The Computer and Communication Industry Association หรือ CCIA ที่มีสมาชิกเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Samsung, Google, eBay, Amazon, Microsoft, Facebook, Netflix, Intel และอื่นๆ อีกมากมายออกโรงยืนเคียงข้างปกป้อง Apple พร้อมสนับสนุนให้คณะกรรมาธิการการค้าระหว่าง ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ ITC คัดค้านการฟ้องสั่งแบนการนำเข้าสินค้า iPhone และ iPad บางรายการที่ใช้ชิปเซ็ตจาก Intel แทนของ Qualcomm โดยเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้ Qualcomm ได้เป็นโจทย์ในการยื่นฟ้องคดีความที่กล่าวหาว่าอุปกรณ์ของ Apple นั้นมีการละเมิดสิทธิบัติของ Qualcomm ด้วยกัน 6 ตัว ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพและการลดการใช้พลังงานแบตเตอร์รี่ในขณะชาร์จไฟ อันเป็นผลให้ Qualcomm ต้องมาแสดงจุดยืนด้วยการฟ้องร้องให้ Apple ห้ามนำ iPhone และ iPad บางโมเดลเข้ามาขายในสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้
ทั้งนี้ทาง CCIA ให้เหตุผลว่าการยกเลิกการอนุญาตให้ Apple นำเข้า iPhone และ iPad ที่ผลิตในต่างประเทศมาจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้จะส่งผลกระทบโดยรวมต่อตลาดการแข่งขันทางฝั่งเทคโนโลยีชิปเซ็ตที่ใช้งานในมือถือ โดยจะเอื้อประโยชน์ให้ Qualcomm สร้างตลาดแบบไร้คู่แข่งขึ้นมาได้โดยสมบูรณ์แบบ ซึ่งที่ผ่านมา Qualcomm เองก็เคยพยายามทำมาโดยตลอดอยู่แล้วกับคู่แข่งรายอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งหากครั้งนี้ ITC ยังอนุญาตให้ Qualcomm ถือไพ่เหนือนี้ได้อยู่อีก ทาง Qualcomm เองก็จะใช้อำนาจนี้ในการบีบ Apple ส่งผลให้ตัวเองสามารถขึ้นราคาค่าสินค้าที่ตนผลิตได้ อันเป็นผลให้ Apple เองก็ต้องขึ้นราคาสินค้าโดยรวม ซึ่งจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคโดยตรง
ITC ยังระบุอีกว่าการต่อสู้ในครั้งนี้มี “ราคาของ iPhone และมือถืออื่นๆ ที่อาจสามารถทำให้ถูกลงได้” เป็นเดิมพัน แต่ที่เหนือกว่านั้นคือหลักการแข่งขันการตลาดอย่างเปิดกว้างต่างหากที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในระบบเศรษฐกิจของอเมริกามาโดยตลอด ดังนั้น ณ ตอนนี้ ITC เองมีสิทธิ์เลือกว่าจะสนับสนุนพฤติกรรมการผูกขาดทางการค้านี้ หรือจะปฏิเสธสิ่งซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคเช่นนี้เลย
ถือเป็นเรื่องปกติที่เราจะได้เห็นข่าว Samsung กับ Apple ต่อสู้กันในชั้นศาลจนอาจไม่เป็นที่น่าตื่นเต้นสำหรับใครหลายๆ คนไปแล้ว แต่ครั้งนี้ต้องบอกว่าอาจเป็นหนึ่งในครั้งประวัติศาสตร์ที่เราได้เห็นตัวแทนจากบริษัทแดนกิมจิออกมาสนับสนุนผลไม้ยักษ์แบบนี้ ทั้งนี้หลายๆ คนตั้งข้อสงสัยว่าแท้จริงแล้วอาจเป็นเรื่องของผลประโยชน์ระยะยาวในวงการเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกาที่หากผลครั้งนี้จบลงที่ Qualcomm ชนะ Apple แล้ว ผลกำไรโดยรวมต่อมือถือหนึ่งเครื่องก็จะเสี่ยงลดน้อยถดถอยกันไปทั้งตลาด เพราะในยุคนี้คงไม่มีใครที่จะดุ่มๆ ขึ้นราคามือถือได้ นอกเสียจากจะตัดสินใจคงราคาเดิมแต่ยอมรับผลกำไรที่น้อยลงเองเท่านั้น
