รีวิวหูฟัง Crusher Evo และ Sesh Evo Skullcandy x Budweiser

Skullcandy x Budweiser การ Collab ระหว่างแบรนด์หูฟังกับแบรนด์ที่นักดื่มรู้จักกันดีอย่าง “บัดไวเซอร์” ในธีมสีแดงและโลโก้คลาสสิคที่เป็นเอกลัษณ์ของบัดไวเซอร์ รวมตัวกับหูฟังสไตล์วัยรุ่นสุดแนวของ Skullcandy แล้ว บอกเลยว่าน่าเก็บมากๆ ออกมาทั้งหมด 4 รุ่น 4 สไตล์ เปิดตัวพร้อมกันวันที่ 15 ก.พ. 65 ที่ผ่านมานี้ โดยบริษัทเมนทาแกรม ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้า Gadget Lifestyle โดยทาง Appdisqus จะมารีวิว 2 รุ่น เป็นรุ่น Crusher Evo หูฟัง Over ear มาพร้อม Sensory bass ที่สามารถปรับเบสเองได้ และรุ่น Sesh Evo หูฟัง TWS เสียงดี โดยทั้ง 2 รุ่นวางจำหน่ายในแล้ว มีเพียง 100 ตัวในไทยเท่านั้น

Crusher Evo

หูฟังโอเวอร์เอียร์สีแดงดำเห็นแล้วจี๊ดมาก ตัวเอียร์คัพสีแดงเพลิงตัดกับก้านครอบหัวสีดำ มาในกล่องขนาดใหญ่สีแดงที่โชว์ให้เห็นสัญลักษณ์ของความเป็น Budweiser เปิดตัวมาในราคาเพียง 8,990บาท แค่เห็นกล่องก็มีความหิวเบียร์ เรามาแกะกล่องดูข้างในกันค่ะ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวหูฟัง Crusher Evo
ซองหนังเทียมสำหรับใส่ตัวหูฟัง
สายชาร์จ USB Type-C
สาย AUX แบบ 3.5 mm
คู่มือการใช้งาน (ไม่มีภาษาไทย)
ใบรับประกันสินค้า

ตัวหูฟังใส่สบาย ก้านครอบด้านบนบุนวมหนานุ่มหุ้มหนังเทียมสกรีนโลโก้ Budweiser ตัวก้านด้านในเป็นเหล็กปรับขึ้นลงให้เข้ากับขนาดหัวได้ ปรับขนาดของก้านได้ลื่นไหลไม่ติดขัด วัสดุที่ใช้ดูแพงดูทนทาน ด้านข้างสกรีนโลโก้หัวกระโหลกมีมงกุฏของ Skullcandy

ตัวเอียร์คัพด้านในบุนวมนุ่นสีแดงเพลิง บริเวณด้านนอกเป็นพลาสติกใช้เป็นสีเงามันเคลือบผิววัสดุ จับแล้วเป็นรอยนิ้วมือง่าย..ความเงามันเป็นเหตุสังเกตุได้ ตัวปุ่มกดที่เป็นปุ่มพลาสติกทั้งหมด วัสดุโดยรวมถึงแม้จะเป็นพลาสติกเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ดูแข็งแรงทนทานดีค่ะ

ชอบรายละเอียดเล็กน้อยของ Skullcandy อย่างเทคเจอร์เล็กน้อยที่ทำให้ไม่รู้สึกว่าตัวหูฟังมันเกลี้ยงไป รวมถึงโลโก้ที่มีอยู่ในทุกอุปกรณ์แม้แต่บนสายชาร์จและสายแจ็ค ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมไปอีก การใช้งานหูฟังการควบคุมรวมถึงการใช้งานคำสั่งต่างๆ ได้จากตัวหูฟังโดยไม่ต้องเปิดสมาร์ทโฟนขึ้นมาเลย

