้ไปประมาณชั่วโมงครึ่ง แบตก็เกือบเต็มครับ

สรุปจุดเด่นและจุดด้อยของ ASUS Zenbook Duo UX481F

 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version