Advertisement

Samsung Galaxy tab S3 และ iPad Pro สองอุปกรณ์หน้าจอใหญ่ ที่รองรับกับการใช้งานร่วมกันกับปากกาบนระบบที่ต่างกันระหว่าง Android และ iOS ซึ่งถือว่าเป็นตัวที่น่าสนใจในการใช้งานด้านการขีดเขียนๆ ทั้งคู่ครับ แต่ความแตกต่างของสองอุปกรณ์นี้ไม่ได้มีแค่ในเรื่องของระบบเท่านั้นครับ แต่จะแตกต่างกันอีกหลายเรื่องมากทีเดียว ซึ่งงานนี้เราได้ความคิดเห็นจากทางคุณ Cherry Cola ผู้ที่เป็นเจ้าของผลงานวาดภาพบนอุปกรณ์แท็บเล็ตมามากมายหลายรุ่น ได้ให้ความคิดเห็นเอาไว้ค่อนข้างชัดเจนครับ

“โดยรวมแล้วประสิทธิภาพความไวในการตอบสนองและผลลัพท์ ในการใช้งานหลักๆ แทบไม่รู้สึกว่าต่างกัน ทั้งสองอุปกรณ์ให้ผลลัพท์ที่ออกมาดีมากๆ ออกมาได้ทั้งคู่ แต่จะเจอในด้านความแตกต่างของแนวการใช้งาน ด้วยมุมองศาของหัว Apple Pencil เอียงได้มากกว่า ทำให้งานวาดในแนวแรเงาทำได้สมจริงดั่งดินสอตามชื่อของมันมากกว่า ซึ่ง S-Pen ก็มีความเป็นปากกามากกว่าตามชื่อของมัน หัวแหลมเล็กมากกว่า Apple Pencil ซึ่งนอกจากนั้น ยังมีความแตกต่างที่พิจารณาได้อยู่อีกมากเช่นกัน เช่นเรื่องของรูปแบบการเชื่อมต่อ แบตเตอรี่ และราคา ทั้งสองพัฒนามาต่างเทคโนโลยีกันชัดเจน”

Advertisement

สำหรับอุปกรณ์ที่ทางคุณ Cherry Cola ทำการเทียบข้อแตกต่าง ก็ถือว่าเป็นสุดยอดของอุปกรณ์จากทั้งสองระบบในขณะนี้ครับ นั้นคือ Apple Pencil บน iPad Pro 10.5 ตัวใหม่ล่าสุด และ Samsung Galaxy Tab S3 ที่มาพร้อมกับปากกา S-Pen ซึ่งเราจะแยกข้อดีข้อด้อยของทั้งสองอุปกรณ์ดังนี้


ข้อดีหลักๆ ของ iPad Pro กับ Apple Pencil เมื่อเทียบกับ Galaxy TabS 3 กับปากกา S-Pen

  • องศาการเขียนดีกว่า– หัวปากกาเอียงเขียนได้มากกว่าชัดเจน ทำให้สามารถจับตัวดินสอได้หลายลักษณะ และสามารถทำงานแนวแรเงาได้ถนัดกว่า
  • แอพใช้งานหลากหลาย– แอพพลิเคชั่นชั้นนำสำหรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil บนระบบ iOS มีความหลากหลายให้เลือกนำมาใช้งานได้มากกว่า

ข้อด้อยหลักๆ ของ iPad Pro กับ Apple Pencil เมื่อเทียบกับ Galaxy TabS 3 กับปากกา S-Pen

  • หัวดินสอใหญ่กว่า– แม้มุมองศาของ Apple Pencil จะรองรับได้กว้างกว่า แต่ในเรื่องของความแหลมคมเล็กละเอียด S-Pen ทำหัวปากกาออกมาได้เล็กกว่า
  • แบตเตอรี่หมด– ตัว Apple Pencil ต้องชาร์จแบตเตอรี่ และแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 1-2 วันสำหรับการวาดแบบเต็มที่ ซึ่งปากกา S-Pen ไม่ต้องใช้พลังงานในตัวเอง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่บนตัว S-Pen เลย
  • ความเสถียรในการเชื่อมกับตัวแท็บเล็ตต่ำกว่า– ตัว Apple Pencil อาศัยการเชื่อมต่อกับ iPad Pro ด้วยสัญญาณบลูทูธ มันจึงมีเรื่องของการเชื่อมต่อเข้ามาเกี่ยวข้อง ในขณะที่ S-Pen ทำออกมารองรับกับหน้าจอของ Galaxy Tab S3 กันตั้งแต่ในขั้นฮาร์ดแวร์ จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการเชื่อมต่อเกิดขึ้นเลย
  • ราคาแพง– เรื่องของราคาไม่ใช่ราคาของตัวแท็บเล็ตแต่เป็นราคาของตัวปากกา ในขณะที่ Apple Pencil ต้องซื้อแยกกับตัว iPad Pro และขายอยู่ที่ 3,900 บาท แต่ของทาง S-Pen ให้มาฟรีภายในกล่องเลยไม่ต้องซื้อ รวมถึงแอพพลิเคชั่นบางตัวเช่น Sketchbook ซึ่งเป็นแอพวาดรูปที่โดดเด่นมากตัวหนึ่งของทั้งระบบ iOS และ Android ทาง Samsung แจกตัวเต็มให้ผู้ใช้เครื่องของเขาฟรี
  • ไม่มีปุ่มสำหรับใช้ฟังก์ชั่นบนตัวปากกา– Apple Pencil ถูกออกแบบเป็นแท่งดินสอเกลี้ยงๆ ที่ไม่มีปุ่มสั่งงานใดๆ เลยบนด้าม ซึ่งตรงข้ามกับ S-Pen ของทาง Samsung ที่จะมีปุ่มสั่งงานบนตัวด้าม เพื่อใช้เป็นคีย์ลัดในการใช้งานได้คล่องตัวกว่า
  • ฟังก์ชั่นยังน้อย– ใน iOS ตัวปัจจุบัน ฟังก์ชั่นสำหรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ยังถือว่าห่างกับ S-Pen ของ Samsung มาก ด้วยที่ Samsung พัฒนามานานกว่า ก็คงต้องรอ iOS 11 ที่ดูแล้วว่า Apple ใส่ฟังก์ชั่นใช้งานที่เหมาะกับ Pencil มากขึ้นอีกหลายอย่างเลย


ก็ดูแล้วความแตกต่างถือว่าไม่น้อยนะครับ ก็ทิ้งไว้ให้เป็นข้อมูลสำหรับการพิจารณาของผู้ที่ต้องการมองหาแท็บแล็ตรองรับปากกากัน
และ Appdisqus ขอฝากข้อสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้เรื่องของปากกา นั้นคือการพิจารณาจากตัวระบบและประโยชน์ด้านอื่นๆ ของเครื่องร่วมเอาไว้ด้วย เพราะเราน่าจะได้ใช้เครื่องในหลากหลายความสามารถเลยทีเดียวให้สมกับประสิทธิภาพของเครื่องทั้งสองตัวที่อยู่ในระดับสูงด้วยกันกันทั้งคู่ครับ

 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version