วันพุธ, พฤษภาคม 1
Advertisement

[ชวนคุยยามเช้า] Apple civilization อารยธรรมนี้ เข้าแล้วออกยาก!

สวัสดีครับ วันนี้ผมนพพินิจรับหน้าที่มาพูดคุยกับเพื่อนๆ ในวันเริ่มต้นของสัปดาห์ และคงวันหยุดพักผ่อนของเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ เรื่องที่วันนี้ผมเอามาพูดคุยกันก็เป็นเรื่องประสบการณ์การใช้งานส่วนตัวเอามาแบ่งบันกันไป จากลองจับลองใช้มาก็แทบจะทุกอุปกรณ์แทบจะทุกระบบในเมืองไทย เอาประสบการณ์มาคลายความสงสัย ใครที่เคยถามมาด้วยความไม่เข้าใจ “Apple มีดีอะไร ทำไมอะไรๆ ก็ขายได้ไปหมด”

คำตอบตอบไม่ยากครับ แต่บางคนอาจจะเข้าใจไม่ง่าย

Advertisement

ส่วนหนึ่งก็ตอบไปตรงๆ เลยว่าเพราะ “แบรนด์” คนซื้อเขาเพราะแค่ชื่อยี่ห้อมีไม่น้อยครับ นั้นเพราะเขาสามารถสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์เขาได้ดีมาก และมูลค่าของแบรนด์มันมีราคาเกินกว่าจะตีเป็นตัวเลขกลมๆ ออกมาได้ มันมีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากแค่ไหน อันนี้ก็แล้วแต่คน ซึ่งผมมองว่ามีผลกับคนกลุ่มใหญ่ๆ เลยละครับ และถ้าจะพูดถึงด้านลูกค้าที่เข้าใจในตัวสินค้าจริงๆ ซึ้อเพราะความคุ้มค่า ก็ต้องบอกเลยว่า Apple ก็มีจุดขายที่แข็งแกร่งในด้านี้ไม่ต่างจากเรื่องแบรนด์เช่นกัน เหตุผลมันมาจากทั้งสองฝั่ง เขาจึงประสบความสำเร็จมากมายอย่างทุกวันนี้ครับ

 

อะไรคือความแตกต่างของความเป็น Apple กับแบรนด์เทคโนโลยีอื่นๆ ถ้ามองกันเป็นปัจเจกเพียงหนึ่ง อาจจะไม่แตกต่าง เพราะความเป็นแบรนด์ขายเทคโนโลยี มองแว่บแรกก็มองกันเพียงแค่ความล้ำหน้าของวิทยาการที่ถือครองอยู่ เอาในความเป็นจริง ด้านนวัตกรรม Apple ไม่ได้เป็นผู้นำที่โดดเด่นแต่อย่างใด แต่การจะครองใจผู้ใช้ให้เกิดเป็นสังคมที่ภักดี สร้างความมั่นใจในสินค้า และสร้างความพึงพอใจได้อย่างสม่ำเสมอ มันไม่ได้อาศัยแค่วิทยาการด้านเทคโนโลยี แต่มันคือการผสมเคมีที่เข้ากันที่สุดระหว่าง ความพอดี เทคโนโลยี การก่อเกิดประโยชน์ ความพึงพอใจและประสบการณ์ในการใช้งาน

og

 

[quote]

สักแต่ใส่ความทันสมัยจนผู้ใช้ตามไม่ทันเกิดความไม่เข้าใจ กลายเป็นความเยอะ สับสน งง สุดท้ายก็กลายเป็นของเล่นบรรดา Geek ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ก็เท่านั้น

สักแต่ใส่เข้าไปโดยไม่ได้ดูความพร้อมใช้ ความสมบูรณ์ขาดหาย ใช้งานได้ติดๆ ขัดๆ สุดท้ายก็ไม่เกิดประโยชน์ เป็นของโชว์มากกว่าของใช้ จนกลายเป็นความสามารถ “แป๊ก” มีไปก็ไม่มีใครอยากได้

[/quote]

 

