Advertisement

กระแส Samsung Galaxy S4 กำลังมาแรง ที่ผ่านมาเราได้นำเสนอบทความเปรียบเทียบเจ้า Galaxy S4 กับ HTC ONE มาบ้างแล้ว หรือจะเป็นการประชันเบนช์มาร์กต่างๆ กันอีกมากมาย แต่ทั้งหลายเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นการประชันกันเองภายในระบบ OS เดียวกัน มาครั้งนี้ APPDISQUS แอบหยิบเอาบทความดีๆ จาก AndroidPIT หนึ่งในเว็บไซต์แฟนบอย Android ที่พูดถึง 15 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Galaxy S4 เหนือกว่า iPhone 5 มาฝากกันบ้าง แน่นอนว่าระหว่างการอ่านโปรดจำไว้ว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครได้ Galaxy S4 ไปนอนกอดนอนใช้แบบจริงๆ เลยสักราย และ AndroidPIT นั้นเป็นแฟนบอยของ Android (แหงล่ะ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว) ดังนั้นขอให้ใช้วิจารณญาณส่วนตัวประกอบการอ่านบทความนี้ด้วยนะจ๊ะ

เอาล่ะ เมื่อพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

Advertisement

[divider]

คุณกำลังเป็นโรคกังวลกับสิ่งใหม่ๆ อยู่หรือเปล่าครับ หากใช่เราก็แนะนำให้คุณไปซื้อ iPhone 5 มาใช้ซะ ด้วยหน้าตาการเรียงแถวไอคอนแบบโบราณของมัน พร้อมกับการออกแบบที่คุ้นเคยนั้นน่าจะทำให้คุณรู้สึกราวกับนั่งไทม์แม็คชีนย้อนเวลากลับไปในปี 2007 ได้ มันคือนวตกรรมโบราณที่ทันสมัยมาก!

แต่หากคุณสนใจเทคโนโลยีล่าสุดและเจ๋งสุดเท่าที่โลกเคยมีมา เรา (AndroidPIT) อยากจะแนะนำให้คุณซื้อ Samsung Galaxy S4 แทนซะ เหตุผลนั้นมากมายหลากหลายจนยากที่จะเขียนให้ได้ภายในหนึ่งบทความ แต่เดี๋ยวเราจะลองพยายามดู และนี่คือ 15 เหตุผลที่คุณควรจะเลือกซื้อ Galaxy S4 แทนเจ้า iPhone 5

จำไว้นะครับว่าเพื่อนย่อมไม่ยอมให้เพื่อนซื้อเทคโนโลยีที่ตกรุ่นไปแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าลืมส่งต่อบทความนี้ให้กับเพื่อนหัวดื้อแฟนเดนตาย Apple ของคุณให้เขาได้สัมผัสถึงสิ่งที่คุณรู้และรักเพื่อฉายแสงสว่างให้เกิดขึ้นเบื้องหน้าของพวกเขาเหล่านั้นด้วยล่ะ

 

1. หน้าจอที่แหล่มเป็ดกว่า

samsung-galaxy-s4-teaser

iPhone 5 มีขนาดความละเอียดหน้าจอที่ 1136*640p พร้อมจำนวนพิกเซลที่ 326 พิกเซลต่อหนึ่งตารางนิ้วซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าโกโรโกโสอะไรสำหรับมือถือที่เปิดตัวไปเมื่อปีก่อน แต่ตั้งแต่การมาถึงของ iPhone 5 ค่ายผู้ผลิตคู่แข่งอย่าง HTC, Sony และ Samsung ต่างก็พากันเกทับด้วยหน้าจอที่สดกว่าและคมกว่า และยิ่งกลับ Galaxy S4 ด้วยแล้วยิ่งมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด 1920*1080p พร้อมจำนวนพิกเซลที่ 441 พิกเซลต่อตารางนิ้ว ซึ่งชัดเจนว่าเหนือชั้นกว่า iPhone 5 แบบสุดๆ

 