ฝั่งขวาของเอียร์คัพจะเป็นปุ่มคำสั่งใช้งานต่างๆ

ปุ่มกลางเป็นปุ่ม เปิด/ปิด เพลง และรับสายวางสายโทรเข้า รวมถึงกดใช้งานคำสั่งเสียงด้วยโดยการกดซ้ำ 2 ครั้ง
ปุ่มบน กด 1 ครั้งเป็นการเพิ่มระดับเสียง กดค้าง 3 วิ เป็นการเล่นเพลงถัดไป
ปุ่มล่าง กด 1 ครั้งเป็นการลดระดับเสียง กดค้าง 3 วิ เป็นการเล่นเพลงก่อนหน้านี้

ฝั่งซ้ายของเอียร์คัพจะเป็นช่อง USB Type-C สำหรับเสียบชาร์จ มีระบบ Rapid Charge ชาร์จด่วน 10 นาที ใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง ชาร์จแบตฯ เต็มใช้งานได้นานกว่า 40 ชั่วโมง ช่องเสียบสาย 3.5 mm สำหรับต่ออุปกรณ์อื่นๆ

ปุ่มสีดำจะเป็นปุ่ม paining Mode กด ค้าง 5 วินาทีสำหรับการเชื่อมต่อไปยังสมาร์ทโฟน ปุ่มนี้ยังเป็นปุ่มเปิด/ปิด ตัวหูฟัง โดยการกดค้างที่ปุ่ม 3 วินาที

ปุ่ม Bass Control สำหรับเลื่อนปรับระดับเบสได้ตามต้องการ ระบบ Sensory Bass ที่จำลองการสั่นของเบสเหมือนมี Subwoofer อยู่ที่หู เสียงเบสแบบสัมผัสที่สมจริง สัมผัสกับเสียงเบสที่ทุ้มลึกและเป็นวงที่กว้างขึ้น ฟังเพลงมันส์กว่าเดิมหลายเท่า เล่นเกมส์ดูหนัง สมจริงกว่าเดิม

นอกจากนี้ เราสามารถดาว์นโหลดแอพพลิเคชั่น Skullcandy มาใช้กับตัวหูฟัง Crusher Evo และ Sesh Evo มีให้โหลดทั้งทาง Google Play และ App Store

Google Play

App Store

ในแอปฯ มีอีควอไลเซอร์ให้เลือก 3 แบบ Music , Podcast , Movie นอกจากนี้ยังมี Personal sound ที่ทำการปรับระดับเสียงให้เหมาะเฉพาะบุคคล เป็นการเพิ่มรายละเอียดในการฟังที่ชัดเจนกว่าเดิม

Screenshot 20220309-163111 Google-Play-Store

คุณภาพของเสียงถือว่าดีในระดับหนึ่งค่ะ เสียงเบสหนักหน่วงทำให้รู้สึกว่าเสียงในย่านอื่นดรอปลงไปหน่อย เสียงร้องเหมือนร้องอยู่ในระยะใกล้ๆ ฟังเพลงแนวฮาร์ดร็อค เดทเมทัล คือถูกจริตมาก ใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง รวมถึงชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้งานได้นานถึง 4 ชั่วโมงการออกแบบการให้สีเป็นการ Collab ที่ลงตัว ตัวนี้ยกให้เป็นอีกหูฟังที่ควรค่าแก่การมีไว้ในครอบครอง

Sesh Evo

Sesh Evo x Budweiser ทรูไวร์เลสแบบ Pea ที่คำนึงถึงสรีระช่องหูผู้ใช้งานด้วยการออกแบบให้โค้งรับกระชับช่องหู ทำให้สวมใส่ง่าย ใส่สบาย เบสแน่น มาพร้อม EQ Mode และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานมากกว่า 20 ชั่วโมงพร้อมกล่องชาร์จ เปิดราคามาเพียง 3,590บาท

อุปกรณ์ภายในกล่อง

หูฟัง Sesh Evo x Budweiser
เคสชาร์จ
จุกซิลิโคนสำหรับเปลี่ยนหูฟังอีก 2 ไซส์
สายชาร์จ USB Type-C
คู่มือการใช้งาน

หูฟังทรูไวเลสแบบ pea ทรงน้องถั่วขนาดกำลังดีใส่กระชับพอดีกับช่องหู มาในสีแดงโปร่งใส กับปุ่มกดขนาดใหญ่สีดำที่มีโลโก้หัวกระโหลกของ Skullcandy พร้อมชื่อรุ่นตัวเล็กๆ อยู่ ตัวจุกซิลิโคนถอดเปลี่ยนได้

