Advertisement

Apple ได้ว่าจ้างทีมวิศวกรชีวการแพทย์เพื่อร่วมกันพัฒนาเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจจับระดับกลูโคสโดยไม่รุกล้ำร่างกาย เพื่อนำมันไปใช้กับอุปกรณ์ Apple Watch ซึ่งนี่จะเป็นทางออกที่ทำให้อุปกรณ์สามารถตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างต่อเนื่องสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานได้ในอนาคต

แหล่งข่าวรายงานจาก CNBC เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีรายงานว่ากลุ่มวิศวกรรมชีวการแพทย์ของ Apple ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “super secret” ที่ก่อตั้งขึ้นจากความคิดริเริ่มของ Steve Jobs กำลังร่วมกันสร้างวิธีการตรวจสอบน้ำตาลกลูโคสในแบบที่ไม่ใช้วิธีรุกล้ำต่อร่างกายแบบการเจาะเลือด ซึ่งรายงานฉบับนี้กล่าวว่า Apple กำลังดำเนินการโครงการนี้อย่างน้อยๆ เป็นเวลาถึง 5 ปีเลยครับ

Advertisement

แต่ความต้องการที่จะวัดระดับน้ำตาลในเลือดโดยไม่ต้องเจาะเลือดนั้น ถือเป็นเป้าหมายความสำเร็จที่อาจจะได้มาอย่างยากลำบากทีเดียวครับ เพราะบริษัทขนาดใหญ่จำนวนมากก็เคยได้ทุ่มเทพยายามที่จะสร้างวิธีการที่คล้ายกันนี้มาก่อน แต่สุดท้ายยังไม่มีวิธีการใดที่จะประสบความสำเร็จ

แต่หากเป็น Apple อาจจะสามารถทำสิ่งที่คนอื่นล้มเหลวให้เป็นจริงขึ้นมาได้ครับ และมันจะไม่ใช่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท Apple และอุปกรณ์ Apple Watch เพียงเท่านั้น มันจะเป็นส่วนสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ที่ต้องการระมัดระวังสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย

หนึ่งในทีมวิจัยโรคเบาหวาน ซึ่งประจำการอยู่ในอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งในพาโลอัลโต้ ได้กล่าวว่า Apple พร้อมที่จะดำเนินการทดสอบในขั้นตอนสำคัญถ้าได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบจากทางรัฐบาลกลาง กระบวนการทดสอบจะเริ่มต้นที่คลินิกในบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก ซึ่งแหล่งข้อมูลอ้างว่าเทคโนโลยีของ Apple จะเกี่ยวข้องกับการใช้ “เซ็นเซอร์แสง” ที่สามารถตรวจวัดระดับกลูโคสในกระแสเลือดผ่านทางผิวหนังของผู้สวมใส่ และทีมวิศวกรรมที่ร่วมโครงการมีอยู่ประมาณ 30 คน แต่ตัวเลขดังกล่าวอาจมีการเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการและการจ้างงานที่เพิ่มเติมในช่วงหลังของ Apple เช่นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Apple ได้ว่าจ้าง Dr. Rajiv Kumar ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ซึ่งเคยทำงานให้กับ Stanford Children’s Health Kumar เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านตรวจสอบโรคเบาหวานเป็นต้น

นับตั้งแต่เปิดตัว HealthKit ในปีพ. ศ. 2557 แอปเปิลก็ได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น และนี่คือความพยายามที่ดีงามครั้งล่าสุดของ Apple ภายใต้การนำในยุคของ ทิม คุก ครับ

 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version