2. S-Health

samsung-galaxy-s4-test-11

Samsung S-Health นั้นต้อถือว่าเป็นคู่แข่งของ FitBit และ FuelBand ในเรื่องของจำนวนฟีเจอร์ที่อัดเข้ามาได้เลยทีเดียว ตัวแอพพลิเคชั่นสามารถแทร็คกิจกรรมที่คุณทำต่อวันได้ รวมไปจนถึงอัตราการเผาผลาญแคลอรี่และอัตราการเต้นของหัวใจในระหว่างการออกกำลังกาย ตัวโทรศัพท์เองยังฉลาดถึงขั้นตรวจวัดอุณหภูิมและความชื้นในอากาศเพื่อช่วยให้คุณเตรียมการล่วงหน้าก่อนออกกำลังกายได้อีกด้วย ซึ่งสำหรับ iPhone นั้นไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้เลยสักอย่าง

 

3. กล้อง 13 ล้านพิกเซล

galaxys4-camera

ไม่ใช่เพียงแค่จำนวนพิกเซลของกล้อง Galaxy S4 ที่มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเท่านั้นที่เอาชนะความละเอียดกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซลของ iPhone 5 ไปได้ ในตัวของกล้องเองยังมาพร้อมความสามารถที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากมายไปหมดอีกด้วย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถถ่ายรูปโดยใช้กล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันในเวลาเดียวกันได้ หรือแม้แต่ลบเอาคนหรือวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพไปแบบอัตโนมัติก็ยังทำได้

 

4. หน้าจอที่ใหญ่กว่า

galaxy-siv-display

Apple ค่อนข้างภูมิใจในตัวเองพอสมควรที่เดียวในตอนที่เปิดตัว iPhone ตัวล่าสุดที่มาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่กว่าเดิม (หน้าจอ 4 นิ้ว) แต่สำหรับใครก็ตามที่ต้องการพื้นที่มากกว่านั้นเพื่อการทำมัลติทาสก์ ดูหนัง หรือเล่นเกมแล้วล่ะก็ คงไม่มีเครื่องไหนจะเอาชนะหน้าจอ 5 นิ้วของ Galaxy S4 ได้แล้วล่ะ (เว้นก็แต่หากจะเอาไปเทียบกับ Note 3 นะ) ความเจ๋งของหน้าจอ Galaxy S4 ทำให้ iPhone ดูเป็นของโบราณไปเลย

 

5. ระบบประมวลผลที่ไวกว่า

Galaxy S4 มาพร้อมกับซีพียูแบบ Quad-Core ซึ่งเอาชนะ Dual Core ของ iPhone 5 ไปอย่างง่ายดาย ซึ่งความไวก็ไวมากขึ้นจริง Primate Labs เองก็ได้ลองทดสอบเบนช์มาร์กดูแล้วบนทั้งสองเครื่องและได้ข้อสรุปที่บอกว่า Galaxy S4 นั้นไวกว่า iPhone 5 มากถึงสองเท่าเลยทีเดียว

 

6. หน้าจอแบบปรับแต่งเองได้

Galaxy S4 สามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ตามอิสระเหมือนกับมือถือแอนดรอยด์ตัวอื่นๆ เขา นั่นหมายความว่าคุณสามารถเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นไปได้ดั่งที่ใจคุณต้องการได้อย่างไม่ยากเย็น เช่นลองดาวน์โหลด Holo Launcher มาติดตั้งสำหรับผู้ที่ต้องการความรู้สึกแบบเพียวแอนดรอยด์และลากวิดเจ็ตจาก Google, Flipboard, Twitter และอื่นๆ มาไว้หน้าจอเพื่อรอดูข้อมูลที่สนใจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากคุณใช้ iPhone คุณจะทำอะไรแบบนี้ไม่ได้เลย

 

7. Google Now ถล่ม Siri ราบคาบ

Google Now VS Siri

Siri คือใครกันครับ? ผู้ช่วยส่วนตัวจาก Google ยังทำงานได้หลากหลายกว่าพนักงานจาก Apple คนนี้เสียอีก เพราะ Google Now เอื้อให้คุณสามารถเช็คไฟลท์เครื่องบินตลอดจนเช็คสภาพอาการที่เมืองจุดหมายปลายทางที่คุณกำลังเดินทางไปได้ นอกจากนี้มันยังช่วยหาดีลของร้านอาหารในพื้นที่หรือทางที่ไวที่สุดในการกลับบ้านด้วยรถโดยสารประจำทางได้อีกนะ ทั้งหมดนี้ รวมไปจนถึงการค้นหาแบบกราฟท์นั้น Siri ง่อยรับประทานไปเลย