ตัวเคสมีแดงดำ ตัวฝาสีแดงโป่รงแสงแบบตัวหูฟังสกรีนโลโก้ Budweiser สีขาว ด้านหน้ามีปุ่มกดและไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ ด้านหลังเป็นพอร์ตชาร์จ USB Type-C

Sesh Evo กันน้ำ กันเหงื่อ IP55 ใส่ออกกำลังกายหนักได้ ใส่วิ่งได้ไม่หลุดง่าย ตัวนี้ใส่กระชับกับช่องหูได้พอดี

แบตเตอรี่ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง ชาร์จกับเคสชาร์จได้ 3 รอบ แบตเตอรี่ใช้งานได้รวม 24 ชั่วโมง หากต้องการใช้ด่วน ชาร์จ 10 นาที ใช้งานได้ 2 ชั่วโมง พอใส่หูฟังกลับเข้าเคสชาร์จ ไฟด้านในก็สว่างแสดงให้เห็นว่ากำลังชาร์จตัวหูฟังอยู่

เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ โดยการกดค้างที่ตัวหูฟังด้านใดก็ได้ประมาณ 4 วินาที จนไฟ LED ด้านข้างของตัวหูฟังกระพริบเป็นสีแดงสลับฟ้า ใช้งานผ่าน Skullcandy App ฟังเพลง มี EQ Mode 3 Preset ฟังเพลง ดูหนัง พ็อดแคส เช่นเดียวกับตัว Crusher Evo

Auto Power On/Off เมื่อนำตัวหูฟังออกจากเคสพร้อมเชื่อมต่อให้อัตโนมัติ ใส่หูฟังพร้อมใช้งานได้ทันที ตัวนี้เป็นปุ่มกดนะคะ ไม่ใช่การสัมผัส ใช้ครั้งแรกยังงงๆ เอ๊ะ ทำไมแตะแล้วไม่ไป พออ่านคู่มือก็ถึงบางอ้อ.. = =” การใช้งานในฟังก์ชั่นต่างๆ สามารถทำได้ผ่านการกดจากตัวหูฟังเลย โดยไม่ต้องผ่านสมาร์ทโฟน

กดที่ตัวหูฟังข้างใดข้างหนึ่ง 1 ครั้ง เป็นการ ปิด/เปิด เพลง และ รับ/วาง สาย
กดค้าง 2 วินาที ข้างขวา เป็นการเลื่อนเพลงถัดไป
กดค้าง 2 วินาที ข้างซ้าย เป็นการกลับไปยังเพลงก่อนหน้านี้
กด 2 ครั้งด้านขวา เป็นการเพิ่มเสียง
กด 2 ครั้งด้านซ้าย เป็นการลดเสียง
กด 3 ครั้ง ด้านใดก็ได้ เป็นการเข้าสู่โหมดคำสั่งเสียง
กด 4 ครั้ง ด้านใดก็ได้ เข้าสู่โหมด EQ

ความใส่ใจเล็กๆ ของ Skullcandy กับโลโก้ที่แปะไปทั่ว ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมดีค่ะ

คุณภาพของเสียงหูฟัง เสียงกลาง เสียงแหลมอยู่ในระดับพอดี เสียงเบสหนักพอประมาณ เรียกว่าจูนเสียงมานัว ฟังเพลงแนวไหนก็ลื่นหู โดยรวมแล้วเสียงอยู่ในระดับที่ฟังได้กำลังดี เหมาะสำหรับคนชอบหูฟังที่ไม่เน้นอะไรเป็นพิเศษ ฟังได้ทุกแนวเพลง ก็ต้องเป็นตัวนี้เลยค่ะ

Limited Edition ทั้ง 4 รุ่นพร้อมให้คุณได้เป็นเจ้าของแล้วที่ Skullcandy Official Store ทั้ง Lazada และ Shopee, Mercular.com, Central, Munkong Gadget, Lotus’s, Powerbuy, Studio7, Banana IT, Million Head Pro, Soundproof Bros, Firster และร้าน Gadget Store ชั้นนำใกล้บ้านคุณ