วันเสาร์, พฤษภาคม 4
Advertisement

รีวิว Fitbit Charge 5 ฟิตเนสแทรคเกอร์ที่หน้าตาจะแตกต่างจากตัว fitbit Charge 4 โดยสิ้นเชิง พร้อมฟังก์ชั่นล้ำๆ  ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสีแบบ AMOLED และ Always-on-display ช่วยเพิ่มความสะดวกในการมองเห็นขณะออกกำลังกายมี GPS ในตัวและเป็นตัวแรกที่มีเซนเซอร์ EDA ช่วยวัดการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด รวมถึงแบตเตอร์รี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 วันอีกด้วย วางจำหน่าย 3 สี ในราคา 7,690 บาท

DSC08261

Advertisement
  • Graphite/Black
  • Soft Gold/Lunar White
  • Platinum/Mineral Blue

โดยสีที่เราจะมารีวิวให้ชมกันจะเป็นสีฟ้า Mineral Blue ค่ะ

แกะกล่อง fitbit Charge5

  • fitbit Charge5
  • สายชาร์จพร้อมหัวชาร์จ
  • สายซิลิโคนแบบยาวสำหรับเปลี่ยนอีก 1 ชิ้น
  • คู่มือการใช้งานสารพัดภาษา (ไม่มีภาษาไทยเช่นเคย T-T )

DSC09525

เมื่อพูดถึงแบรนด์ fitbit แล้ว มั่นใจในวัสดุประกอบได้เลยค่ะ ตัวเรือนอลูมิเนี่ยมสีเงินดูเรียบหรู ออกแบบมาให้ง่ายกับการแต่งตัวแมทเข้ากับเสื้อผ้าโดยใช้สีโทนขรึม ตัวสายที่มีความยืดหยุ่นสวมใส่ทำกิจกรรมสบายได้ตลอดทั้งวันรวมถึงใส่นอนและใส่อาบน้ำ ตัวสายสามารถถอดเปลี่ยนได้ตามชอบ สีที่เราได้มารีวิวจะเป็นสี Mineral Blue ที่จะไม่ได้เป็นฟ้าสดใสแต่จะเป็นฟ้าอมเทาหม่น

DSC08268

หน้าจอทรงยาวครั้งนี้มาพร้อมจอสีที่สว่างสดใสสู้แดดสว่างกว่า Charge 4 ถึง 2 เท่าในเวลากลางวัน หน้าจอแบบสัมผัส ใช้การแสดงผลแบบ Always-on-display เป็นตัวแรกที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้มองเห็นหน้าจอได้ตลอดเวลาในการออกกำลังกาย พร้อมปกป้องหน้าจอด้วย Corning Gorilla Glass 3

DSC09505

ด้านหลังเป็นเซ็นเซอร์วัดค่าต่างๆ พร้อมแถบแม่เหล็กสำหรับชาร์จ และสลักสำหรับเปลี่ยนสาย วิธีเปลี่ยนสายเปลี่ยนได้ง่ายมากค่ะแค่ใช้เล็บดันสลักออก

การเชื่อมต่อ

เชื่อมต่อง่ายผ่านสมาร์ทโฟน สำหรับการใช้งานครั้งแรกก่อนอื่นต้องดาว์นโหลดแอปพลิเคชั่น fitbit ก่อนค่ะ ซึ่งมีทั้งใน iOS  และ Android

รองรับการใช้งาน iOS 12.2 และ Andriod 8.0 ขึ้นไป เชื่อมต่อ Bluetooth ใส่รหัส 4 หลัก ที่ปรากฏบนหน้าจอ fitbit เพื่อทำการเชื่อมต่อ สำหรับใครใช้ Android คือสามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วผ่าน Google Fast Pair หลังจากนั้นก็พร้อมใช้งานได้เลยค่ะ เราสามารถเลือกเปลี่ยนหน้าปัดเป็นแบบอืนๆ ซึ่งมีให้เลือกเพียบเลยภายในแอปฯ