 

8. ความจำเยอะกว่า

Galaxy S4 มาพร้อมกับ RAM 2กิ๊กซึ่งเอื้อให้คุณสามารถรันโปรแกรมหลายๆ โปรแกรมได้ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ iPhone 5 นั้นมี RAM เพียงครึ่งหนึ่งของ Galaxy S4 เท่านั้นและมีความสามารถด้านการเปิดโปรแกรมหลายๆ โปรแกรมพร้อมกันได้น้อยกว่าเพราะความจำในตัวเครื่องน้อยกว่านั่นเอง

 

9. แบตเตอร์รี่แบบถอดได้

samsung-galaxy-s4-test-1

Samsung น่ารักเสมอเมื่อว่ากันถึงเรื่องของแบตเตอร์รี่แบบถอดเปลี่ยนได้บนมือถือสมาร์ทโฟนของตนและเจ้า Galaxy S4 เองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น คุณสามารถถือแบตเตอร์รี่ที่ชาร์ตเอาไว้จนเต็มอีกก้อนไปไหนมาไหนกับคุณได้และพร้อมเปลี่ยนก้อนใหม่นี้ใส่ไปในเครื่องทันทีที่แบตเตอร์รี่ต่ำ นั่นทำให้คุณสามารถใช้งานโทรศัพท์ได้นานขึ้นกว่า iPhone 5 ถึง 2 (หรืออาจจะ 3) เท่าเลยทีเดียว

 

10. เพิ่มพื้นที่ความจุได้

อีกอย่างหนึ่งที่ Samsung ทำได้ดีมาโดยตลอดคือการใส่เอาพอร์ตฟังก์ชั่นในการเพิ่มเนื้อที่ความจุในตัวเครื่องมาให้กับอุปกรณ์ของตัวเอง สำหรับเจ้า Galaxy S4 นั้นสามารถเพิ่มความจุได้ขึ้นไปสูงสุดถึง 128 กิ๊ก โดยสิ่งที่คุณต้องทำนั้นเพียงแค่ไปซื้อ Micro SD การ์ดจากร้านค้าทั่วไปแล้วเอามาใส่เพิ่มยังพอร์ตที่ว่า ซึ่งถือได้ว่าถูกกว่าการอัพไซส์พื้นที่ความจุของ iPhone ที่คุณอาจต้องเสียเพิ่มมากขึ้นอีกกว่าสามพันบาทเลยทีเดียว

 

11. ระบบเจ็ตเจอร์และการตรวจจับดวงตา

gesture control

คุณสามารถปัดมือขึ้นลงเหนือจอ Galaxy S4 เพื่อรับโทรศัพท์ เปลี่ยนเพลง หรือแม้แต่เปลี่ยนแท็บบนเบราเซอร์ของคุณได้ รวมไปจนถึงลูกเล่น Smart Pause ที่จะสามารถหยุดการเล่นวิดีโอในทันทีที่คุณละสายตาจากหน้าจอไป แน่นอนว่า Apple หมดสิทธิ์แหยมลูกเล่นเหล่านี้

 

12. ระบบมัลติทาสกิ้งที่แหล่มกว่า

multitasking-galaxy-siv

ใน iPhone 5 นั้นการทำมัลติทาสกิ้งนั้นหมายถึงสิ่งง่ายๆ แค่การสลับโปรแกรมไปมาและภาวนาให้ความจำยังเหลือพอให้กลับไปเปิดโปรแกรมเก่าที่เพิ่งเปิดไปขึ้นมาได้อีก แต่ Samsung กลับเอื้อให้คุณสามารถทำงานมัลติทาสกิ้งได้แบบในคอมพิวเตอร์จริงๆ ด้วยลูกเล่นการรันโปรแกรมคู่ขนานกันไปแบบพร้อมๆ กันด้วยการแบ่งครึ่งหน้าจอ นั่นทำให้คุณสามารถเขียนอีเมลไปพร้อมๆ กับการเปิดดูเว็บไซต์ หรือแม้แต่ดูวิดีโอยูทูปไปในระหว่างการทำพรีเซนต์เตชั่นก็ได้นะเออ

