Advertisement

Huawei ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนในซีรี่ย์ Mate 10 เมื่อวันก่อนออกมาหลายตัว โดยมีการชูจุดขายในเรื่องของ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่อยู่ในชิปเซ็ต Kirin 970 โดยมีการพูดถึงบ่อยมาก แม้ว่าเราจะยังไม่รู้ว่าเจ้า AI มันจะเข้ามาสร้างความแตกต่างให้ผลลัพท์ในการทำงานจริงลักษณะใดได้บ้าง

อย่างไรก็ตามเราก็สามารถดูสิ่งที่เปลี่ยนไปได้อย่างหนึ่งที่ค่อนข้างสังเกตได้ง่าย นั้นคือการถ่ายภาพ เพราะเมื่อเครื่อง Mate 10 และ 10 Pro มีการใช้กล้องคู่ Dual จาก Leica ซึ่งยังคงใช้เซ็นเซอร์ตัวเดียวกับ Mate 9 รุ่นเก่า แต่เปลี่ยนแปลงในส่วนของเลนส์ที่มาพร้อมกับรูรับแสงขนาด f / 1.6 และแอปกล้องถ่ายรูปที่ได้พัฒนาด้วยการใช้ NPU ใหม่ ที่อยู่ภายในชิป Kirin 970 โดยเจ้าระบบ AI จะเข้ามาช่วยระบุองค์ประกอบของสภาพแวดล้อมก่อนการถ่ายภาพได้ 14 ลักษณะ และจะทำการปรับค่าต่างๆ ของตัวกล้องเพื่อสร้างผลลัพท์ในแบบที่ตัว AI คิดว่ามันจะดีขึ้นให้เราโดยอัตโนมัติ

Advertisement

ซึ่งเราก็มาลองดูกันว่า ระหว่างเครื่องทาง Mate 9 รุ่นเก่า กับกล้องจาก Mate 10 Pro รุ่นใหม่ จะให้ผลลัพท์อะไรแตกต่างกันบ้าง และเพื่อนๆ ชอบแนวภาพจากกล้องตัวไหนมากกว่ากันครับ

แสงกลางวัน

ชุดภาพแรก เรามาเริ่มกับตัวอย่างภาพถ่ายในแสงกลางวัน ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ภาพจะมีความแข็งและแสงที่รุนแรงระหว่างส่วนสว่างและเงามืดมากที่สุด

บางท่านอาจจะชอบภาพแนวจาก Huawei Mate 10 Pro เพราะว่าดีกว่าด้วยรายละเอียดที่ชัดเจนเวลาก่อนการซูมภาพ ไม่ว่าจะเป็นหญ้าและใบของต้นไม้มีความชัดมากขึ้น แต่ความแตกต่างดังกล่าวเป็นผลจากการปรับภาพด้วยซอฟท์แวร์ และสำหรับบางภาพก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มความคมของวัตถุบนภาพมากเกินไปด้วยครับ

ภาพซูมจาก Mate 9  และ Mate 10 Pro

ในเรื่องของการให้สีนั้นค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ความคมชัดแตกต่างกันอย่างมากระหว่างสองอุปกรณ์ โดย Mate 9 มีการรักษาช่วงแสงได้ดีกว่า ในขณะที่ Mate 10 เพิ่มความคมชัดมากเกินไป จนในบางฉากจะเห็นได้ชัดว่าทำร้ายความละเอียดภาพไปมากเลยทีเดียว

แต่ข้อดีของการแต่งภาพแบบเพิ่มความคมของภาพก็คือ เราจะเห็นเส้นขอบของการแบ่งสีและวัตถุได้ชัดเจนครับ ซึ่งถ้าไม่ขยายรายละเอียดมาดูใกล้มากนัก ภาพจะมีความคมสวยงามโดยเฉพาะเมื่อยามอยู่บนหน้าจอแสดงผลเล็กๆ แต่ก็จะสูญเสียรายละเอียดไปด้วยเช่นกันในยามดูรายละเอียดใกล้ๆ

ซึ่ง Huawei Mate 10 Pro ใช้ลักษณะในการปรับภาพโดยการเพิ่มความคมให้ชัดเจน แต่ก็ดูจะเป็นรอง Mate 9 ในเรื่องของรายละเอียดในส่วนของที่สว่างและในเงาที่เสียไปด้วยเช่นกัน

ซ้าย Mate 9 ขวา Mate 10 Pro

มาดูภาพขนาดเต็มก่อนซูมในสภาพแสงตอนกลางวันจากกล้อง Mate 9 และ Mate 10 ด้านล่างกันครับ

Mate 9

Mate 10 Pro

ภาพจากช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

ช่วงยามเย็นเป็นช่วงที่แสงจะอบอุ่นและมีความละมุนในภาพค่อนข้างสูง แต่ด้วยแสงที่น้อยลง ส่งผลให้เลนส์ขนาด f1.6 ของ Mate 10 Pro เกิดประโยชน์ขึ้นมา นอยส์ของภาพดูจะมีน้อย และปัญหาเรื่อง dynamic range ของ Mate 10 Pro ก็ดูเหมือนจะหายไปและทำได้ดีในระดับเดียวกับ Mate 9 ในส่วน dynamic range

