Advertisement

สิทธิบัตรใหม่ของ Apple เผยให้เห็นว่า iPhone จะมีระบบขับดันน้ำทิ้งได้เหมือนอุปกรณ์ Apple Watch Series 2

Apple Watch Series 2 นับเป็นอุปกรณ์รุ่นแรกที่มีความสามารถกันน้ำได้แบบเบ็ดเสร็จ เพราะ Apple ได้ใช้คุณลักษณะพิเศษในการปกป้องส่วนประกอบภายใน นั้นคือระบบขับน้ำที่ขังค้างออกจากตัวเครื่อง ด้วยการใช้ลำโพง ฃ

Advertisement

โดยจะใช้ลำโพงเพื่อส่งเสียงและใช้การสั่นที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยกันดันน้ำและสิ่งที่ตกค้างออกจากตัวเครื่อง มีประโยชน์มากเมื่อคุณใช้ Apple Watch ลงไปว่ายน้ำหรืออาบน้ำครับ และสิ่งนี้อาจมาถึงอุปกรณ์มือถืออย่าง iPhone ตามสิทธิบัตรใหม่ที่จดทะเบียนโดย Apple ตามที่ปรากฏออกมานั้นเอง

ระบบดีดน้ำของ Apple เดิมทีสิทธิบัตรนี้ถูกยื่นโดย Apple ตั้งแต่ในปี 2019 แต่วันนี้มันได้รับการเผยแพร่ออกมาจากสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา ทำให้เราได้รู้กันถึงข้อมูลระบบระบายน้ำที่จะติดตั้งไว้ใน iPhone

มันทำงานคล้ายกับเทคโนโลยีที่พบใน Apple Watch Series 2 แต่ใหม่กว่า โดยยังอาศัยการใช้ลำโพงและเคลือบสารกันน้ำลงในโมดูลเซ็นเซอร์ทำให้ iPhone กันน้ำได้ดียิ่งขึ้นและป้องกันไม่ให้เสียงจากลำโพงเกิดความผิดพลาดหลังจากของเหลวไหลเข้าไปอุดช่องลำโพง

ตามคำอธิบายสิทธิบัตรนี้จะสามารถขับไล่ของเหลวได้ทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม มันยังสามารถตรวจจับผลึกเกลือที่หลงเหลือจากการสัมผัสน้ำเค็มที่จะมาเกาะบนตาข่ายกั้นได้อีกด้วย

ยกตัวอย่างว่า “เมื่อ iPhone สัมผัสกับน้ำเค็มเช่นระหว่างการเล่นกระดานโต้คลื่น ผลึกของน้ำเค็มอาจตกค้างบนตาข่ายกั้นด้านในเมื่อของเหลวที่เป็นรน้ำเค็มระเหยออกไปจนหมด ทิ้งไว้แต่คราบเกลือที่จะทำร้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในของ iPhone ได้ ดังนั้นไดอะแฟรมด้านในของระบบป้องกันน้ำจะถูกกระตุ้นเพื่อขจัดผลึกน้ำเค็มออกไป ไม่ให้เกิดการสะสมทิ้งค้างไว้จนเร็ดลอดเข้าไปสู่ภายในเครื่องได้ครับ”

อย่างไรก็ตามเรายังไม่พบแผนที่ Apple จะรวมคุณสมบัติดังกล่าวมาอยู่ใน iPhone สำหรับปีนี้ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ไว้ว่า Apple จะยื่นจดสิทธิบัตรหลายร้อยรายการในทุกๆ ปี และไม่ใช่ทั้งหมดที่จะถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์จริงนะครับ มันอาจจะเป็นแนวคิดที่แค่คิดไว้ แล้ว Apple ก็โยนทิ้งไปโดยไม่เอามาใช้ก็เป็นได้ครับ

 

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version