 

13. รองรับเทคโนโลยี NFC

samsung-nfc

ว่ากันว่า NFC คือรูปแบบการถ่ายโอนข้อมูลที่เร็วที่สุดเพราะมันจะเชื่อต่ออุปกรณ์ระหว่างกันด้วย WiFi แต่แน่นอนว่าฟีเจอร์แบบนี้ไม่มีให้คุณเห็นบน iPhone เพราะ Apple นั้นดูเหมือนจะพยายามหลบเลี่ยงการใช้งานฟังก์ชั่นนี้ไปเพื่อ…เอ่อ…อะไรก็ไม่รู้ ด้วยเทคโนโลยี NFC เจ้า Galaxy S4 ของคุณจะสามารถเชื่อมต่อกับหูฟังแบบ NFC หรือเครื่องเสียงสเตอริโอและเริ่มเล่นเพลงบนอุปกรณ์ของคุณได้อย่างน่าอัศจรรย์ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ NFC กับบริการด้านการเงินอื่นๆ อย่าง ISIS และ Google Wallet ได้อีกด้วย

 

14. ลูกเล่นอย่าง Story Album

galaxy-siv-story-album

หากคุณเคยมีความรู้สึกต้องการวิธีการโชว์รูปของคุณแบบเก๋ๆ อยู่แล้วล่ะก็ Story Album คือสิ่งที่คุณกำลังมองหา เจ้าฟีเจอร์นี้จะจัดการรูปภาพของคุณออกเป็นธีมเช่นสถานที่หรือหัวเรื่องของมัน แต่สำหรับใน iPhone 5 นั้น คุณกลับต้องสร้างอัลบัมขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง

 

15. นอกจากนั้นแล้วมันยังเป็นรีโมตคอนโทรลด้วยนะ

คุณชอบทำรีโมตของคุณหายบ่อยแค่ไหนครับ? ถึงตอนนี้มันคงไม่สำคัญอะไรอีกแล้วล่ะเพราะว่าคุณสามารถใช้มือถือของคุณแทนรีโมตได้ แม้มันจะดูเฉิ่มๆ เชยๆ แต่เราก็ชอบความจริงที่ว่า Galaxy S4 (และ HTC ONE) สามารถเปลี่ยนหน้าที่ของตัวเองเป็นรีโมตคอนโทรลได้อย่างง่ายดายนี้ ในขณะที่ iPhone 5 ทำไม่ได้เลย

[divider]

โดยส่วนตัวแล้ว APPDISQUS เห็นว่าในบางข้อนั้นก็ดูเหมือนเป็นการพยายามเอามาข่มกันให้ดูเหนือกว่าเฉยๆ ในขณะที่การใช้งานจริงอาจไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรหรืออาจไม่ได้ดีไปกว่ากันจริงๆ แต่กับในบางส่วน โดยเฉพาะในเรื่องของสเป็ก (และฟีเจอร์ต่างๆ บางฟีเจอร์) ก็ต้องยอมรับว่ามันเหนือกว่ากันจนน่าพูดถึงจริงๆ

เพื่อนๆ ชาว APPDISQUS คิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้บ้าง ใครมีอะไรจะช่วยแย้งให้ iPhone 5 ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้ที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ เราอยากได้ยินความคิดเห็นของเพื่อนๆ เน้อ

 

ที่มา – AndroidPIT

แชร์
Avatar photo

อเล็กซ์ หรือ เอ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบเอามือถือหรือ iPad ข้างกายตนมาจับๆ จิ้มๆ ตามประสาคนมีงานแต่ชอบเล่นเกม คุณสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้กำลังใจเอได้เสมอผ่านทางการคอมเมนต์ในบทความนี้

Advertisement
Exit mobile version