ซึ่งต้องบอกว่าสำหรับภาพก่อนซูม การเพิ่มความคมของภาพส่งผลให้ภาพโดยรวมดูโดดเด่นและสวยงามซึ่งเหมาะมากสำหรับการใช้งานบนหน้าจอเล็กๆ ของสมาร์ทโฟน Mate 10 Pro ปรับแต่งมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ภาพจาก Mate 9

ภาพจาก Mate 10 Pro

ซึ่งเราจะเห็นความต่างของการแต่งได้มากจากการซูมดูรายละเอียดครับ

ภาพจากช่วงที่แสงน้อยลง

มืดขึ้นมาอีกนิด ซึ่งฉากแสงน้อยน่าจะเป็นจุดที่เลนส์รูรับแสงกว้างของ Mate 10 Pro ควรสร้างความแตกต่างให้เราเห็น เพราะ Mate 10 Pro จะถ่ายภาพได้ที่ระดับ ISO ต่ำกว่า Mate 9 ส่งผลให้ภาพมันมีน้อยส์รบกวนน้อยลง รักษารายละเอียดได้ดีด้วยจุดได้เปรียบนี้

ภาพจาก Mate 9

ภาพจาก Mate 10 Pro

แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ภาพจาก Mate 10 รายละเอียดหายด้วยจากช่วงไดนามิกที่ต่ำกว่า ในที่มืดรายละเอียดไม่เห็น และในที่สว่างก็โอเวอร์มากเกินไป

ซ้าย Mate 9 ขวา Mate 10 Pro

ตัวอย่างภาพถ่ายในร่ม

เช่นเดียวกับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ภาพถ่ายภายในอาคารก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นับว่าแสงน้อยเกินจะถ่ายภาพได้งามๆ เช่นเดียวกัน ซึ่ง Mate 10 Pro จะได้เปรียบ Mate 9 เล็กน้อยในบางองค์ประกอบ เพราะภาพของมันถูกถ่ายที่่ค่า ISO ที่ต่ำกว่าได้ ด้วยรูรับแสงของกล้องที่ใหญ่กว่านั้นเองครับ

ภาพจาก Mate 9

ภาพจาก Mate 10 Pro

แต่แน่นอนเมื่อซูมภาพเข้าไปดู การแต่งภาพที่มากเกินไปเพื่อให้รูปออกมาสวยบนอุปกรณ์หน้าจอเล็กอย่างสมาร์ทโฟน ก๋ยังส่งผลเลวร้ายมากกับรายละเอียดของภาพในขนาดเต็มครับ

ตัวอย่างภาพ แบบ Monochrome
การไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์สีของ Mate ทั้งสองรุ่น ช่วยให้สามารถจับภาพทั้งในเวลากลางวันและที่แสงน้อยได้ที่ ISO ที่ต่ำ และสปีดชัตเตอร์ที่เร็ว จึงให้รายละเอียดของภาพที่ดีกว่าตัวอย่างภาพแบบสี RGB

Mate 10 Pro มีข้อได้เปรียบของรูรับแสงที่กว้างกว่าซึ่งเหมือนจะให้ผลลัพท์ที่ดีกว่าเฉพาะในที่แสงน้อยเท่านั้น เพราะผู้ทดสอบที่ทำการถ่ายภาพให้ข้อมูลว่าน่าเสียดายที่ Mate 10 Pro ไม่สามารถสร้างความประทับใจได้ในจุดนี้ และ Mate 9 ยังจับภาพออกมาได้ดีกว่า ไม่แน่ใจว่าสาเหตุจะมาจากเป็นการทดสอบจากเครื่องในช่วงยังไม่จำหน่ายจริงหรือมั้ย?

ภาพจาก Mate 9

ภาพจาก Mate 10 Pro

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait mode 

เป็นโหมดการถ่ายภาพที่อาศัยซอฟท์แวร์และความชอบส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เพราะมันปรับแต่งได้แตกต่างและตลอดเวลา ซึ่งเพื่อนๆ สามารถผลลัพท์ที่ตัวเองชอบได้จากภาพด้านล่างครับ

ซ้าย Mate 9 ขวา Mate 10 Pro


ก็ทิ้งสรุปไว้จากภาพชุดนี้ของ Huawei Mate 10 Pro เห็นได้ชัดว่ามันมีความต่างไปจากรุ่น Mate 9 ด้วยเลนส์ที่รูรับแสงกว้างว่าส่งผลให้รับแสงได้มากและทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของที่แสงน้อยดีขึ้น

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้รับจากการประมวลผลปรับแต่งแบบรุนแรงมากเกินไป ด้วยการเพิ่มความคมชัดและการเหลาขอบวัตถุให้ภาพมากเกินไป ส่งผลระดับเลวร้ายในรายละเอียดของภาพ ซึ่งหวังว่า Huawei จะลดการปรับแต่งลงบ้างในซอฟท์แวร์หลังการขายจริง


 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version