บนหน้าจอของฟิตบิทจะมีการแจ้งการวัดค่าต่างๆ แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ เวลาในการนอนพร้อมบอก Score ในการนอนได้บนหน้าจอโดยไม่ต้องเปิดเข้าไปดูในสมาร์ทโฟน รวมถึงเราสามารถดูการแจ้งเตือนข้อความต่างๆ ไม่ว่างเป็น Line, Facebook, WhatsApp ได้จากบนหน้าจอ..แต่น่าเสียดายที่รุ่น Charge 5 ยังไม่รองรับภาษาไทยในตอนนี้

DSC08294

นับจำนวนการก้าวเดินในแต่ละวันรวมถึงระยะทางด้วย รุ่นนี้มาพร้อม GPS ในเครื่อง ดูได้จากบนหน้าจอไม่ต้องพกมือถือระหว่างการออกกำลังกายเดิน วิ่ง หรือทำกิจกรรมอื่นๆ

DSC08255

 

พร้อมโหมดการออกกำลังกายสามารถเลือกประเภทการออกกำลังกายได้ถึง 20 ประเภท อาทิ กอล์ฟ พิลาทิส การปั่นจักรยาน เทนนิส ฯลฯ ระบบตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ และค่าประมาณ V02 max

DSC08259

สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจในปัจจุบันและวัดการเผาผลาญพลังงานได้ตลอดเวลา อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักเป็นเครื่องบ่งชี้สุขภาพหัวใจโดยรวม ยิ่งเลขน้อย ยิ่งได้คะแนนมาก

DSC08303

การกันน้ำอยู่ในระดับ 5ATM ใส่อาบน้ำ เล่นน้ำได้ ในความลึกไม่เกิน 50 เมตร มีโหมด Water Lock ป้องกันไม่ให้น้ำหยดน้ำสัมผัสโดนหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ

แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 7 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตรงนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วยค่ะ อย่างการเปิดแสงหน้าจอ Max หรือการใช้งาน GPS ก็จะทำให้การใช้งานสั้นลง

49887

เซนเซอร์ EDA – Fitbit Charge 5 เป็นแทรคเกอร์ตัวแรกที่มีเซนเซอร์ EDA ที่คอยวัดการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด ที่วัดจากการเปลี่ยนแปลงของต่อมเหงื่อบริเวณนิ้วมือ โดยการใช้ 2 นิ้วแตะบริเวณด้านข้างของจอเพื่อทำการ EDA Scan ทำหลังจากการออกกำลังกายก็จะเป็นการ Cooldown เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะปกติลดอัตราการเต้นของหัวใจลงหลังจากการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง

49888

ตรงนี้เราสามารถตั้งเวลาในการทำ EDA Scan ได้ตั้งแต่ 2-7 ด้วยค่ะ บันทึกอารมณ์ในแต่ละครั้งของวันในแอปได้ง่ายๆ จาก Very stressed ไปจนถึง Very Calm เป็นการฝึกสมาธิเรียกสติในอีกทาง

49873

 

ตรวจสอบความอิ่มตัวของออกซิเจน (SpO2) – โหมดฮิตที่จะไม่มีไม่ได้ สำหรับการวัดค่าออกซิเจนในเลือด ตัวนี้เราก็สามารถเช็คได้จากหน้าจอโดยต้องเปิดเข้าไปดูในสมาร์ทโฟนค่ะ

Active Zone Minutes  เป็นตัวช่วยให้ผู้ใช้งานปรับเปลี่ยนความหนักเบาของการออกกำลังกายได้ โดยวัดจากกิจกรรมส่วนบุคคลที่นอกเหนือจากการก้าวเดิน ระบบนี้สามารถวัดระยะเวลาที่คุณใช้ในแต่ละระดับของอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งช่วยให้คุณวัดกิจกรรมระดับปานกลางและหนัก เพื่อจะได้บรรลุเป้าหมายระยะเวลา 150 นาทีของการออกกำลังกายซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพของคุณ

Stress Management Score บริหารความเครียดเพื่อช่วยให้คุณมีสุขภาพดี, ประเมินระดับความเครียดของร่างกายคุณแบบรายวัน โดยวิเคราะห์ระดับกิจกรรม การนอนหลับและอัตราการเต้นของหัวใจ