Apple เองก็ไม่ต่างไปจากแบรนด์อื่นๆ ครับ ที่มีทั้งความ แป๊ก มีทั้งข้อบกพร่อง มันไม่มีแบรนด์ไหนที่ผสมความพอดีออกมาได้แบบเป๊ะๆ สมบูรณ์แบบ แต่ Apple ทำมาได้กลมกล่อมกว่าใครก็เท่านั้นครับ ความทันสมัยใครๆ ก็อยากได้ครับ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ในพื้นพิภพเราต้องเข้าใจระดับเขาสักหน่อยครับ มีหน้าที่การงานอื่นๆ ที่เรื่องไอทีไม่ได้มีความสำคัญมากไปกว่าหนึ่งในหลายๆ เรื่องที่เขาสนใจแต่เพียงผ่าน ความต้องการเขาอยู่ในระดับไหน ความสนใจเขาจะศึกษามันมากเพียงใด มันมีทั้งมากไป น้อยไป และมันมีความพอดีกับชีวิต

ด้วยความที่ Apple เป็นแบรนด์หนึ่ง ไม่เน้นช้าเน้นเร็ว แต่เน้นพร้อม สร้างมาตรฐานที่ตัวเขาเองกำหนดได้พอดีกว่าใคร โดยเฉพาะ ecosystem ขั้นเทพที่ใครก็มีให้ได้ไม่เท่า อุปกรณ์ iOS, Mac รวมทั้ง Watch ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตระกูลใหม่สุดของพวกเขา ถ้าใครเป็นผู้ใช้จะเข้าใจ เมื่อมี iPhone ทำไมแท็บเล็ตควรเป็น iPad เมื่อมี iPad, iPhone ข้อดีอะไรที่ต้องใช้ Mac เมื่อมีทั้ง Mac ทั้ง iOS ทำไมเมื่อใช้ Apple Watch มั้นจึงมีความเข้ากันได้อย่างที่สุด มันเชื่อมถึงกัน ความสามารถมันเรียกหากัน ผ่านฟังชั่นต่างๆ Handoff, Airdorp, iCloud, และอื่นๆ ต่างๆ อีกมากมาย ที่ถ้าได้มาลองใช้จะเข้าใจ

และเมื่อมองไปในด้านอุปกรณ์ Apple มีความพร้อมมากที่สุดในตลาดขณะนี้ครับ เพราะเขามีทั้ง มือถือ แท็บเล็ต อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วน บุคคล และนาฬิกา ที่บังเอิญเหลือเกินว่า ทุกๆ ประเภทอุปกรณ์ของพวกเขา เป็นตัวนิยมที่มีจำนวนมากเป็นอันดับตั้นๆ ในตลาดแทบจะทุกอุปกรณ์ ซึ่งมองหาไปทั่วตลอดตอนนี้ อาจจะไม่มีสักแบรนด์เดียวที่ทำได้ขนาดนี้ครับ

Apple civilization จึงเป็นเหมือนหลุมดำที่คนหลงเข้าไปแล้ว หลุดยาก ไม่ว่าคุณจะติดกับดักเป็นอุปกรณ์ใด อุปกรณ์หนึ่งของพวกเขา เราก็มีสิทธิ์ที่จะถูกดูดเข้าไปยังระบบนิเวศที่ Apple ได้สร้างขึ้นมาได้ทั้งนั้นครับ

จำนวนผู้ใช้เขาจึงคงที่ ยืนยาว และเกิดการซื้อซ้ำได้โดยง่าย เป็นหนึ่งในสินค้าไม่กี่ประเภท ที่ลูกค้าพร้อมซื้อด้วยเหตุผลแค่ความไว้วางใจเดิมๆ ไม่ต้องรอโฆษณา ไม่ต้องอ่านรีวิว ไม่ต้องรอฟังเสียงคำเอ่ยใดๆ แค่เปิดตัว กำหนดวันขาย ของก็ขาดตลาดทันที นั้นก็เพราะพลังของสาวกเขาทั้งนั้นครับ และไม่แน่สักวัน มันอาจจะเป็นคุณเองที่หลงเข้าไปยังอารยธรรมแห่งศาสดา

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version