Screenshot 20220109-165840 Fitbit

Sleep Score  เพื่อเข้าใจการนอนหลับและพัฒนาการนอนให้ดีขึ้นแบบรายวัน Sleep Stage หรือคะแนนด้านการนอนหลับที่จะช่วยให้คุณค่อย ๆ แสดงคุณภาพการนอนในแต่ละวันได้อย่างชัดเจน และการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้านอน และฟีเจอร์ปลุกแบบ Smart wake

Screenshot 20220107-192020 Fitbit

และสำหรับสาวๆ fitbit Charge 5 มีแจ้งวันตกไข่รวมถึงช่วงเวลาของการมีประจำเดือนที่ค่อนข้างแม่นยำเลยทีเดียวภายในแอพพลิเคชั่นของ fitbit จะมีคลิปการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบเสียเงินและฟรีดูได้ฟรีทุกสัปดาห์  โดยคลิ๊กที่แถบด้านล่างเข้าไปที่ Discover เลือก Workouts

­FITBIT PREMIUM

สำหรับคอนเทนต์เสียเงินสามารถเข้าถึงคอนเทนต์การออกกำลังกายแบบหนักหน่วงกับ Fitbit Premium กว่า 200 แบบจากเทรนเนอร์ที่ได้รับการรับรองและแบรนด์ดังต่าง ๆ เช่น Daily Burn, barre3, obé เป็นต้น ยังสามารถสนุกไปกับทีมเทรนเนอร์ของวิลล์สมิธในรูปแบบเวอร์ชวล เพื่อให้การออกกำลังกายของคุณนั้นมีความสนุกและดุเดือดมากยิ่งขึ้นกับหลักสูตร StrongWill ซึ่งจะนำเสนอโปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อเรียกเหงื่อและกระตุ้นฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน ถึง 6 รูปแบบ

ให้คุณออกกำลังกายเพื่อปั๊มหัวใจในแบบที่คุณชื่นชอบ เช่น BODYPUMPTM, BODYATTACKTM, BODYCOMBATTM และอีกมากมาย ที่ทำได้ทั้งที่บ้านและที่ยิม จะได้รับการออกกำลังกาย LES MILLS ใหม่ 25 รายการซึ่งมีอยู่ในแอพ Fitbit นอกจากนี้ ความหนักเบาของการออกกำลังกายและอุปกรณ์ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำให้หัวใจได้เต้นอย่างหนัก และบรรลุเป้าหมาย Active Zone Minute (AZM) และถ้าคุณเป็นสมาชิกระดับพรีเมียม ฟีเจอร์ Daily Readiness Score จะเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะกำหนดระดับการเตรียมร่างกายและเป้าหมาย AZM ได้แบบรายวัน นอกจากนี้สมาชิก Fitbit Premium จะได้รับบทวิเคราะห์เชิงลึกและแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการนอนอีกด้วย

DSC08276

สรุปการใช้งาน

หลังจากอยู่ด้วยกันมาเกือบ 2 อาทิตย์ คือชอบมากใส่ตลอดเวลาจะมีถอดแค่ตอนอาบน้ำ น้ำหนักเบา หน้าจอสวยสว่างสู้แดด มีเซนเซอร์ EDA ที่คอยวัดการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด ตรวจสอบความอิ่มตัวของออกซิเจน (SpO2) ส่วนตัวคิดว่าแบรนด์ fitbit ทำออกมาดีแทบทุกรุ่น มีการพัฒนาตัวสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทรงสวยดูแพงรวมถึงเจ้าตัว fitbit Charge 5 ด้วยเช่นกัน แบตเตอรี่ทนทาน ใช้งานจบบนหน้าจอ ที่เหลือก็รออัพเดทเรื่องรองรับภาษาไทยอย่างเดียว

 

แชร์
Avatar photo

ว่างจากวาดรูปก็มาเล่นในนี้แหละ ^^

Advertisement
Exit mobile version